Teoxane คืออะไร ดียังไง?
Teoxane เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อมอบผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและให้ความรู้สึกนุ่มนวลเมื่อสัมผัส นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดอาการบวมและรอยฟกช้ำหลังฉีด เป็น Dynamic Filler สามารถยืดหยุ่นไปตามการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ

ฟิลเลอร์ Teoxane ผลิตจากประเทศไหน ?
Teoxane ผลิตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์

Teoxane Filler
Teoxane Filler ผลิตด้วยเทคโนโลยี RHA (Resilient Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Teoxane ที่ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับตัวเข้ากับการแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
“‘Dynamic Filler’ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้หลากหลาย สามารถฉีดได้ทั้งชั้นใต้ผิวหนัง (subdermal) และชั้นไขมันตื้น (superficial fat layers) โดยเมื่อแสดงสีหน้า (facial expression) แล้วจะไม่เกิดเป็นก้อนหรือลำนูน สังเกตได้จากโฆษณาที่นางแบบจะแสดงสีหน้าอย่างเต็มที่ ทั้งยิ้มและพูด
เทคโนโลยี ‘RHA’ ใช้สายโมเลกุล Hyaluronic Acid (HA) ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงมาก (Very long High Molecular Weight – HMW) และพับไปมา ทำให้เกิดพันธะที่เป็นธรรมชาติและเคลื่อนไหวได้ (Natural & mobile bonds) จึงช่วยลดการดัดแปลงโครงสร้างของ HA และลดปริมาณสารเชื่อมโยง BDDE (1,4-butanediol diglycidyl ether) ที่ใช้ในกระบวนการผลิต”
Dynamic Filler เป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถฉีดได้ในชั้นผิวหนังที่ต่างกัน และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เคลื่อนไหวตามสีหน้าได้อย่างอิสระ โดยไม่เกิดเป็นก้อนหรือลำนูน ทั้งนี้เป็นผลมาจากเทคโนโลยี RHA ที่ใช้ HA น้ำหนักโมเลกุลสูงและลดการใช้สารเชื่อมโยง ทำให้ได้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเหมือนกับ HA ตามธรรมชาติในผิวหนังมากขึ้น


ฟิลเลอร์ Teoxane แก้ปัญหาอะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์ HA ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาต่อไปนี้
- ริ้วรอยและร่องลึก ทุกตำแหน่ง เช่น ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก ร่องใต้ตา
- ริมฝีปากบาง
- แก้มตอบ ขมับตอบ
- คางสั้น คางบุ๋ม
- ต้องการปรับกรอบหน้าให้ชัด
จุดเด่น Teoxane Filler
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- รู้สึกนุ่มนวลเมื่อสัมผัส
- เทคโนโลยี RHA ช่วยลดอาการบวมและรอยฟกช้ำ
- มีความยืดหยุ่นสูง ปรับตัวเข้ากับการแสดงสีหน้าได้ดี
- มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก อย.

ข้อดี-ข้อเสียของ ฟิลเลอร์ Teoxane
ข้อดี:
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
- มีหลายโมเลกุลให้เลือกตามปัญหา
- เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังทำ
- ปลอดภัย ผ่านการรับรอง
ข้อเสีย:
- ราคาค่อนข้างสูง
- อาจต้องฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์
ฟิลเลอร์ Teoxane เหมาะกับใครบ้าง ?
Teoxane เป็นฟิลเลอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ปรารถนาผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สามารถกลืนกับชั้นผิวได้อย่างกลมกลืน และยังคงให้ผู้ใช้สามารถแสดงสีหน้าได้ตามปกติ เช่น เวลายิ้ม ใบหน้าจะไม่ดูเป็นก้อนหรือยิ้มไม่เต็มที่
ด้วยการผสมผสานคุณสมบัติเรื่องความยืดหยุ่นและความคงตัวเข้าด้วยกัน ทำให้ฟิลเลอร์ชนิดนี้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมใต้ชั้นผิวหนัง สามารถคงรูปและปริมาตรได้คงที่แม้ใบหน้ามีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะบริเวณรอบปากและแก้ม ซึ่งเป็นจุดที่มีการขยับตัวอยู่ตลอดเวลา
ความโดดเด่นของฟิลเลอร์ Teoxane อยู่ที่สาร hyaluronic acid ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Preserved Network Technology (PNT) ช่วยรักษาโครงสร้างโมเลกุลและพันธะของ hyaluronic acid ให้มีความคล้ายคลึงกับ hyaluronic acid ตามธรรมชาติในร่างกาย ส่งผลให้ฟิลเลอร์สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใต้ชั้นผิวหนังได้เป็นอย่างดี แม้จะมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ แต่ก็ยังคงรูปร่างได้โดยไม่เสื่อมสภาพในระหว่างนั้น
- ริ้วรอยและร่องลึก
- ริมฝีปากบาง
- โหนกแก้มตอบ
- คางสั้น
- ใต้ตาคล้ำลึก
- ร่องแก้มชัด
- ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นผิว

ฟิลเลอร์ Teoxane ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
ฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้บริเวณต่อไปนี้
- ร่องแก้ม
- ร่องมุมปาก
- ริมฝีปาก
- โหนกแก้ม
- จมูก
- คาง

ริ้วรอยร่องลึกทั่ว ๆ ไป Teoxane สามารถช่วยแก้ได้ไหม ?
ได้ Teoxane สามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกทั่ว ๆ ไปได้ ด้วยเทคโนโลยี RHA ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับตัวเข้ากับการแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
Teoxane Filler มีกี่รุ่น ?
Teoxane Filler ที่ผลิตออกมามีทั้งหมด 9 รุ่น แต่ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทยเพียง 3 รุ่น (อัพเดท 29 ก.พ. 2567)
รุ่น Teoxane Filler ทั้งหมด | รุ่น Teoxane Filler ที่ผ่าน อย. ไทย |
---|---|
Teoxane Redensity 1 | ✘ |
Teoxane RHA 1 | ✘ |
Teoxane RHA 2 | ✔ |
Teoxane RHA 3 | ✔ |
Teoxane RHA 4 | ✘ |
Teoxane Ultra Deep | ✔ |
Teoxane Redensity 2 | ✘ |
Teoxane RHA Kiss | ✘ |
Teoxane Kiss | ✘ |

Teoxane รุ่นที่มีการพูดถึงมากที่สุด
- Teoxane รุ่น Ultra Deep
รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อฉีดเพิ่ม Volume ในผิวชั้นลึก หรือชั้นใต้กล้ามเนื้อ เหมาะใช้ฉีดเพื่อยกกระชับและปรับโครงสร้างใบหน้า เช่น การฉีดฟิลเลอร์ขมับ แก้มส้ม คาง กรอบหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้นาน เป็นธรรมชาติ
- Teoxane รุ่น RHA2
รุ่นนี้ใช้สำหรับการรักษาริ้วรอยที่มีความลึกปานกลาง และเสริมในส่วนที่ยุบตัวลงบนใบหน้า เช่น ลดร่องระหว่างคิ้ว หรือฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อเสริมความโหนกนูน นอกจากนี้ยังสามารถฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อปรับรูปทรงและเพิ่มความอวบอิ่มได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- Teoxane รุ่น RHA3
รุ่นนี้เหมาะเติมเต็มร่องลึกและเพิ่ม Volume ให้กับผิวหน้า ลดริ้วรอยระดับปานกลางถึงรุนแรง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปาก เนื้อเจลจะมีความหนากว่ารุ่น RHA 2

Teoxane แต่ละบริเวณ ใช้กี่ CC ?
การฉีด HA Filler ในแต่ละบริเวณของใบหน้า โดยทั่วไปจะใช้ปริมาณดังนี้
บริเวณ | ปริมาณ (CC) |
---|---|
หน้าผาก | 1-2 |
ร่องแก้ม | 1-2 |
แก้มตอบ | 1-2 |
แก้มส้ม | 1-2 |
ลิฟกรอบหน้า | 1-2 |
ใต้ตา | 0.5-2 |
ริมฝีปาก | 0.5-1 |
มุมปาก | 0.5-1 |
คาง | 1-2 |
ขมับ | 1-2 |
ลำคอ | 1-2 |
หมายเหตุ: ปริมาณที่ใช้อาจแตกต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละบุคคล และดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นของ HA Filler ที่ใช้ด้วย
ฟิลเลอร์ Teoxane ผ่าน อย. ไหม ?
ผ่าน อย. ประเทศไทย ทั้ง 3 รุ่น RHA2, RHA3, และ Ultradeep

เปรียบเทียบกับ Teoxane Filler
ยี่ห้อ | รุ่น | ฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ที่มีข้อบ่งชี้ที่คล้ายกัน |
---|---|---|
Restylane | Defyne | เนื้อแน่น Teosyal RHA 2 เหมาะสำหรับการยกกระชับ |
Juvederm | Voluma | เนื้อหนา เหมาะสำหรับการเสริมจมูก เติมขมับตอบมากๆ และคาง |
Belotero | Intense | เนื้อนุ่ม เหมาะสำหรับริ้วรอยเล็ก ๆ และบริเวณที่ต้องการความเป็นธรรมชาติสูง |
Teoxane Filler คุ้มค่าไหม
Teoxane Filler เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูงและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์มักราคาสูง ควรพิจารณาความคุ้มค่าและปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีด โดยเฉพาะเคสที่มีปัญหาผิวหน้าเยอะ การใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 cc อาจจะไม่ตอบโจทย์ ฉีดฟิลเลอร์เป็นทางเลือกหนึ่งในการปรับรูปหน้าและลดริ้วรอยจากวัย ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน เพื่อประเมินความเหมาะสมและความคุ้มค่าสำหรับแต่ละบุคคล

การดูแลตัวเองก่อน-หลัง ฉีดฟิลเลอร์ ?
ก่อนฉีด:
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และยาต้านการอักเสบ
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้และโรคประจำตัว
- งดการฉีดวัคซีนก่อนฉีดฟิลเลอร์ 2 สัปดาห์
หลังฉีด:
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเพื่อลดอาการบวม
- นอนหนุนหัวสูงเพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดโดยตรง
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักและการอาบน้ำอุ่น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ฉีดฟิลเลอร์ Teoxane กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ? นานเท่าไรจึงฉีดซ้ำ ?
- เห็นความแตกต่าง: ทันทีหลังทำ
- ผสานเป็นเนื้อเดียวกับผิว: 1-2 สัปดาห์
- อยู่ได้นาน: 6-18 เดือน
- ฉีดซ้ำ: 6-12 เดือน

Teoxane Filler อันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงไหม ?
Teoxane Filler มีความปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงได้เหมือนกับ HA ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อ
- อาการบวมและรอยฟกช้ำ
- อาการปวดและคัน
- การติดเชื้อ
- การอุดตันของเส้นเลือด
- ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ทุกตำแหน่ง ทุกครั้ง!

Teoxane รีวิว
ฟิลเลอร์ Teoxane ได้รับการรีวิวที่ดีจากผู้ใช้ โดยส่วนใหญ่ชื่นชมผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและความรู้สึกนุ่มนวลเมื่อสัมผัส








รีวิว HA Filler
Teoxane Filler ราคาเท่าไร
ราคาควรสมเหตุสมผล ให้บริการโดยสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต และรักษาโดยแพทย์ ราคาไม่ถูกเกินจริง 15,000-20,000 บาท ต่อ CC
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
- คลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุข ตรวจสอบใบอนุญาต สถานพยาบาลได้ที่นี่
- แพทย์ผู้ฉีดมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ
พิจารณาอะไรบ้าง
- ความน่าเชื่อถือของสถานที่ฉีด
- รีวิวบอกต่อจากผู้เข้ารับบริการจริง ที่ไม่ใช่ดารา ไอดอล
- ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์
- ราคาและโปรโมชั่น

“Facial Harmony Filler” ไม่ใช่เทคนิคที่เป็นความลับหรือมีใครเป็นเจ้าของค่ะ แต่มันคือ “ปรัชญา” และ “ศิลปะ” ในการปรับรูปหน้า ที่เปลี่ยนมุมมองจากการ “เติมเป็นจุดๆ” มาเป็นการ “ปั้นและออกแบบใบหน้าแบบองค์รวม” ค่ะ หัวใจสำคัญคือการที่แพทย์ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและสร้างความสมดุลให้ทุกส่วนประกอบบนใบหน้าดูกลมกลืนกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่แค่การเติมเต็มส่วนที่ขาด แต่คือการ คืนความอ่อนเยาว์ สร้างมิติที่สวยงาม และดึงความงามในแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุดของคนไข้ ออกมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการย้ำเตือนให้คนไข้เข้าใจว่า การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ แต่ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์อย่างแท้จริงค่ะ
คือ โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อ “ป้องกันและลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ” เช่น เวลายักคิ้ว ในขณะที่ ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ “เติมเต็มร่องลึกถาวร” ที่มองเห็นแม้จะทำหน้าเฉยๆ ค่ะ ในหลายกรณี การใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างครอบคลุมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ในผู้ชายมีความแตกต่างจากผู้หญิงอย่างชัดเจนในเรื่องของเป้าหมายและเทคนิคค่ะ สำหรับผู้ชายจะเน้นการฉีดเพื่อเสริมสร้างความคมชัดของกรอบหน้า (Masculinization) เช่น การทำให้หน้าผากดูกว้างและตรง, สร้างสันจมูกให้คม, เพิ่มความกว้างและความเหลี่ยมของคาง, และสร้างแนวกรามให้คมชัดเป็นสัน เพื่อส่งเสริมโครงสร้างที่ดูแข็งแรงตามแบบผู้ชาย ในขณะที่ การฉีดในผู้หญิงจะเน้นการสร้างความโค้งมน อ่อนหวาน (Feminization) เช่น การทำให้หน้าผากโหนกนูน, สร้างโหนกแก้มให้ดูอิ่มเอิบ, ทำให้คางเรียวเป็น V-shape และปั้นปากให้อวบอิ่มสวยงามค่ะ
อย่างไรก็ตาม ในบริเวณอื่นๆ เช่น ใต้ตาและร่องแก้ม เทคนิคและเป้าหมายจะมีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากปัญหาเกิดจากการยุบตัวของโครงสร้างใต้ผิวหนังเหมือนกัน เป้าหมายหลักจึงเป็นการ “เติมเต็ม” เพื่อแก้ปัญหาร่องลึกและความโทรมให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น แต่ทั้งนี้ แพทย์จะยังคงพิจารณาปริมาณฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละเพศ และใช้เทคนิคการเกลี่ยที่พิถีพิถัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและส่งเสริมเอกลักษณ์ของคนไข้แต่ละคนได้ดีที่สุดค่ะ
ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย รวมถึงฟิลเลอร์ ที่เป็นกล่องๆ ที่ผ่าน อย. แบบที่เราคุ้นเคยกันนั้นจะค่อย ๆ สลายตัวเองตามกระบวนการปกติของร่างกายค่ะ โดยมีเอนไซม์มาค่อย ๆ ย่อยสลายฟิลเลอร์จนกลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็กมาก ๆ สุดท้ายจะถูกดูดซึมและขับออกจากร่างกายไปตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับของเสียอื่น ๆ จึงมั่นใจได้ว่า ไม่มีการตกค้างเป็นอันตราย หรือไหลไปสะสมที่อื่นแน่นอนค่ะ
คนไข้หลายคนเข้าใจว่าตอนแรกฟิลเลอร์มีลักษณะเป็น “เจล” เพราะคลินิกต้องเอาหลอดฟิลเลอร์ให้ดูก่อนฉีดอยู่แล้ว และสุดท้ายก็กลายเป็นน้ำ “ถูกขับออกจากร่างกายไป” อันนี้ก็ต้องบอกว่าถูกต้องเหมือนกันค่ะ แต่หมอขอขยายส่วนที่บอกว่ากลายเป็น “น้ำ” นิดนึงค่ะ
จริงๆ แล้วฟิลเลอร์ HA ไม่ได้สลายตัวกลายเป็น “น้ำ” (H₂O) โดยตรงค่ะ แต่กระบวนการที่ถูกต้องคือ
- จากเจลสู่โมเลกุลน้ำตาล: เอนไซม์ในร่างกายจะย่อยสลายเนื้อเจลของฟิลเลอร์ ให้กลายเป็นโมเลกุลที่เล็กลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายอยู่ในรูปของ “โมเลกุลน้ำตาล” ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสาร Hyaluronic Acid ค่ะ
- ร่างกายนำไปใช้และขับออก: หลังจากนั้น ร่างกายก็จะดูดซึมโมเลกุลน้ำตาลเหล่านี้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ หรือ ขับออกตามกระบวนการขับของเสียปกติของร่างกาย ซึ่งก็คือผ่านทางปัสสาวะหรือเหงื่อนั่นเองค่ะ
ดังนั้น ที่คนไข้เข้าใจว่ามันกลายเป็นของเหลวแล้วถูกขับออกนั้นถูกต้องเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้เป๊ะๆ ตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็คือ จากเจล กลายเป็นน้ำตาล แล้วจึงถูกขับออก นั่นเองค่ะ
มีอะไรสงสัยถามหมอได้อีกเลยนะคะ ยินดีตอบเสมอค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์มือจะเน้นฉีดที่บริเวณ “หลังมือ” เป็นหลัก ไม่ได้ฉีดที่ “ข้อมือ หรือนิ้วมือ” โดยตรง นะคะ เพราะเป็นการแก้ปัญหา มือเหี่ยว ผิวบางจนเห็นเส้นเลือดและเส้นเอ็น ได้อย่างตรงจุด ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดู เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ มากที่สุดค่ะ การเติมเต็มที่หลังมือจะช่วยฟื้นฟูให้มือกลับมาดูอวบอิ่มและอ่อนเยาว์ขึ้นโดยรวมค่ะ
หากคนไข้ส่องกระจกแล้วเห็นว่าใต้ตา “เป็นร่องลึกชัดเจน” มีลักษณะยุบตัวลงไป การแก้ไขที่ตรงจุดคือ “การฉีดฟิลเลอร์” เพื่อเข้าไปเติมเต็มร่องนั้นให้ตื้นขึ้นค่ะ แต่ถ้าปัญหาหลักของคนไข้คือ “ผิวใต้ตาบาง” จนมองเห็นเป็นสีคล้ำๆ หรือมี “ริ้วรอยเล็กๆ” เยอะๆ แบบนี้การเลือกทำ “ไหมน้ำ” หรือ Biostimulator เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหนาและแข็งแรงขึ้น จะเป็นคำตอบที่เหมาะสมมากกว่าค่ะ ซึ่งในบางเคสอาจต้องทำทั้งสองอย่างร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะ
เบื้องต้นควรฉีด 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 4 สัปดาห์ก่อนเพื่อให้ผิวฟื้นฟู จากนั้นสามารถทิ้งระยะในการฉีดได้โดยฉีดทุกๆ 6 เดือนนะคะ
การฉีด Profhilo บริเวณใบหน้าจำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 1 ไซริงค์ (2 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 25,000 บาทค่ะ แต่หากเป็นการฉีดบริเวณใบหน้าและลำคอ จำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 2 ไซริงค์ (4 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 45,000 บาทค่ะ
สวัสดีค่ะ D’Lovevery Clinic ยินดีให้บริการค่ะ 😊
ไม่ทราบว่าสนใจสอบถามข้อมูลฟิลเลอร์ JUVEDERM ตัวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ตอนนี้เรามีโปรโมชั่นสุดพิเศษ ทุกโมเลกุลราคาเดียวเลยค่ะ
- 1 cc ราคา 18,000 บาท
- 2 cc ราคา 30,000 บาท
- 3 cc ราคา 39,000 บาท
สามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อประเมินใบหน้าก่อนได้นะคะ หรือถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม ถามแอดมินได้เลยค่า