The journey to your best self is not a race but a beautifully paced evolution.
โปรแกรมปากกาลดน้ำหนัก ไขความลับสู่รูปร่างใหม่
การควบคุมน้ำหนักไม่ใช่เรื่องของการอดอาหารหรือการหักโหมออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้างสมดุลใหม่ให้ร่างกายและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างยั่งยืน D’ Lovevery Clinic เข้าใจในความท้าทายนี้ จึงมีโปรแกรม D’ RESIZE Ozempic ปากกาลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการบริหารจัดการน้ำหนักภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โปรแกรมนี้ไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายรูปร่างและสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างปลอดภัยและเป็นระบบ
กลไกการทำงานของโปรแกรมปากกาลดน้ำหนัก
หัวใจสำคัญของโปรแกรมนี้คือการทำงานเลียนแบบฮอร์โมนธรรมชาติในร่างกายที่มีชื่อว่า GLP-1 ซึ่งปกติจะหลั่งออกมาจากลำไส้หลังรับประทานอาหาร ตัวยาจะเข้าไปทำงานใน 3 กลไกหลักที่ส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักโดยตรง

- ส่งสัญญาณสู่สมองส่วนกลาง ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและควบคุมความอยากอาหารได้ดีกว่าเดิม ลดความรู้สึกอยากอาหารหรือของหวานจุบจิบ
- ชะลอการเคลื่อนที่ของอาหารในกระเพาะ ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น คุณจึงรู้สึกอิ่มได้ยาวนานตลอดวัน ไม่รู้สึกหิวบ่อย
- กระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำหนักตัว
ด้วยกลไกเหล่านี้ โปรแกรมปากกาลดน้ำหนักจึงเป็นแนวทางที่ช่วยปรับพฤติกรรมการกินของคุณจากต้นตอ ทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างธรรมชาติและไม่ทรมาน

ข้อดีและข้อควรพิจารณา
ข้อดีของโปรแกรม
- ประสิทธิภาพสูง มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับว่าสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้ร่วมกับการปรับพฤติกรรม
- สะดวกสบาย รูปแบบที่ฉีดสัปดาห์ละครั้งช่วยให้การใช้งานเป็นเรื่องง่าย ไม่รบกวนชีวิตประจำวัน
- ไม่ใช่ยากดประสาท ปลอดภัยสูง ไม่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ไม่ทำให้ใจสั่นหรือนอนไม่หลับ
- ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ การลดน้ำหนักที่เหมาะสมยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด
ข้อควรพิจารณา
- เป็นการรักษาที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
- อาจพบผลข้างเคียงในช่วงแรก เช่น คลื่นไส้ ซึ่งส่วนใหญ่จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อร่างกายปรับตัว
- ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตควบคู่ไปด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืน
- มีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม

โปรแกรมนี้เหมาะกับใคร
pie title สัดส่วนประโยชน์ของ Ozempic "โรคเบาหวานชนิดที่ 2" : 35 "ภาวะไตวายในผู้ป่วยเบาหวาน" : 25 "การลดน้ำหนักในผู้ที่มีภาวะอ้วน" : 40
อ้างอิงคนไข้ของดีเลิฟเวอรี่คลินิก ตั้งแต่ปี 2023-2025

โปรแกรมนี้ไม่เหมาะกับใครบ้าง
เพื่อความปลอดภัยสูงสุด โปรแกรมปากกาลดน้ำหนักอาจไม่เหมาะกับบุคคลในกลุ่มต่อไปนี้
- สตรีมีครรภ์ วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติส่วนตัวหรือคนในครอบครัวเป็นมะเร็งไทรอยด์ชนิด Medullary
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคกลุ่มเนื้องอกของต่อมไร้ท่อชนิดที่ 2 (MEN 2)
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ตัวยา Semaglutide หรือส่วนประกอบอื่นๆ ในตัวยา
- ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน
- ผู้ป่วยโรคไตหรือโรคตับขั้นรุนแรง
- ผู้ที่มีภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้า (Gastroparesis)

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
การเตรียมตัวเป็นเรื่องง่ายและไม่ซับซ้อน เพียงเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อพูดคุยถึงเป้าหมายด้านน้ำหนักและสุขภาพโดยรวม พร้อมแจ้งข้อมูลสำคัญเหล่านี้
- ประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว และยาที่รับประทานเป็นประจำทั้งหมด
- ประวัติการแพ้ยาหรืออาหารเสริมทุกชนิด
- ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
แพทย์จะทำการประเมินและพิจารณาว่าคุณเหมาะสมกับโปรแกรมนี้หรือไม่ พร้อมทั้งให้คำแนะนำอย่างละเอียด
ขนาดยา | การใช้งาน |
---|---|
0.25 mg | เริ่มต้นใช้ใน 4 สัปดาห์แรก (เพื่อให้ร่างกายปรับตัว) |
0.5 mg | ขนาดพื้นฐานสำหรับควบคุมระดับน้ำตาล |
1.0 mg | เพิ่มขนาดเมื่อควบคุมระดับน้ำตาลไม่เพียงพอ |
1.34 mg | ขนาดสูงสุดในบางกรณี (เช่น ต้องการลดน้ำหนักมากขึ้น) |
สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สิ่งที่ส่งเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น
- ปรับการกินอย่างใส่ใจ เน้นอาหารที่มีโปรตีนและไฟเบอร์สูง ลดของทอด ของมัน และน้ำตาล
- ขยับร่างกายสม่ำเสมอ หาเวลาออกกำลังกายตามความเหมาะสมเพื่อช่วยเผาผลาญไขมันและสร้างกล้ามเนื้อ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีและลดผลข้างเคียงบางอย่างได้
- นอนหลับให้มีคุณภาพ การพักผ่อนที่เพียงพอสำคัญต่อระบบเผาผลาญและการควบคุมฮอร์โมน
สิ่งที่ไม่ควรทำระหว่างรับบริการ
- ห้ามอดอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ครบมื้อในปริมาณที่เหมาะสม การอดอาหารจะทำให้ระบบเผาผลาญพัง
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้พลังงานสูงและอาจรบกวนการทำงานของยา
- อย่าหยุดยาหรือปรับยาเอง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- อย่าเปรียบเทียบผลลัพธ์กับคนอื่น ร่างกายของแต่ละคนตอบสนองแตกต่างกัน ควรโฟกัสที่เป้าหมายของตัวเอง
ปากกาคุมหิว ลดน้ำหนักใช้งานยากหรือง่าย

การดูแลตัวเองหลังรับบริการ
- ปฏิบัติตามแผนการรักษาและตารางการฉีดยาที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ
- สังเกตอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้ ท้องผูก หรือท้องเสีย หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรบกวนการใช้ชีวิตควรปรึกษาแพทย์
- เข้าพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อติดตามผลและปรับแผนการรักษาอย่างต่อเนื่อง
การเก็บรักษา
- ปากกาที่ยังไม่เปิดใช้ ควรเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ห้ามเก็บในช่องแช่แข็งเด็ดขาด
- ปากกาที่เปิดใช้แล้ว สามารถเก็บที่อุณหภูมิห้อง (ไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส) หรือเก็บในตู้เย็นได้นานสูงสุด 56 วัน หลังจากนั้นควรทิ้งแม้ว่ายาจะยังเหลืออยู่ก็ตาม
- ควรเก็บให้พ้นจากแสงแดดและความร้อน
ฉีดทุกวันกับสัปดาห์ละครั้ง แบบไหนดีกว่า
คำถามนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของตัวยาที่แพทย์เลือกใช้ โปรแกรมปากกาลดน้ำหนักบางชนิดเช่น Liraglutide ถูกออกแบบมาให้ออกฤทธิ์สั้น จึงจำเป็นต้องฉีดทุกวัน ในขณะที่โปรแกรม Semaglutide ที่ D’ Lovevery Clinic เลือกใช้ ถูกพัฒนาให้ออกฤทธิ์ได้ยาวนาน จึงฉีดเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้งก็เพียงพอ ซึ่งให้ความสะดวกสบายและง่ายต่อการปฏิบัติตามแผนการรักษามากกว่า โดยประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ดังนั้น “ดีกว่า” ในบริบทนี้คือความสม่ำเสมอในการรักษาตามชนิดของยาที่ได้รับ
xychart-beta title "Semaglutide Tirzepatide และ GLP-1" x-axis [Mounjaro, Wegovy, Ozempic, Saxenda] y-axis "ระดับประสิทธิภาพ" 0 --> 5 bar [4, 3, 2, 1]
กลไกการออกฤทธิ์ | ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก | ความถี่ในการใช้ | จุดเด่นและข้อพิจารณา |
---|---|---|---|
Mounjaro (Tirzepatide) ออกฤทธิ์เป็น Dual Agonist ต่อ GLP-1 และ GIP Receptor | สูงที่สุด – แสดงผลลัพธ์การลดน้ำหนักที่โดดเด่นและมีนัยสำคัญจากการศึกษาทางคลินิก | สัปดาห์ละ 1 ครั้ง | มีกลไกออกฤทธิ์คู่ ช่วยลดความอยากอาหาร เพิ่มความรู้สึกอิ่ม และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มักใช้สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การลดน้ำหนักสูงสุด |
Wegovy (Semaglutide) ออกฤทธิ์เป็น GLP-1 Receptor Agonist ในขนาดที่สูงขึ้น | สูงมาก – ออกแบบมาเพื่อการลดน้ำหนักโดยเฉพาะและได้รับการอนุมัติสำหรับการจัดการน้ำหนักเรื้อรัง | สัปดาห์ละ 1 ครั้ง | เป็นยาแรกที่ได้รับการอนุมัติในหลายประเทศสำหรับการจัดการน้ำหนักเรื้อรังในผู้ที่ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน |
Ozempic (Semaglutide) ออกฤทธิ์เป็น GLP-1 Receptor Agonist | สูง – มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี | สัปดาห์ละ 1 ครั้ง | ได้รับการอนุมัติหลักเพื่อการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 โดยมีผลช่วยลดน้ำหนักควบคู่กัน |
Saxenda (Liraglutide) ออกฤทธิ์เป็น GLP-1 Receptor Agonist | ปานกลาง – มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักในระดับที่ยอมรับได้ | วันละ 1 ครั้ง | มีประสบการณ์การใช้งานยาวนานในตลาด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นด้วยขนาดยาที่ค่อยๆ ปรับขึ้นเพื่อลดผลข้างเคียง และมีความถี่ในการฉีดที่แตกต่างจากยาอื่นในกลุ่ม |
ตัวอย่างกราฟการลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและสมเหตุผล
การลดน้ำหนักที่ยั่งยืนและปลอดภัยควรเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ หรือ 2-4 กิโลกรัมต่อเดือน การลดลงอย่างช้าๆ แต่สม่ำเสมอจะช่วยป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพและลดโอกาสเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ได้ดีที่สุด แผนภาพด้านล่างแสดงเป้าหมายการลดน้ำหนักที่เป็นไปได้ในระยะเวลา 3 เดือน
timeline title เป้าหมายการลดน้ำหนัก 3 เดือน section เดือนที่ 1 ลด 2-4 กก. section เดือนที่ 2 ลด 2-4 กก. section เดือนที่ 3 ลด 2-4 กก.
การออกกำลังกาย คุมอาหาร และทำตามคำแนะนำของแพทย์ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น
การออกกำลังกายควบคู่ สู่เป้าหมายลดน้ำหนัก สุขภาพดี

ประเภทการออกกำลังกาย | การคุมหิว | การลดน้ำหนัก |
---|---|---|
การฝึกแบบ HIIT (High-Intensity Interval Training) | สูง (ช่วยลดฮอร์โมนความหิวและเพิ่มฮอร์โมนอิ่มหลังออกกำลังกาย) | สูง (เผาผลาญแคลอรีสูงและเกิดภาวะ EPOC ช่วยเผาผลาญต่อเนื่อง) |
การฝึกความแข็งแรง (Strength Training) | ปานกลาง (สร้างกล้ามเนื้อช่วยเพิ่มการเผาผลาญระยะยาว) | สูง (เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้นแม้ขณะพัก) |
คาร์ดิโอความหนักปานกลาง (Moderate Intensity Cardio) | ปานกลาง (ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความอยากอาหาร) | สูง (เผาผลาญแคลอรีได้ดีอย่างต่อเนื่อง) |
โยคะ/พิลาทิส (Yoga/Pilates) | ปานกลาง (ลดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการกินมากเกินไป) | ต่ำ (เผาผลาญแคลอรีน้อยกว่าประเภทอื่น แต่เสริมสร้างความยืดหยุ่น) |
การเดิน (Walking) | ปานกลาง (ช่วยจัดการระดับน้ำตาลและลดความอยากของหวาน) | ปานกลาง (เผาผลาญแคลอรีได้ดีหากทำเป็นประจำและสม่ำเสมอ) |
ข้อควรรู้ก่อนรับบริการโปรแกรม Ozempic
ข้อควรรู้ | คำอธิบาย |
---|---|
ฉีดเองได้ไหม | ได้แน่นอน ที่คลินิกมีเจ้าหน้าที่และแพทย์ผู้ชำนาญสอนวิธีฉีดด้วยตัวเองอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ซึ่งทำได้ง่าย ไม่เจ็บ และสะดวก |
เจ็บไหม | เข็มที่ใช้มีขนาดเล็กมาก ความรู้สึกเหมือนมดกัดเพียงเล็กน้อย ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ยืนยันว่าไม่เจ็บอย่างที่คิด |
ลืมฉีดทำยังไง | หากลืมฉีดในวันที่กำหนด แต่ยังไม่เกิน 5 วัน สามารถฉีดได้ทันทีที่นึกขึ้นได้ แล้วกลับไปฉีดวันเดิมในสัปดาห์ถัดไป แต่หากเกิน 5 วันแล้ว ให้ข้ามโดสนั้นไปเลยและรอฉีดในวันกำหนดถัดไป ห้ามฉีด 2 โดสพร้อมกันเด็ดขาด |
ต้องอายุเท่าไหร่ | โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์ |
กินอาหารเสริมหรือฮอร์โมนไปด้วยได้ไหม | โดยทั่วไปสามารถทำได้ แต่จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบถึงอาหารเสริม ยา และฮอร์โมนทุกชนิดที่คุณรับประทานอยู่ เพื่อให้แพทย์ประเมินและให้คำแนะนำที่ถูกต้อง |
มาฉีดกับหมอที่คลินิกได้ไหม | ได้แน่นอน หากคุณไม่สะดวกใจที่จะฉีดด้วยตัวเอง สามารถนัดหมายเพื่อเข้ามาให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทำการฉีดให้ที่คลินิกได้ทุกสัปดาห์ |
โปรแกรมปากกาคุมหิว Ozempic ราคาเท่าไหร่
OZEMPIC 0.5 MG เหมาะกับคนที่ใช้ครั้งแรก
- 1 ชุด 17,000.- (ใช้ได้ 1 เดือน)
- 2 ชุด 30,000.-
- 3 ชุด 39,000.-
OZEMPIC 1 MG
- 1 ชุด 19,000.- (ใช้ได้ 1 เดือน)
- 2 ชุด 34,000.-
- 3 ชุด 45,000.-

เลือกความมั่นใจ เลือก D’ Lovevery Clinic
- เป็นส่วนตัวและใส่ใจ ไม่ต้องรอนาน ไม่แออัด แพทย์ให้คำปรึกษาแบบ case-by-case ละเอียด ไม่เร่งรีบ
- สบายใจไม่มีแรงกดดัน ไม่มีเซลส์คอยปิดการขาย ไม่มีการบังคับซื้อคอร์ส
- จ่ายสบายเลือกได้ มีระบบมัดจำ แบ่งจ่ายได้ มี Shopee PayLater และผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิต
- ดูแลต่อเนื่องโดยแพทย์คนเดิม ติดตามผลกับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยตรง
- รีวิวจริงจากลูกค้าจริง รวมรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ไม่ใช่ดาราหรือ Influencer
- แพทย์ประสบการณ์สูงตรวจสอบได้
- คลินิกมาตรฐาน เดินทางสะดวก คลินิกผ่านการรับรอง มีที่จอดรถฟรี
- โปร่งใสและตรวจสอบได้ ข้อมูลรวดเร็ว เช็คคอร์สคงเหลือได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ทุกตัวผ่าน อย. ไทยและตรวจสอบได้

เริ่มต้นเส้นทางสู่รูปร่างและสุขภาพที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนโปรแกรมปากกาลดน้ำหนักที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะได้แล้ววันนี้
D’ Lovevery Clinic
- สาขาพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง โทร 064-424-6526
- สาขา Crystal Design Center (CDC) โทร 095-236-4546


คำนวณ BMI เพื่อนำข้อมูลปรึกษาแพทย์
เกณฑ์ค่า BMI สำหรับคนไทย (WHO – Asia Pacific)
BMI (kg/m²) | เกณฑ์ | ความเสี่ยง |
---|---|---|
น้อยกว่า 18.50 | น้ำหนักน้อย / ผอม | มากกว่าคนปกติ |
18.50 – 22.90 | ปกติ (สุขภาพดี) | เท่าคนปกติ |
23.00 – 24.90 | ท้วม / โรคอ้วนระดับ 1 | อันตรายระดับ 1 |
25.00 – 29.90 | อ้วน / โรคอ้วนระดับ 2 | อันตรายระดับ 2 |
มากกว่า 30.00 | อ้วนมาก / โรคอ้วนระดับ 3 | อันตรายระดับ 3 |
มีคนไทยเป็นกันเยอะเลยค่ะ ทั้งที่รู้ตัวและก็ไม่รู้ตัว Binge Eating Disorder สามารถรักษาให้ดีขึ้นและควบคุมได้ค่ะ โดยหัวใจสำคัญคือ การทำจิตบำบัด โดยเฉพาะแบบ CBT เพื่อปรับความคิดและพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ ควบคู่ไปกับ การวางแผนโภชนาการ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับอาหารและเลิกอดมื้อกินมื้อ ในบางกรณีแพทย์อาจพิจารณา ใช้ยาร่วมด้วย เพื่อลดความอยากอาหารที่ผิดปกติ และที่ขาดไม่ได้คือ การดูแลตัวเอง เช่น จัดการความเครียดและนอนให้พอ เพื่อลดปัจจัยกระตุ้นค่ะ
ผลข้างเคียงจากปากกาลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่พบได้ และส่วนใหญ่ไม่รุนแรง สามารถรับมือได้ด้วย การปรับพฤติกรรมการกินโดยแบ่งเป็นมื้อย่อย เลี่ยงของมัน, การพักผ่อนให้เพียงพอ และการฉีดยาให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ ที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามปรับขนาดยาเอง และควรเริ่มต้นจากขนาดต่ำสุดตามแพทย์สั่ง หากมีอาการรุนแรง เช่น ปวดท้องมาก หรืออาเจียนไม่หยุด ควรรีบพบแพทย์ทันที ค่ะ
ให้คนไข้เข้าใจง่าย ๆ คือ ปากกาลดน้ำหนักถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและปลอดภัยสำหรับการฉีดด้วยตัวเองที่บ้าน คล้ายกับปากกาฉีดอินซูลินที่เราคุ้นเคยกันดีค่ะ เพราะเป็นเพียงการ ฉีดเข้าที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งทำได้ไม่ยากและมีความเสี่ยงต่ำ ไม่เหมือนการฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือเส้นเลือด เหมือนพวกวัคซีนต่างๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องปฏิบัติก็คือ การใช้ปากกาลดน้ำหนักต้องอยู่ภายใต้การดูแลและสั่งจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น คือต้องพบหมอ ตรวจสุขภาพเบื้องต้น ประเมินความเสี่ยงก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสม, กำหนดขนาดยาที่ถูกต้อง, สอนวิธีฉีดครั้งแรก และติดตามผลข้างเคียงอย่างใกล้ชิดค่ะ แต่หากเป็นกังวลจะมารับบริการที่คลินิกเป็นรายสัปดาห์ก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
การที่พุงใหญ่และแข็งขึ้นเรื่อยๆ เป็นสัญญาณอันตราย ไม่ใช่เรื่องปกติ ค่ะ เพราะมันคือ “ไขมันในช่องท้อง” ที่กำลังสะสมและเกาะอยู่ตามอวัยวะภายใน ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, เบาหวาน, และไขมันพอกตับ การปล่อยทิ้งไว้เปรียบเสมือนการเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้น จึงควรพบแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาอย่างเร่งด่วนค่ะ หรือพุงใครเป็นแบบอื่น ลองเช็คข้อมูลในตารางด้านล่างดูได้เลยนะคะ
ถ้าเป้าหมายคนไข้คือต้องการลดน้ำหนักจริงจัง ไม่มีโรคแทรกซ้อน ข้อเข่าเสื่อมอะไรพวกนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่เข้ากันมากค่ะ
การทำ IF, ออกกำลังกาย, และใช้ปากกาลดน้ำหนักไปพร้อมกัน สามารถทำได้และช่วยเสริมประสิทธิภาพการลดน้ำหนักได้ดีมาก ค่ะ เพราะปากกาจะช่วยให้การทำ IF ไม่ทรมาน ทำให้ควบคุมความหิวได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องทานอาหารให้มีคุณภาพและเพียงพอในช่วงเวลาที่กิน (Feeding) เพื่อให้มีพลังงานไปใช้ในการออกกำลังกาย และ ต้องไม่หักโหมออกกำลังกายหนักๆ ในช่วงท้องว่าง ที่สำคัญที่สุดคือควรปรึกษาและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อปรับยาและวางแผนโภชนาการให้เหมาะสมกับร่างกายของคนไข้แต่ละคนค่ะ
คนที่มีหุ่นแบบ Skinny Fat หรือคนผอมมีพุง สามารถใช้ปากกาลดน้ำหนักเพื่อช่วยลดไขมันหน้าท้องได้ค่ะ เพราะยาจะช่วยให้รู้สึกอิ่มไวและทานน้อยลง ทำให้ร่างกายดึงไขมันสะสมรวมถึงที่พุงมาใช้เป็นพลังงาน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ปากกาลดน้ำหนักไม่ใช่คำตอบสุดท้าย คนไข้ ต้องออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และ ทานอาหารที่มีโปรตีนสูงควบคู่กันไป เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจริง ๆ คือภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย ซึ่งจะทำให้หุ่นเฟิร์มกระชับและสุขภาพดีอย่างยั่งยืน และที่ขาดไม่ได้คือ ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ยาทุกครั้ง ค่ะ
การลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาวคือ การลดประมาณ 2-5 กิโลกรัมต่อเดือน ค่ะ เพราะการลดที่เร็วกว่านี้มักจะเป็นการสูญเสียน้ำและมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของ “ภาวะโยโย่” ที่ทำให้น้ำหนักกลับมาเด้งสูงกว่าเดิม รวมถึงยังทำให้ร่างกายโทรมและผิวพรรณไม่สดใสอีกด้วย ดังนั้นเป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่การเห็นตัวเลขลดลงเร็วๆ แต่คือ การลดไขมันส่วนเกินอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้รูปร่างที่สวยกระชับและสุขภาพดีอย่างแท้จริงค่ะ
IF หรือ Intermittent Fasting ที่สาวๆ หลายคนฮิตกัน จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องใหม่เลยค่ะ มันคือการกำหนด “ช่วงเวลาอด” กับ “ช่วงเวลากิน” ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้ร่างกายได้พักและซ่อมแซมตัวเอง เหมือนให้เวลาเซลล์ผิวเราได้ทำสปานั่นเองค่ะ หลักการง่ายๆ คือ แทนที่จะกินจุกจิกทั้งวัน เราจะรวบมื้ออาหารมาอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น กินแค่ 8 ชั่วโมง และอด 16 ชั่วโมง (สูตร 16:8 ยอดฮิต) ประโยชน์ที่ได้ไม่ใช่แค่เรื่องน้ำหนักนะคะ แต่ยังช่วยให้ “ฮอร์โมน” ในร่างกายสมดุลขึ้น โดยเฉพาะอินซูลินที่ควบคุมน้ำตาล พออินซูลินนิ่ง ผิวก็อักเสบน้อยลง สิวไม่ค่อยมา แถมยังกระตุ้น “Growth Hormone” หรือฮอร์โมนแห่งความอ่อนเยาว์ ให้ทำงานดีขึ้นด้วย ผลที่ได้คือผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง และดูเด็กกว่าวัยค่ะ
การทำ IF ให้ได้ผลดีที่สุด ไม่ใช่การหักโหมอดนะคะ แต่คือ “ความสม่ำเสมอ” และ “การเลือกกิน” ในช่วงที่เรากินได้ค่ะ หมอแนะนำให้เริ่มง่ายๆ ที่ 2-3 วันต่อสัปดาห์ก่อน ให้ร่างกายได้ปรับตัว แล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนวันเมื่อรู้สึกโอเค ที่สำคัญคือช่วงกิน (Feeding Window) ต้องไม่ใช่การ “กินล้างแค้น” นะคะ! เราต้องเลือกทานอาหารดีๆ มีประโยชน์ เน้นโปรตีนดี ผักใบเขียว และไขมันดี เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารไปซ่อมแซมส่วนต่างๆ ได้เต็มที่ ลองนึกภาพตามว่าเราอดเพื่อให้ร่างกายได้รีเซ็ต แล้วเราก็เติมเชื้อเพลิงคุณภาพดีเข้าไปใหม่ แค่นี้เครื่องยนต์ของเรา (หรือผิวสวยๆ ของเรา) ก็จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เผาผลาญดีขึ้น ผิวสวยขึ้นจากภายในสู่ภายนอก แบบไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์เลยล่ะค่ะ