ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ฟิลเลอร์ใต้ตา คลินิก

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูล

ฟิลเลอร์

ไม่มีเจตนาโปรโมทเครื่องมือแพทย์

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ราคาเท่าไหร่ คำถามที่พบบ่อย

แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง รับกล่องกลับบ้าน ติดตามผลการรักษา
โปรโมชั่น ส่วนลด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครั้งแรก รับส่วนลด 1000 บาท

7999

บาท

ปกติราคา : 8999

หมดเขต:

29/12/2024

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา

ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อย่างแรกที่เราต้องพิจารณาคือ การเลือกแพทย์ผู้รักษา ควรเลือกแพทย์หรือคลินิกที่มีประสบการณ์และได้รับการแนะนำจากคนรู้จัก หรือเห็นหน้า รู้ประวัติ รู้ชื่อ และตรวจสอบใบอนุญาตได้ เพราะต่อให้เลือกฟิลเลอร์ที่แพงที่สุด หรือดีที่สุด ก็จะเกิดปัญหาตามมาได้ค่ะ หลังจากนั้นค่อยตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้มีใบรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง

ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาอะไร

หมอจะขอเรียงตามลำดับความนิยม จากประสบการณ์ของหมอเองตลอด 10 ปี ว่าปัญหาใต้ตานั้นมีอะไรบ้าง

ใต้ตาลึก เบ้าตาลึก ดูตาโหล มีอายุกว่าปกติ

ตัวอย่างเคส ร่องหัวตาลึก คล้ำ ไม่เรียบเนียน

ตัวอย่างเคส ฟิลเลอร์เก็บถุงใต้ตา

โดยปัญหานี้เกิดจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวด้านใต้ตา จากการเสียเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อ การใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสม และการสูบบุหรี่ อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาลึก ตาโหล เป็นปัญหาอันดับ 1 เพราะไม่สามารถปกปิด หรือแก้ไขได้ด้วยการใช้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ทดแทนได้ ต้องแก้ปัญหาด้วยการเติมเต็มเท่านั้น

ใต้ตาคล้ำ ขอบตาคล้ำ ดูเป็นหมีแพนด้า

หมอขอยกให้ปัญหานี้ตามมาเป็นอันดับ 2 เพราะสามารถเป็นกันได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกช่วงอายุ การแก้ไขใต้ตาคล้ำและขอบตาดำโดยการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในผิวหนังของบริเวณดังกล่าว เมื่อฟิลเลอร์ได้ถูกเติมเต็มแล้ว ผิวใต้ตาจะดูสว่างขึ้นและมีการลดร่องรอยของกล้ามเนื้อและเส้นเลือดลงได้ ซึ่งจะช่วยให้ใต้ตาดูสดใสและสม่ำเสมอ โดยผลกระทบจากแสงได้ถูกกระจายทั่วถึงได้ดีขึ้น นอกจากนั้นฟิลเลอร์ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้นด้วย

ถุงใต้ตา ดูใต้ตามี 2 ชั้น ผิวใต้ตาหย่อนคล้อย

ปัญหานี้มักเกิดกับผู้ที่อายุมาก ส่วนใหญ่ที่หมอพบมากที่สุดคือเกิน 55 ปีขึ้นไป การเติมฟิลเลอร์ถือเป็นทางออก ทางเลือกแรกที่จะทำให้ใต้ตากลับมาเรียบเนียน และดูเป็นธรรมชาติได้ แต่ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไป เพราะถ้ามีปัญหาเยอะมากๆ การผ่าตัดถุงใต้ตา อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า ถ้าใครยังไม่มั่นใจว่าถุงใต้ตาของตัวเองนั้นเหมาะกับการรักษาด้วยฟิลเลอร์หรือไม่ สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ทุกวัน หรือส่งภาพมาประเมินก่อนได้ค่ะ

ฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับแก้ปัญหาถุงใต้ตาหรือใต้ตาหย่อนคล้อย จะทำให้เกิดการพยุงรอบตาและเสริมโครงสร้างผิวที่อ่อนแรง ซึ่งจะทำให้สามารถลดการพองตัวของผิวได้ และทำให้ถุงใต้ตาดูกระชับขึ้น นอกจากนี้ การเติมฟิลเลอร์ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวดูสมบูรณ์และกระชับมากยิ่งขึ้น

ถุงใต้ตา แก้ไขยังไง

ใต้ตาเป็นเส้นๆ ริ้วๆ ขีดๆ รอยย่น ผิวเหี่ยว

ปัญหาใต้ตาลักษณะนี้ หมอสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ แต่ฟิลเลอร์จะได้เปรียบตรงที่จะอยู่ได้นานกว่า และได้ความชุ่มชื้นได้มากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเจลเนื้อละเอียดคล้ายน้ำ อย่าง Restylane Vital Light, Juvederm Volite, Belotero Revive

โดยปกติแล้ว ผิวใต้ตามีความบางเบาและมีเส้นเลือดฝอยอยู่ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยใต้ตาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ อายุของผู้หญิงที่มากขึ้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่น แต่ด้วยการใช้ฟิลเลอร์สารเติมเต็มที่มี Hyaluronic acid ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำขึ้น และยังช่วยกระชับผิวใต้ตาได้อีกด้วย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันมีฟิลเลอร์สำหรับงานผิว Skin Booster ตัวอื่นๆให้ใช้ในการรักษาหลากหลายมากขึ้น

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • มันเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังรักษา สามารถเห็นความแตกต่างระหว่าง ก่อน และ หลังรักษาได้ชัดเจน ไม่ต้องรอผลลัพธ์เหมือนหัตการอื่นๆ
  • ไม่เจ็บ หรือใช้ความอดทนระหว่างการรักษา เพราะไม่ใช่การผ่าตัด ใต้ตาใช้การรักษาเพียง 20-30 นาทีก็แล้วเสร็จ ไม่ต้องพักฟื้น หรือลางาน
  • ฟิลเลอร์ยุคใหม่ ปลอดภัยและอยู่ได้นานขึ้น เฉลี่ยตอนนี้อยู่ได้นานสุงสุด 2 ปี และค่อยๆสลายได้เองเมื่อครบกำหนด

ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะสำหรับใคร?

รีวิวฉีดฟิเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ลดอายุ

ตัวอย่างเคสที่อยากให้ใต้ตาสดใสสดชื่น

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน ที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา

ฟิลเลอร์ที่จะเหมาะกับการเติมใต้ตา จะต้องมีคุณสมบัติเนื้อละเอียด บางเบา เนื้อเจล ไม่แข็งเกินไป หรือหากจะต้องใช้เนื้อแข็ง ก็จะต้องเป็นการฉีดชั้นลึกสุดของผิว เพื่อให้ผิวด้านบนเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่เป็นก้อน เป็นลำหลังรักษา แพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจะไม่พลาดเรื่องการเลือกเนื้อเจลให้กับคนไข้ค่ะ ส่วนยี่ห้อไหนดี หมอสรุปให้ดังนี้

  • Juvederm Voluma – เนื้อเจลฟิลเลอร์แข็งระดับกลาง พร้อมกับความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำดีมาก
  • Juvederm Volite – เนื้อเจลละเอียดเหมาะสำหรับคนผิวบาง ปัญหาไม่ลึกมาก เน้นความชุ่มฉ่ำให้ใต้ตา
  • Juvederm Volux – เนื้อเจลของฟิลเลอร์ระดับแข็ง แต่มีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
  • Restylane Defyne – เนื้อเจลแข็งโดยประมาณ มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี ช่วยให้ผิวใต้ตาเรียบเนียนสม่ำเสมอ
  • Restylane Vital Light – เนื้อละเอียดมากที่สุดของยี่ห้อนี้ เหมาะสำหรับผิวบางมาก เจลใกล้เคียงน้ำมากที่สุด เน้นฉ่ำ เรียบเนียนขั้นสุด
  • Restylane Vital – เนื้อเจลละเอียดเกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับการเก็บรายละเอียด สำหรับเคสที่ปัญหาไม่เยอะมาก
  • Restylane Classic – เนื้อแข็งเก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก โดดเด่นในการรักษาความสม่ำเสมอของผิว
  • Belotero Volume – เนื้อแข็งที่สุดของยี่ห้อนี้ มีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
  • Belotero Soft – เนื้อละเอียดมากที่สุดของยี่ห้อนี้ มีลักษณะการสูญเสียวัสดุน้อยคุณภาพสูง ช่วยให้ผิวชั้นบนสุดดูสวยและเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องใช้กี่ CC

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสำหรับแก้ปัญหาถุงใต้ตาหรือตาลึกโหล จะต้องใช้ปริมาณ 1-2 cc หรือมากกว่า ซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละราย

  • คล้ำ + ลึก ใช้ฟิลเลอร์ 1-2cc
  • เน้นเรียบเนียน ปรับสีผิวใต้ตา 1cc ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด
  • แก้ปัญหาถุงใต้ตา 2-3cc เนื้อเจลขึ้นอยู่กับปัญหาและการประเมินของแพทย์

ตารางแสดงปัญหาใต้ตาและแนวทางการรักษา

ปัญหาใต้ตาศัลยกรรมหมายเหตุ
ริ้วรอยเล็กน้อย, ผิวขาดความชุ่มชื้นไม่จำเป็นฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ
ร่องใต้ตาลึก, รอยคล้ำใต้ตาจากเงาไม่จำเป็นฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกและลดรอยคล้ำจากเงา
ถุงใต้ตา, ไขมันใต้ตาเยอะผ่าตัดกำจัดถุงใต้ตาฟิลเลอร์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้ ต้องผ่าตัดเท่านั้น
หนังตาตก, หย่อนคล้อยศัลยกรรมดึงหนังตาฟิลเลอร์ไม่สามารถยกกระชับหนังตาได้ ต้องผ่าตัดเท่านั้น
รอยคล้ำใต้ตาจากเม็ดสีผิวเลเซอร์, ทรีตเมนต์เฉพาะทางควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ (cc) ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล แพทย์จะเป็นผู้กำหนดปริมาณที่เหมาะสม

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน

เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์และประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ปัจจัยทางพันธุกรรม และเทคนิคการฉีดของแพทย์ ตารางต่อไปนี้จึงเป็นข้อมูลทั่วไปเพื่อการเปรียบเทียบเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจใช้บริการ

รุ่นฟิลเลอร์จุดเด่นระยะเวลาคงอยู่ (โดยประมาณ)ข้อควรระวังเหมาะสำหรับ
Restylane (e.g., Restylane Refyne, Restylane Defyne)เนื้อเนียนนุ่ม กระจายตัวได้ดี ลดเลือนริ้วรอยได้ดี6-12 เดือนอาจเกิดรอยเขียวช้ำเล็กน้อยริ้วรอยตื้นๆ ร่องลึกเล็กน้อย ใต้ตาที่มีความหย่อนคล้อยน้อย
Restylane Vitalเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอยเล็กๆ6-9 เดือนอาจเกิดรอยเขียวช้ำเล็กน้อยปรับสภาพผิวใต้ตาให้เรียบเนียน ชุ่มชื้นขึ้น
Restylane Vital Lightเนื้อบางเบา อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง เพิ่มความชุ่มชื้น6-9 เดือนอาจเกิดรอยเขียวช้ำเล็กน้อยผิวใต้ตาแห้งมาก แพ้ง่าย ต้องการฟื้นฟูผิว
Juvéderm (e.g., Juvéderm Volbella XC)ความยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น6-12 เดือนอาจมีอาการบวมหรือแดงในช่วงแรกใต้ตาที่ต้องการความอ่อนโยน ต้องการเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื้น
Belotero Balanceเนื้อบางเบา กระจายตัวได้ดีเยี่ยม ดูเป็นธรรมชาติมาก6-9 เดือนอาจเกิดอาการบวมหรือแดงน้อย แต่หายเร็วใต้ตาที่มีริ้วรอยตื้นๆ ไม่ต้องการการยกกระชับมาก
Teosyal PureSense Redensity IIออกแบบเฉพาะสำหรับบริเวณใต้ตา ช่วยลดเลือนรอยคล้ำและริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น6-9 เดือนควรฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใต้ตาที่มีรอยคล้ำ ริ้วรอย และต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น

หมายเหตุ:

  • ระยะเวลาคงอยู่เป็นเพียงค่าประมาณ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
  • ผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อมีหลายรุ่น ซึ่งคุณสมบัติและระยะเวลาคงอยู่จะแตกต่างกันไป
  • การเลือกใช้ฟิลเลอร์ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล
  • ตารางนี้ไม่ได้เป็นการรับรองหรือแนะนำผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง

ฉีดไขมันใต้ตา หรือฉีดฟิลเลอร์แตกต่างกันอย่างไร

ตารางเปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและการเติมไขมันใต้ตา

คุณสมบัติฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเติมไขมันใต้ตา
ระยะเวลาในการทำสั้น (ประมาณ 15-30 นาที)นานกว่า (ประมาณ 1-2 ชั่วโมง)
ระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่า (1-2 วัน)นานกว่า (7-14 วัน)
ความเจ็บปวดน้อยมาก (อาจมีการใช้ยาฉา)ปานกลาง (มีการใช้ยาชา)
ผลลัพธ์เห็นผลทันทีเห็นผลเต็มที่ภายใน 2-3 เดือน
ระยะเวลาคงอยู่6-18 เดือนนานกว่า (หลายปี)
ความเป็นธรรมชาติ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐
ค่าใช้จ่าย⭐⭐⭐⭐⭐
อาการบวมช้ำน้อย หลังทำทันทีอาจจะมีเล็กน้อยมีมากกว่า โดยเฉพาะหลังทำทันที – 3 วันแรก
การแก้ไขง่ายกว่า (สามารถใช้สารสลายฟิลเลอร์ได้)ทำได้ยาก เซลล์ไขมันยังไม่มีตัวยาสลายแบบเฉพาะเจาะจง

หมายเหตุ: ระดับความเป็นธรรมชาติและค่าใช้จ่ายเป็นค่าโดยประมาณและอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลและสถานพยาบาล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของคุณ

ใต้ตาหมองคล้ำ รักษายังไงได้บ้าง

นอกจากฟิลเลอร์ที่จะช่วยเติมเต็มให้ผิวใต้ตาดูตื้นขึ้น สดใสขึ้น ยังมีโปรแกรมอื่นๆที่สามารถช่วยได้ ตารางเปรียบเทียบโปรแกรมลดริ้วรอยและความหมองคล้ำใต้ตา

โปรแกรมกลไกการทำงานผลลัพธ์ที่คาดหวังข้อดีข้อเสียระยะเวลาเห็นผลระยะเวลาคงอยู่
Filorga NCTFฉีดสารประกอบวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน สารต้านอนุมูลอิสระ และไฮยาลูโรนิกแอซิดบำรุงผิว ลดริ้วรอยเล็กๆ ฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส ชุ่มชื้นไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลเร็วผลลัพธ์ไม่เด่นชัดมากนักเมื่อเทียบกับวิธีอื่น อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง1-2 สัปดาห์3-6 เดือน
Ultracolกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มความยืดหยุ่น ลดริ้วรอย ร่องลึกเห็นผลเร็วอาจมีอาการบวมช้ำได้1-2 เดือน10-18 เดือน
AesTheFillเติมเต็มด้วยสารเติมเต็มผิวลดริ้วรอย ร่องลึก เติมเต็มใต้ตาเห็นผลเร็วอาจมีอาการบวมช้ำได้ทันที12-24 เดือน
เลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนลดริ้วรอยเล็กๆ รอยแดง รอยดำไม่ต้องพักฟื้นมากผลลัพธ์อาจไม่เด่นชัดเท่าการฉีดขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์ขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์

หมายเหตุ: ตารางนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับคุณ

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่

สิ่งแรกที่จะต้องทราบคือ ฟิลเลอร์ มีทั้งฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงาน กระทรวงสาธารณะสุข และฟิลเลอร์ปลอม ที่ทำมาลอกเลียนแบบ หมอขอพูดถึงราคาเฉพาะฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านการรับรองเท่านั้น ดีเลิฟเวอรี่คลินิกให้บริการฟิลเลอร์ของแท้ทุกกล่อง ตรวจสอบได้ และมีการแกะกล่องต่อหน้าทุกเคส

ฟิลเลอร์ restylane ราคา
รุ่นราคา
Juvederm Voluma18,000.-/cc
Juvederm Volite18,000.-/cc
Juvederm Volux18,000.-/cc
Restylane Defyne15,000.-/cc
Restylane Vital Light15,000.-/cc
Restylane Classic15,000.-/cc
Restylane Vital 15,000.-/cc
Belotero Volume12,900.-/cc
Belotero Soft 12,900.-/cc

ข้อควรระวัง ฟิลเลอร์แท้ และให้บริการโดยแพทย์ตัวจริง ราคาจะต้องไม่ถูกจนน่าตกใจ

หมอต้าร์ แพทย์ประจำดีเลิฟเวอรี่คลินิก

ขั้นตอนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

  1. ส่งรูปปัญหาผิวบริเวณใต้ตา แจ้งปัญหาที่กังวลมาประเมินกับหมอต้าร์โดยตรงได้ที่ช่องแชท หรือมาปรึกษาที่คลินิกดีที่สุด
  2. นัดวัน เวลา รับบริการ
  3. หมอให้ตรวจสอบกล่องฟิลเลอร์ก่อนฉีดทุกครั้ง (สำคัญคนไข้ต้องดูแกะกล่องไปพร้อมๆหมอ)
  4. ฟิลเลอร์บางรุ่นมียาชา แต่บางรุ่นไม่มี ถ้าอยากสบายหน้าต้องเผื่อเวลามาแปะยาชา 40 นาทีก่อนรับบริการค่ะ
  5. รับการรักษา ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที *ตามประมาณฟิลเลอร์และปัญหาแต่ละเคส
  6. เห็นความแตกต่าง จากภาพก่อนทำ หลังทำทันที
  7. รับคำแนะนำ ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์จากแพทย์และเจ้าหน้าที่
  8. ติดตามผลในวันรุ่งขึ้น ติดตามอาการและให้คำแนะนำเพิ่มเติม

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เตรียมตัวอย่างไร

  • ปรึกษาแพทย์: สำคัญที่สุด เพื่อประเมินความเหมาะสม ตรวจสอบประวัติสุขภาพ และเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
  • งดวิตามิน/ยา: เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน น้ำมันปลา วิตามินอี อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดรอยช้ำ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์: อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
  • แจ้งแพทย์: หากมีโรคประจำตัว ภูมิแพ้ หรือตั้งครรภ์/ให้นมบุตร
  • ทำความสะอาดใบหน้า: ก่อนเข้ารับการฉีด หากมีการแต่งหน้ามา เจ้าหน้าที่จะมีการทำความสะอาดตามจุดที่เหมาะสม
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: เพื่อให้ร่างกายพร้อม

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

  • ประคบเย็นหรือทานยาตามที่แพทย์จ่าย: เพื่อลดบวมและช้ำ
  • งดแต่งหน้า: อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
  • นอนหนุนหมอนสูง: 1-2 วัน
  • หลีกเลี่ยง: การกด/นวดบริเวณที่ฉีด, ความร้อนจัด (เช่น อบซาวน่า), ออกกำลังกายหนักที่มีการกระแทกใบหน้าบริเวณที่ฉีด เช่นชกมวย อื่นๆที่มีการปะทะ, แอลกอฮอล์ 2-3 วัน
  • ดื่มน้ำเยอะๆ: ช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่
  • หากมีอาการผิดปกติ: เช่น บวมมาก ปวดมาก ช้ำมาก หรือมีอาการอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ใช่เรื่องต้องห้ามหรืออันตราย แต่เป็นการทำหัตถการที่ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจของคนไข้ ก่อนเข้ารับบริการ หมอสรุปให้สั้นดังนี้นะคะ

 

การแก้ไขปัญหาใต้ตาเป็นร่องสามารถแบ่งออกเป็นหลายวิธียอดนิยม โดยเฉพาะในวงการความงาม ปัจจุบันมีหลายตัวเลือกให้พิจารณา ดังนี้

  1. ฟิลเลอร์ (Filler):
    • ฟิลเลอร์เป็นทางเลือกแรกที่แพทย์จะแนะนำ เนื่องจากสามารถช่วยเติมเต็มใต้ตาให้เรียบเนียนและอิ่มฟูได้
    • ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นฟิลเลอร์จากแบรนด์ที่ได้มาตรฐานและควรได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
    • ขั้นตอนนี้สามารถอยู่ได้นาน ขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
    • ปกติใต้ตาหมออาจจะแนะนำเบื้องต้นไว้ที่ข้างละ 1 กล่อง หรือ 1cc ไว้ก่อนค่ะ ดูตามปัญหาอีกครั้ง โครงสร้างผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน
  2. ไหมน้ำ:
    • บางคนอาจกลัวการฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน การใช้ไหมน้ำสามารถเป็นอีกทางเลือกเพื่อช่วยเติมเต็มใต้ตา
    • ไหมน้ำสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวใต้ตาดูเต่งตึงขึ้น
    • ปริมาณก็จะใช้ตามเหมาะสม เลือกเติมให้พอดี ไม่ต้องเติมเผื่อ เพราะคอลลาเจนจะได้รับการกระตุ้นในภายหลัง
  3. โปรแกรมที่จะไม่ได้ช่วยเรื่องร่องใต้ตา เช่น
    • โบท็อกซ์ เขาจะเหมาะกับการลดริ้วรอย
    • ร้อยไหม เหมาะกับการดึง ยกกระชับผิวที่คล้อย
    • HIFU ยกกระชับต่างๆ เหมาะกับผิวที่ไม่เฟิร์ม ต้องการหน้าตึงกระชับ ยกผิวบางบริเวณ

การเลือกวิธีการที่เหมาะสมควรปรึกษาแพทย์ เพื่อได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุดค่ะ

ดอลลี่อาย คือลักษณะผิวใต้ตาที่นูนโค้งออกมานิดๆ ติดกับขอบตาล่างค่ะ ทำให้ดวงตาดูกลมโต น่ารักแบบตุ๊กตา ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วยค่ะ

วิธีทำดอลลี่อาย เราใช้การฉีดฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิกแอซิดเข้าไปที่ใต้ตา เพื่อสร้างความนูนโค้งขึ้นมาค่ะ คุณหมอจะปรับแต่งรูปทรงให้เข้ากับใบหน้าของคนไข้แต่ละคน

โดยจะใช้ฟิลเลอร์เพียงน้อยนิดเท่านั้นในการเติม ทั้งสองข้างรวมแล้วไม่เกิน 1CC เพื่อให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด การอยู่นานของฟิลเลอร์ดอลลี่อาย ก็จะประมาณ 4-8 เดือนแล้วแต่บุคคล

ตอบแบบเคลียร์ๆไปก่อนเลยว่า “ไม่แนะนำ” เพราะว่ามีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นธรรมชาติ เพราะการกระตุ้นคอลลาเจนต้องใช้ระยะเวลา และควบคุมได้ยาก ปัญหาแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ที่หมอสามารถประเมินความลึก ความยืดหยุ่นของผิวได้แม่นยำ การใส่จำนวนฟิลเลอร์ลงไปให้เหมาะสมจึงทำได้ง่ายกว่า การใช้ Sculptra ซึ่งเป็นสาร PLLA ที่มีโมเลกุลใหญ่มาเติมใต้ตาเสี่ยงต่อการไม่เรียบเนียนได้

หมอขอสรุปเรื่องสารเติมเต็มสองประเภทให้ฟังค่ะ

  1. Regenerative Biostimulator
    • เป็นสารที่กระตุ้นให้ผิวฟื้นฟูตัวเอง
    • ช่วยปรับปรุงโครงสร้างผิว
    • เหมาะสำหรับคนที่อยากมีผิวดูอ่อนเยาว์
    • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  2. Filler (ฟิลเลอร์)
    • เป็นสารที่ใช้เติมเต็มส่วนที่หายไป
    • ช่วยเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้า
    • เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า

ง่ายๆ ก็คือ Regenerative Biostimulator ช่วยให้ผิวดูเด็กลงจากภายใน ส่วน Filler ช่วยเติมเต็มจุดที่ต้องการโดยตรงค่ะ

ใช้เวลารับบริการ:

30

นาที

ให้บริการโดย:

แพทย์ประจำ

เติมฟิลเลอร์ใต้ตาให้ปลอดภัย ต้องเลือกทำในสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน และให้บริการโดยแพทย์เท่านั้น

★★ ความประทับใจ ★★

google
facebook
facebook
Savaros Rodprasert
แนะนำเลย
facebook
Pupae Panisara
แนะนำเลย
facebook
facebook
Nipha Psy
แนะนำเลย
facebook
Natanicha Charbumrung
แนะนำเลย
facebook
Kru JaAea Masuk
แนะนำเลย
google
google
facebook
facebook
Jinwara H. New
แนะนำเลย
google
facebook
Lawleit Schneider
แนะนำเลย
google
facebook
Ning BarbieGrils
แนะนำเลย
facebook
Rose Anytime
แนะนำเลย
facebook
google
facebook
Jenifer Rich
แนะนำเลย