ใครที่กำลังจะเตรียมตัวเป็นคุณแม่ โดยเฉพาะท้องลูกคนแรก สำคัญมากๆ ว่าที่คุณแม่จะหาข้อมูล ศึกษาความรู้ เพื่อเตรียมตัวกันเยอะมากๆ แต่มีอยู่ 1 เรื่องที่หลายคนมองข้ามไป เพราะเราจะโฟกัสไปที่ลูกเป็นหลัก จนลืมโฟกัสมาที่ตัวคุณแม่เอง วันนี้หมอจะมาแชร์ถึงเรื่องการเตรียมตัวดูแลผิวหน้า ที่อาจจะแตกต่างไปจากเดิม ระหว่างก่อนมีน้อง กับหลังมีน้อง
แผนการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาและรวมถึงการดูแลผิวหน้า
6-12 เดือนก่อนตั้งครรภ์
- ตรวจสุขภาพทั่วไปและตรวจภูมิคุ้มกัน
- เริ่มทานวิตามินและกรดโฟลิก
- ปรับพฤติกรรมการกินให้มีสุขภาพดี
- เริ่มออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- เลิกสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- เริ่มการดูแลผิวหน้าอย่างเข้มข้น (ทรีทเม้นต์ต่างๆ)
3-6 เดือนก่อนตั้งครรภ์
- ตรวจสุขภาพฟัน
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่
- ฉีดวัคซีนที่จำเป็น
- ทำความสะอาดบ้านและสิ่งแวดล้อม
- ถ้าอยากให้ผิวหน้าตึงกระชับในช่วงตั้งครรภ์ ก็ควรเลือกเติมสารกระตุ้นคอลลาเจน ไหมน้ำต่างๆในช่วงเวลานี้
1-3 เดือนก่อนตั้งครรภ์
- ติดตามรอบเดือนและช่วงตกไข่
- ลดความเครียด
- เตรียมความพร้อมทางการเงิน
- พูดคุยกับคู่สมรสเรื่องการเลี้ยงดูบุตร
- ถ้าไม่อยากให้ริ้วรอยมาช่วงตั้งครรภ์ ช่วงเวลานี้เหมาะแก่การเติมโบท็อกซ์ลดริ้วรอย อย่างน้อยผิวหน้าจะตึง ริ้วรอยหางตาก็จะมาช้าลงไปอีกอย่างน้อย 5-6 เดือน
- ยกกระชับผิว แก้ม ลำคอ เพื่อให้คอลลาเจนใต้ผิวได้ตื่นตัว พร้อมรับการอดหลับอดนอน และความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อผิวหน้า ด้วย HIFU, UltraFormer, Ulthera, Thermage
ระหว่างพยายามตั้งครรภ์
- มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ
- ทานอาหารที่มีประโยชน์
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงสารเคมีอันตราย
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ปลอดภัยสำหรับคนท้อง
ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้ ในระหว่างที่ตั้งครรภ์
ปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์มีหลายอย่าง ที่พบบ่อยได้แก่
- ผิวแห้ง คัน: เนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวแห้งและคันได้
- สิว: ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดสิวได้มากขึ้น
- ฝ้า กระ: อาจเกิดจุดด่างดำบนใบหน้าได้ เรียกว่า “ฝ้าท้อง”
- ผื่นคัน PUPPP: ผื่นคันที่มักเกิดบริเวณท้องในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์
- รอยแตกลาย: เกิดจากผิวหนังขยายตัวเร็วเกินไป มักพบที่ท้อง ต้นขา และหน้าอก
- เส้นเลือดขอด: อาจเกิดขึ้นที่ขาหรือบริเวณอื่นๆ
- ผิวมัน: เนื่องจากต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
- ขนขึ้นมากผิดปกติ: อาจพบขนขึ้นมากขึ้นในบางบริเวณ
- ผิวคล้ำขึ้น: โดยเฉพาะบริเวณหัวนม ขาหนีบ และแนวกลางท้อง
- เล็บเปราะบาง: เล็บอาจอ่อนแอและแตกง่ายขึ้น
สำหรับการดูแล ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการรุนแรง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับคนท้อง ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
หลังให้นมบุตร กี่เดือนถึงจะฉีดหน้า ทำหน้าได้
โดยทั่วไปควรรออย่างน้อย 6-12 เดือนหลังคลอด แต่ระยะเวลาที่เหมาะสมจะแตกต่างกันในแต่ละคน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนทำทรีตเมนต์ใดๆ