ฝ้าเป็นภาวะผิวหนังที่เกิดจากการกระจายตัวของเม็ดสีที่มากเกินไป ทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำบนใบหน้า ฝ้ามีหลายประเภท และการรักษาให้ได้ผลดีนั้นต้องพิจารณาตามประเภทของฝ้า
ฝ้าเป็นภาวะผิวหนังที่เกิดจากการกระจายตัวของเม็ดสีที่มากเกินไป ทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำบนใบหน้า การรักษาฝ้าให้ได้ผลดีนั้นต้องใช้เวลาและความอดทน เนื่องจากเม็ดสีที่สะสมอยู่จะค่อยๆ จางลงทีละเล็กละน้อย
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาใดที่สามารถกำจัดฝ้าได้แบบครั้งเดียวหายถาวร การรักษาปัจจุบันสามารถช่วยให้ฝ้าจางลงได้ และต้องทำควบคู่กับการป้องกันไม่ให้ฝ้ากลับมาได้อีก
ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน เพื่อป้องกันผิวจากรังสี UV หมั่นสังเกตใบหน้าตัวเอง ใช้ทรีทเมนท์หน้า บำรุงหน้า เพื่อไม่ให้เม็ดสีก่อตัวเป็นกลุ่ม หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาทางป้องกัน
ฝ้าจางลงทีละนิด จะให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวได้มากกว่า ฝ้าไม่กลับมาเร็ว



ตำแหน่งที่พบเม็ดสีผิวปกติได้มากที่สุด
ตำแหน่งที่พบฝ้ามากที่สุดจากการตรวจคนไข้มานานกว่า 10 ปี
- ใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม สันจมูก หน้าผาก และคาง เรียงจากมากไปน้อย
- คอ พบได้มากในคนที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป


เม็ดสีเข้มที่เราเห็นบริเวณอื่น เรียกว่า Age Spot พบได้มากเมื่ออายุมากขึ้น
- แขน พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
- มือ พบน้อยได้บ่อยเช่นกัน


เมโสเพื่อลดฝ้ากระเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ช่วยให้ผิวหน้าผ่อนคลายแข็งแรง ปรับสีผิวหมองคล้ำ ลดเลือนฝ้ากระและจุดด่างดำอย่างปลอดภัยและดูสุขภาพดี เมโสเป็นการแก้ปัญาผิวหน้าเฉพาะจุด โดยซึมเข้าสู่ผิวชั้นกลางเพื่อเสริมสร้างคอลลาเจน ลดการเกิดเม็ดสี ลดเลือนฝ้ากระ ปรับสภาพผิวหน้าให้ขาวใส ช่วยให้ฝ้าจางลงได้


เมโสฝ้ากระช่วยลดเลือนจุดด่างดำ โดยการให้ตัวยาเข้าสู่ผิวโดยตรงซึมเข้าสู่ผิวทันที และควบคุมการทำงานของเซลล์เม็ดสีเพื่อลดการเกิดเม็ดสีที่เป็นจุดด่างดำ และรอยฝ้ากระจางลงได้

ดีเมลาสม่า ลดฝ้าทำงานอย่างไร
เมโสลดฝ้า (D’ Melasma) เป็นโปรแกรมของทางคลินิก รักษาฝ้าโดยการให้ตัวยาเข้าไปในชั้นหนังแท้ใต้ผิวหนัง โดยสารออกฤทธิ์ที่มีส่วนผสม ได้แก่
อัลฟาอาร์บูติน 2% (Alpha Arbutin)
อาบูตินบริสุทธิ์ เข้มข้นลดเลือนฝ้ารอยแดง และรอยดำ

กลูต้าไธโอน (GSH)
เผยผิวกระจ่างใส เป็นสารต้านอนมูลอิสระ ประสิทธิภาพสูง

วิตามินบี 3 (Niacinamide)
เพิ่มความเห็งแรงให้กับผิว ปรับผิวให้กระจ่างใส รูขุมขนกระชับ

- วิตามินซี: ช่วยยับยั้งการผลิตเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ทำให้เกิดฝ้า
- กลูตาไธโอน: มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการสร้างเมลานินและทำให้ผิวกระจ่างใส
- สารสกัดจากพืช: เช่น สารสกัดจากมะนาวหรือว่านหางจระเข้ ซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งการสร้างเมลานินและลดการอักเสบ
- กรดไกลโคลิก: ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ทำให้เม็ดสีฝ้าค่อยๆ จางลง
กลไกการลดฝ้า
- ยับยั้งการผลิตเมลานิน
- กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
- ลดการอักเสบ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งช่วยให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใส
กลไกช่วยหน้ากระจ่างใส
ตัวยาที่มีส่วนผสมนี้นอกจากจะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ยังมีส่วนช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ADENOSINE: ลดเลือนริ้วรอยและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- SODIUM DNA: ปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ
- HYDROLYZED COLLAGEN: เติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
- HYALURONIC ACID: กักเก็บความชุ่มชื้นและทำให้ผิวอิ่มน้ำ
- MULTI-PEPTIDES: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน


รักษาฝ้า กี่ครั้งเห็นผล
เมื่อรับบริการต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง ต่อเนื่อง ฝ้าจะค่อยๆจางลง เม็ดสีที่เข้มๆจะสีอ่อนลง การกระจายตัวของฝ้าจะคงที่หรือลดน้อยลง ควรดูแลและเข้ามารับบริการตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ
รับบริการต่อเนื่อง 2 สัปดาห์/ครั้ง
ให้บริการโดย แพทย์ประจำคลินิก
รีวิวรักษาฝ้า



ผลลัพธ์หลังรับบริการต่อเนื่องจะอยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV พักผ่อนให้พอเพื่อให้ผิวได้รับการซ่อมแซมและฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ และควรเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลง เข้าพบแพทย์เป็นระยะๆ
ทำไมจึงต้องรักษาฝ้าให้ค่อยๆจางลง
- การรักษาที่รุนแรงเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวระคายเคือง ผิวแห้ง และการเปลี่ยนสีผิว
- การรักษาที่รวดเร็วเกินไปอาจทำให้ฝ้ากลับมาอีก เนื่องจากเม็ดสีที่สะสมอยู่ยังไม่ถูกกำจัดออกไปอย่างสมบูรณ์
- การรักษาที่ค่อยเป็นค่อยไปช่วยให้ผิวมีเวลาปรับตัว และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
D’ Melasma ราคาเท่าไหร่

| จำนวนครั้ง | ราคา |
|---|---|
| 1 ครั้ง | 4,500 บาท |
| 5 ครั้ง | 18,000 บาท |
| 10 ครั้ง | 29,000 บาท |
แนะนำให้รับบริการ ลดฝ้าอย่างน้อย 3-5 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและแนะนำแผนการรักษาที่เหมาะสม
โปรแกรมหน้าใสอื่นๆ

NCTF 135 HA
1 ในเมโสเพื่อผิวกระจ่างใส ลดเม็ดสีผิวที่เข้มให้จางลงได้ในทุกบริเวณ
- Filorga NCTF 135 HA ครั้งละ 9,999.- ,คอร์ส 5 ครั้ง 35,000.-
- Channel ครั้งละ 4,900.- ,คอร์ส 5 ครั้ง 19,000.-
- Inno Glitter ครั้งละ 2,500.- ,คอร์ส 5 ครั้ง 10,000.-
คุณเป็นฝ้าชนิดไหน ดูอย่างไร

ต้องรู้ประเภทฝ้า การรักษาจะตรงจุด
ฝ้าเป็นภาวะผิวหนังที่เกิดจากการกระจายตัวของเม็ดสีที่มากเกินไป ทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำบนใบหน้า ฝ้ามีหลายประเภท และการรักษาให้ได้ผลดีนั้นต้องพิจารณาตามประเภทของฝ้า
ประเภทของฝ้า
- ฝ้าตื้น (Epidermal melasma) เกิดจากการสะสมของเม็ดสีที่ชั้นหนังกำพร้า ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังชั้นนอกสุด ฝ้าประเภทนี้มักมีสีน้ำตาลอ่อนและตอบสนองต่อการรักษาได้ดี
- ฝ้าลึก (Dermal melasma) เกิดจากการสะสมของเม็ดสีที่ชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังชั้นล่าง ฝ้าประเภทนี้มักมีสีน้ำตาลเข้มหรือเทา และตอบสนองต่อการรักษาได้ยากกว่าฝ้าตื้น
- ฝ้าเส้นเลือด (Telangiectasia) เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง โดยเส้นเลือดฝอยเหล่านี้จะไปกระจุกตัวกันในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ทำให้เกิดปื้นแดงๆ หรือสีม่วงแดงปรากฏบนผิวหนัง
- ฝ้าฮอร์โมน (Hormone Melasma) พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะสูงขึ้นอย่างมากในช่วงนี้ นอกจากนี้ ฝ้าฮอร์โมนยังอาจเกิดได้ในผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนทดแทน
- ฝ้าผสม (Mixed melasma) เป็นฝ้าที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีทั้งที่ชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ ฝ้าประเภทนี้มีลักษณะสีน้ำตาลปานกลางและตอบสนองต่อการรักษาได้ปานกลาง
การรักษาฝ้าขึ้นอยู่กับประเภทของฝ้าและความรุนแรงของอาการ แพทย์จะพิจารณาปัจจัยเหล่านี้เพื่อกำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสม



การป้องกันคือหนทางที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับฝ้า ครีมกันแดดเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV อันเป็นสาเหตุหลักของฝ้า เพื่อผิวที่กระจ่างใสของคุณ
การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันฝ้าและการกลับมาของฝ้าหลังการรักษา ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน และสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวเมื่อออกแดด แดดประเทศไทยต้องบอกว่าอันตรายทุกช่วงเวลา ที่ควรเลี่ยงมากที่สุดคือช่วง 11.00 – 14.00 น.

สลายฝ้า กับเลเซอร์ เลือกแบบไหนดี
| ลักษณะ | เมโสลดฝ้า | Pico Laser |
|---|---|---|
| กลไกการออกฤทธิ์ | ทาหรือเติมสารเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน | ใช้คลื่นแสงเลเซอร์ยิงทำลายเม็ดสีเมลานิน |
| ระยะเวลาในการเห็นผล | อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน | อาจต้องใช้เวลาหลายครั้งในการรักษา |
| ความถี่ในการรักษา | ทุก 1-3 สัปดาห์ | ทุก 2-4 สัปดาห์ |
| ระยะเวลาในการรักษาแต่ละครั้ง | ประมาณ 10 นาที | ประมาณ 20 นาที |
| ความเจ็บปวด | ||
| ผลข้างเคียง | อาจเกิดรอยแดงหรือบวมชั่วคราว | อาจเกิดรอยแดงหรือบวมชั่วคราว |
| ระยะเวลาพักฟื้น | ไม่ต้องพักฟื้น | อาจมีพักหน้าตามโหมดที่เลือกรักษา |
| เหมาะกับฝ้าประเภท | ฝ้าตื้น ฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมน | ฝ้าตื้น ฝ้าที่เกิดจากแสงแดด |
| ราคา | 1,500-4,500 /ครั้ง | 5,500-9,000/ครั้ง |
| ความเสี่ยง | ตัวยาไม่ได้คุณภาพ | Pico ปลอม แอบอ้าง |
| ผลลัพธ์ | รักษาอย่างต่อเนื่อง | รักษาอย่างต่อเนื่อง |
| ข้อจำกัด | ไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร | ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวคล้ำหรือผิวบอบบาง |
ทำไมต้องที่ D’ Lovevery Clinic
- เป็นส่วนตัวและใส่ใจ เราให้ความสำคัญกับเวลาของคุณ ไม่ต้องรอนาน ไม่แออัด แพทย์ให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวอย่างละเอียด ไม่เร่งรีบ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
- สบายใจไม่มีแรงกดดัน เราไม่มีเซลส์คอยปิดการขายหรือบังคับซื้อคอร์ส คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระและสบายใจที่สุด
- จ่ายสบายเลือกได้ เรามีระบบมัดจำที่ยืดหยุ่น สามารถแบ่งจ่ายได้ พร้อมรองรับ Shopee PayLater และโปรแกรมผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
- ดูแลต่อเนื่องโดยแพทย์คนเดิม คุณจะได้ติดตามผลกับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยตรง เพื่อความต่อเนื่องและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- รีวิวจริงจากลูกค้าจริง ความภาคภูมิใจของเราคือเสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการจริง ไม่มีการจ้างดาราหรือ Influencer เพื่อให้คุณมั่นใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง
- แพทย์ประสบการณ์สูงตรวจสอบได้ ทีมแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าและดูแลผิวพรรณโดยตรง สามารถตรวจสอบรายชื่อได้จากแพทยสภา
- คลินิกมาตรฐาน เดินทางสะดวก คลินิกของเราทั้งสองสาขาผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ในโครงการที่เดินทางสะดวกและมีที่จอดรถฟรี
- โปร่งใสและตรวจสอบได้ เราให้ข้อมูลอย่างรวดเร็ว คุณสามารถเช็คคอร์สคงเหลือได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ใช้ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และสามารถตรวจสอบได้ทุกชิ้น

ไม่เสมอไปค่ะ ฝ้าไม่ได้อยู่ “ลึก” อย่างเดียวเสมอไป—มีทั้งแบบตื้น (อยู่ชั้นหนังกำพร้า), แบบลึก (ถึงชั้นหนังแท้) และแบบผสมซึ่งพบได้บ่อยที่สุด ดังนั้นบางคนทายาที่มีหลักฐานชัดเจน เช่น กันแดดที่เพียงพอ, azelaic acid/niacinamide/วิตามินซี, หรือยาภายใต้แพทย์อย่าง hydroquinone/เรตินอยด์ ก็เห็นจางลงได้ แต่ต้องให้เวลาอย่างน้อย 8–12 สัปดาห์ และทาครีมต่อเนื่องสม่ำเสมอ
ถ้าฝ้าของคุณมีส่วนที่ลึกหรือมีปัจจัยกระตุ้นยังคงอยู่ เช่น แดด ความร้อน แสงจากจอ ฮอร์โมน ทาอย่างเดียวอาจไม่พอ เราจะเสริมด้วยวิธีแพทย์ เช่น เลเซอร์พลังงานต่ำ/พิโค, ไมโครนีดลิง, หรือ tranexamic acid โดยยังต้องคุมแดดอย่างเคร่งครัดเป็นหัวใจของการรักษา สรุปคือ ครีมช่วยได้ในหลายเคส แต่ในบางเคสฉีดยาลงไปตรงๆก็ได้ผลกว่า และการป้องกันแดดและการรักษาแบบผสมผสาน จะให้ผลดีที่สุดสำหรับฝ้าส่วนลึกและดื้อต่อการรักษาค่ะ
สำหรับคำถามที่ว่า Pico laser สามารถช่วยดูแลปัญหาผิวในด้านไหนได้บ้าง สามารถดูแลปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุมหลายรอยโรคเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
- เรื่องเม็ดสี: ช่วยลด ฝ้า กระ จุดด่างดำ ทั้งชนิดตื้นและลึก ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้น
- เรื่องรอยสิว: จัดการได้ทั้ง รอยดำและรอยแดงจากสิว ทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง
- เรื่องรอยสัก: สามารถ ลบรอยสัก ให้จางลงได้
- เรื่องคุณภาพผิว: ช่วย ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน และ กระชับรูขุมขน ให้เล็กลง
สำหรับคำถามที่ว่าแต่ละปัญหาต้องทำกี่ครั้ง โดยทั่วไปแล้วจำนวนครั้งจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการประเมินของแพทย์ ต้องส่งภาพมาให้หมอประเมิน หรือนัดปรึกษา จึงจะให้คำแนะนำได้ตรงจุดที่สุดค่ะ
ฉีดฝ้า เป็นวิธีที่ช่วยลดฝ้าโดยการฉีดตัวยาหรือวิตามินเข้าไปยังจุดที่ต้องการ เหมาะสำหรับฝ้าใหม่ที่ยังไม่ลึกมาก ผลลัพธ์จะเห็นได้ค่อนข้างเร็วและเจ็บน้อยกว่าการเลเซอร์ เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ไว ใช้ชีวิตเร่งรีบ ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่ควรระวังในกรณีผิวแพ้ง่ายหรือเคยมีประวัติแพ้ยามาก่อน
เลเซอร์ฝ้า เหมาะกับฝ้าที่เป็นมานานหรือมีความลึกมากกว่า ผลลัพธ์จะค่อยๆ เห็นชัดหลังทำต่อเนื่องหลายครั้ง มีความรู้สึกแสบขณะทำและอาจต้องหลีกเลี่ยงแดดและพักผิวหลังเลเซอร์ชั่วคราว ผู้เลือกวิธีนี้ควรคำนึงถึง ความรุนแรงของฝ้า ระยะเวลาที่ต้องการเห็นผล และวิถีชีวิต ว่าสามารถดูแลตัวเองหลังทำได้หรือไม่ ดังนั้นการเลือกวิธีควรให้แพทย์ประเมินร่วมกับความสะดวกและไลฟ์สไตล์ของคนไข้ด้วยค่ะ
ปัญหาฝ้าที่โหนกแก้มส่วนใหญ่เกิดจากผิวได้รับแสงแดดสะสมเป็นเวลานานค่ะ เมื่อแสงแดดกระตุ้นให้เม็ดสีทำงานมากขึ้น ประกอบกับถ้าคนไข้มีปัจจัยอื่นเสริม เช่น ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง หรือมีกรรมพันธุ์ ฝ้าก็จะขึ้นชัดง่าย โดยเฉพาะถ้าคนไข้ไม่ได้ป้องกันผิวหรือทากันแดดอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้จะรักษาแล้ว ถ้ายังโดนแดดซ้ำ ๆ ฝ้าก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้เสมอค่ะ วัย 40+ จะเจอเยอะที่สุดเลย
หลายคนสงสัยและชอบถามหมอว่าทำไมฝ้าถึงชอบขึ้นที่โหนกแก้ม ทั้งที่บริเวณอื่นก็อาจจะโดนแดดเหมือนกัน จริง ๆ แล้วโหนกแก้มเป็นส่วนที่นูนและยื่นออกมามากกว่าส่วนอื่นบนใบหน้า เวลาโดนแดดก็จะรับแสง “เต็ม ๆ” เลยค่ะ เรียกว่าแดดกี่โมงๆก็ต้องโดนโหนกแก้ม อีกทั้งโครงสร้างผิวที่โหนกแก้มตอบสนองต่อแสงแดดและฮอร์โมนไวมาก ทำให้ฝ้าขึ้นง่ายและเห็นชัดกว่าส่วนอื่น ถ้าคนไข้เข้าใจแบบนี้ จะเน้นทากันแดดบริเวณนี้ให้มากขึ้นได้เลยนะคะ และความยากของการรักษาฝ้าตรงโหนกแก้มก็คือ บางครั้งจะเข้ม หนา บางตื้น กระจาย กระจุก ไม่เท่ากันด้วย บางเคสหมอเลยต้องใช้หลายวิธีในการรักษาควบคู่กันออกไป ทั้งฉีดยา เลเซอร์ ทรีทเมนท์ เป็นโปรแกรมที่หมอผิวหนังทุกคนจะบอกว่า ขนานเดียว วิธีเดียวไม่เคยพอค่ะ
การทำ Pico Laser สามารถช่วยให้ปานสีน้ำตาลจางลงได้ แต่โดยทั่วไปอาจจะต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนค่ะ ปกติแนะนำให้ทำประมาณ 10 ครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกันประมาณเดือนละ 1 ครั้ง
ราคาต่อครั้งอยู่ที่ 4,500 บาท
แต่ถ้าซื้อแบบคอร์ส 10 ครั้ง จะได้ส่วนลด 20% ค่ะ
ทั้งนี้ ความเข้มของปานและการตอบสนองต่อการรักษาแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจต้องใช้เวลาหรือจำนวนครั้งที่แตกต่างกันและอาจไม่สามารถรับรองได้ว่าจะหาย 100% แต่โดยส่วนใหญ่จะจางลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอหรือมีดำๆ ด่างๆ เกิดได้จากหลายสาเหตุที่พบได้บ่อย เช่น แสงแดดที่กระตุ้นการผลิตเม็ดสี (เมลานิน) มากเกินไป การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ทำให้เกิดฝ้าหรือกระ และการผลัดเซลล์ผิวที่ไม่สมดุล นอกจากนี้ยังอาจมาจากปัญหาผิวเฉพาะจุด เช่น จุดด่างดำหรือรอยหลังสิวค่ะ
สำหรับการรักษา Pico Laser เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะช่วยลดเลือนรอยดำและเม็ดสีใต้ผิวได้ดีที่สุด ด้วยเทคโนโลยีที่ลงลึกแต่แม่นยำ ไม่ทำร้ายผิวชั้นบน แถมยังช่วยปรับสีผิวให้เนียนใสได้ทั่วหน้าอีกด้วย หลังทำคนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ ทั้งนี้ หมอแนะนำให้มาปรึกษาเพื่อประเมินก่อนรักษานะคะ
ได้ค่ะ! ฝ้าที่เกิดจากการใช้ครีมทาหน้าส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ผิวระคายเคือง หรือสารที่ทำให้ผิวบางลง เช่น สเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนน หรือสารปรอทค่ะ ครีมเหล่านี้หากใช้ต่อเนื่องหรือไม่มีการควบคุม อาจไปกระทบกระบวนการสร้างเม็ดสีในผิว ทำให้เกิดฝ้าหรือรอยดำขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสแสงแดดค่ะ
ถ้าสงสัยว่าฝ้าของเราเกิดจากการใช้ครีม หมอแนะนำให้เลิกใช้ผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยทันที และมาให้หมอตรวจดูนะคะ เพื่อประเมินว่าฝ้าที่เกิดขึ้นต้องรักษาด้วยวิธีไหน เช่น การใช้ยาแต้ม ยาฉีดเฉพาะจุด ทาครีมลดเม็ดสี หรือทำเลเซอร์ร่วมด้วย ทั้งนี้ต้องทำควบคู่ไปกับการป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัดด้วยค่ะ เพราะแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ฝ้าชัดขึ้นค่ะ
โปรแกรม Dlovevery PICO มีทั้งหมด 4 โหมดการรักษา เป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์สำหรับทุกคนที่ต้องการแก้ปัญหาผิว เช่น รอยแผลเป็น หลุมสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ที่แม่นยำและปลอดภัย เราจะต้องประเมินสภาพผิวและรอยโรคของคนไข้ก่อนทุกครั้ง เพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะสมที่สุดค่ะ ข้อดีของเลเซอร์ตัวนี้คือผลข้างเคียงน้อย ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ
ตัวนี้ยังเหมาะมากสำหรับเรื่องเม็ดสีและการลดเลือนรอยแผลเป็น เพราะเลเซอร์จะช่วยจัดการเม็ดสีผิดปกติและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น และรอยแผลเป็นแลดูจางลง ซึ่งเห็นผลได้ดีกว่าโปรแกรมอื่นๆค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดการอักเสบจากสิว และกระชับรูขุมขนได้อีกด้วยค่ะ








