หัวข้อเนื้อหา เกี่ยวกับรายละเอียด Restylane ฟิลเลอร์ ที่มีการค้นหาบ่อยที่สุด
รวบรวมข้อมูลที่มีการค้นหาบ่อยที่สุดเกี่ยวกับ Restylane ฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในการเติมเต็มริ้วรอยและปรับรูปหน้า เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ความหมายของ Restylane ฟิลเลอร์ ประเภทและความแตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น บริเวณที่เหมาะสำหรับการฉีด ขั้นตอนการฉีด ผลลัพธ์และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายและข้อควรพิจารณาในการเลือกสถานพยาบาลและแพทย์

สรุปย่อ ฟิลเลอร์ Restylane
| คุณสมบัติ | รายละเอียด |
|---|---|
| ชนิดของฟิลเลอร์ | Hyaluronic acid |
| ประเทศต้นกำเนิด | สวีเดน |
| ระยะเวลาที่ใช้ในวงการแพทย์ | มากกว่า 25 ปี |
| ความปลอดภัย | สูง เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรอง |
| การย่อยสลาย | ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติโดยเอนไซม์ Hyaluronidase ในผิวหนัง |
| ผลข้างเคียง | บวม แดง ได้บ้างในบางประเภทผิว |
| ความเป็นธรรมชาติ | สูง เนื่องจากโครงสร้างโมเลกุลเลียนแบบโครงสร้างธรรมชาติของผิวหนัง |
| ความหลากหลายของเนื้อฟิลเลอร์ | มีหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละบริเวณบนใบหน้า |
| การรับรองจาก อย. ไทย | ผ่านการรับรอง |
Restylane ฟิลเลอร์ คืออะไร?
Restylane เป็นฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic acid จดทะเบียนในประเทศสวีเดน และใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกมานานกว่า 25 ปี ด้วยคุณสมบัติของเนื้อเจลที่มีความเป็นธรรมชาติ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน Restylane มีเนื้อฟิลเลอร์หลากหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของโครงสร้างผิวหน้าและลักษณะผิวหนังในแต่ละบริเวณ
Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติโดยเอนไซม์ Hyaluronidase ในผิวหนัง จึงไม่ก่อให้เกิดการตกค้างหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เนื่องจากโครงสร้างโมเลกุลของ Hyaluronic acid ใน Restylane มีการเชื่อมโยงกันน้อยมาก และเลียนแบบโครงสร้างธรรมชาติของผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยม
Restylane ฟิลเลอร์ เหมาะกับการเติมเต็มส่วนใดบ้าง?
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม ที่แพทย์สามารถนำมารักษา ปรับรูปหน้า แก้ไขรูปหน้า ให้สมส่วน อ่อนกว่าวัย ดูเป็นธรรมชาติได้ โดยแต่ละบริเวณที่ปริมาณการใช้ฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันไป ตามแต่ละบุคคลดังนี้
บริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้โดยประมาณ

| บริเวณ | ปริมาณฟิลเลอร์ (cc) |
|---|---|
| ฟิลเลอร์ขมับ | 1-2 cc/ข้าง |
| ฟิลเลอร์แก้ม | 1-3 cc/ข้าง |
| ฟิลเลอร์ใต้ตา | 0.5-1 cc/ข้าง |
| ฟิลเลอร์ร่องแก้ม | 1-2 cc/ข้าง |
| ฟิลเลอร์ร่องน้ำหมาก | 0.5-1 cc/ข้าง |
| ฟิลเลอร์คาง | 1-2 cc |
| ฟิลเลอร์ปาก | 0.5-1 cc/ข้าง |
| ฟิลเลอร์กรอบหน้า | 2-4 cc/ข้าง |
| ฟิลเลอร์หลังมือ | 1-2 cc/ข้าง |
| ฟิลเลอร์ลำคอย่น | 2-3 cc |
หมายเหตุ:
- ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการฉีด ช่วงอายุ ปัญหา ความต้องการของแต่ละบุคคล และความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการฉีด
ฟิลเลอร์ Restylane ต่างจากฟิลเลอร์อื่นๆอย่างไร?
OBT Dermal Fillers เป็นรุ่นที่มีเนื้อ Soft Gel ที่ช่วยเติมเต็มริ้วรอยด้วยสาร Hyaluronic Acid ให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบางและต้องการแสดงสีหน้าได้อย่างเต็มที่ โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 24 เดือน*
- OBT Dermal Fillers
- VOLYME: เติมเต็มใบหน้า ขมับ และแก้มตอบ เพื่อคืนความอ่อนเยาว์
- DEFYNE: ยกกระชับและปรับโครงสร้างใบหน้า เสริมความนุ่มนวล
- KYSSE: เติมเต็มและปรับรูปทรงริมฝีปากให้สวยน่าหลงใหล
- REFYNE: เติมเต็มริ้วรอย ร่องแก้ม และร่องน้ำหมาก ให้ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่นได้ดี




NASHA Dermal Filler (Firm Gel) เป็นฟิลเลอร์ที่มีความแข็งแรงและคงรูปได้ดี โดยไม่ผสานกับผิวข้างเคียง เหมาะสำหรับการเติมเต็มและปรับรูปหน้าให้ได้รูปทรงที่สวยงาม คมชัด และโดดเด่นมากขึ้น ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนี้ ได้แก่ Restylane Lyft และ Restylane Classic ซึ่งใช้ในการฉีดยกกระชับแก้ม เสริมรูปทรงคาง จมูก กรอบขากรรไกรล่าง รวมถึงเติมเต็มขมับหรือยกคิ้ว
- NASHA Dermal Filler
- CLASSIC ช่วยเติมเต็มใบหน้าเหมาะสำหรับบริเวณร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และใต้ตาช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 24 เดือน*
- LYFT ช่วยยกกระชับโครงหน้าเหมาะสำหรับบริเวณแก้ม คาง และโครงสร้างใบหน้าโดยรวมช่วยให้ใบหน้าดูสวยคมและมีมิติ กรอบหน้าชัดเจนให้ผลลัพธ์ความงามที่ยาวนานถึง 24 เดือน*



ขั้นตอนการฉีด Restylane ฟิลเลอร์
- ปรึกษาแพทย์ ปัญหา บริเวณที่ต้องการแก้ไข
- ทายาชาก่อนการฉีด หากมีการแพ้ยาชา ควรแจ้งเจ้าหน้าที่
- แพทย์ทำการฉีด Restylane ฟิลเลอร์
- ประคบเย็นหลังการฉีด
ผลลัพธ์หลังการฉีด Restylane ฟิลเลอร์
- เห็นผลลัพธ์หลังฉีดทันที
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่น ตำแหน่ง การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น รอยเข็ม รอยช้ำ อาการบวม
- ฟิลเลอร์จะเริ่มสลายตัวไปตามธรรมชาติเมื่อระยะเวลาผ่านไป
ทำไม ฟิลเลอร์ Restylane ได้รับความนิยม?
เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ดังนี้
- มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากผลิตจากกรดไฮยาลูโรนิคที่ได้จากการสังเคราะห์ทางชีวภาพ ไม่ได้มาจากสัตว์ จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรืออาการข้างเคียง
- มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ความต้องการในการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณต่างๆ ของใบหน้า ทั้งบริเวณที่ต้องการความอ่อนนุ่ม และบริเวณที่ต้องการความแข็งแรงและคงทน
- ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งกระด้าง หรือเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของใบหน้ามากจนเกินไป
- มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สามารถคงอยู่ได้นานหลายเดือนหรือเป็นปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด
- เป็นแบรนด์ที่มีมานาน จึงมี Knowledge Know How ให้แพทย์ได้ศึกษาเยอะ มีงานวิจัย ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
Restylane ของแท้ ของปลอม เช็คอย่างไร?
Restylane ฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่?
| รุ่น | ราคาโดยประมาณ |
|---|---|
| Restylane Lyft | 15,000 – 25,000 บาท/cc |
| Restylane Classic | 15,000 – 25,000 บาท/cc |
| Restylane Refyne | 15,000 – 25,000 บาท/cc |
| Restylane Defyne | 15,000 – 25,000 บาท/cc |
| Restylane Kysse | 12,000 – 25,000 บาท/cc |
| Restylane Vital | 12,000 – 20,000 บาท/cc |
| Restylane Skinboosters Vital Light | 12,000 – 20,000 บาท/cc |
| Restylane Skinboosters Vital | 12,000 – 20,000 บาท/cc |
หมายเหตุ:
- ราคาที่ระบุเป็นราคาโดยประมาณ อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและโปรโมชั่น
- ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการฉีดและความต้องการของแต่ละบุคคล
- ควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ตรวจสอบได้ เพื่อประเมินความเหมาะสมและเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับคุณ

ทำไม ฟิลเลอร์ Restylane บางที่ราคาถูกผิดปกติ?
ฟิลเลอร์ Restylane ที่มีราคาถูกผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ดังนี้
- ฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน: ฟิลเลอร์ปลอมมักมีราคาถูกกว่าฟิลเลอร์แท้ เนื่องจากผลิตจากสารที่ไม่ได้รับการรับรองและอาจมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย การใช้ฟิลเลอร์ปลอมมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น การอักเสบ ติดเชื้อ หรือเนื้อเยื่อตาย
- ฟิลเลอร์ใกล้หมดอายุ: ฟิลเลอร์ที่ใกล้หมดอายุอาจมีราคาถูกกว่าฟิลเลอร์ใหม่ เนื่องจากผู้ขายต้องการระบายสินค้าออก การใช้ฟิลเลอร์ใกล้หมดอายุอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงและอาจไม่คงอยู่นานเท่าที่ควร
ฟิลเลอร์ Restylane ของแท้ ของปลอม ตรวจสอบอย่างไร?
การตรวจสอบฟิลเลอร์ Restylane ว่าแท้หรือไม่นั้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงสแกนที่ QR code ข้างกล่องฟิลเลอร์ โดยใช้แอปพลิเคชัน eZTracker : Safety in Each Scan ซึ่งจะแสดงผลทันทีว่าเป็นของแท้หรือไม่ รวมถึงแสดงวันหมดอายุ และคำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์

วิธีการตรวจสอบ:
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน eZTracker : Safety in Each Scan จาก App Store หรือ Google Play
- เปิดแอปพลิเคชัน eZTracker
- สแกน QR code ที่อยู่ข้างกล่องฟิลเลอร์ Restylane
- แอปพลิเคชันจะแสดงผลทันที


ผลลัพธ์:
- หน้าจอสีเขียว: ผลิตภัณฑ์แท้ “ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ถูกนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดย บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด”
- หน้าจอสีส้ม: ผลิตภัณฑ์ปลอม สามารถกดรายงานในแอปพลิเคชันให้บริษัทตรวจสอบได้ทันที
ข้อดีของการตรวจสอบด้วย QR Code:
- สะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการใช้งาน
- ตรวจสอบได้ทันที ไม่ต้องรอผลตรวจนาน
- ปลอดภัย มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ *ต้องตรวจสอบก่อนแพทย์ให้การรักษา ไม่ใช่หลังรับการรักษา
- ช่วยป้องกันการใช้ฟิลเลอร์ปลอม


ข้อควรระวังก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อ
- ต้องรับบริการในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือและได้รับอนุญาตเท่านั้น
- คนไข้มีสิทธิในการขอดูผลิตภัณฑ์ก่อนรับการรักษา
- ตรวจสอบวันหมดอายุของฟิลเลอร์ก่อนการฉีด
- ต้อสามารถทราบ หรือตรวจสอบชื่อแพทย์ ใบอนุญาต ผู้จะทำการรักษาได้
- ไม่ควรหลงเชื่อราคาที่ถูกผิดปกติ
ทำไมต้องที่ D’ Lovevery Clinic
การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและไว้วางใจได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจึงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคุณในทุกๆ ด้าน
- เป็นส่วนตัวและใส่ใจ ไม่ต้องรอนาน ไม่แออัด แพทย์ให้คำปรึกษาแบบ case-by-case ละเอียด ไม่เร่งรีบ
- สบายใจไม่มีแรงกดดัน ไม่มีเซลส์คอยปิดการขาย ไม่มีการบังคับซื้อคอร์ส
- จ่ายสบายเลือกได้ มีระบบมัดจำ แบ่งจ่ายได้ มี Shopee PayLater และผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิต
- ดูแลต่อเนื่องโดยแพทย์คนเดิม ติดตามผลกับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยตรง
- รีวิวจริงจากลูกค้าจริง รวมรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ไม่ใช่ดาราหรือ Influencer
- แพทย์ประสบการณ์สูงตรวจสอบได้
- คลินิกมาตรฐาน เดินทางสะดวก คลินิกผ่านการรับรอง มีที่จอดรถฟรี
- โปร่งใสและตรวจสอบได้ ข้อมูลรวดเร็ว เช็คคอร์สคงเหลือได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ทุกตัวผ่าน อย. ไทยและตรวจสอบได้

ปัญหา “แก้มแฮมสเตอร์” หรือแก้มกระรอก แล้วแต่จะเรียก ที่คนไข้มักกังวล คือภาวะที่ใบหน้าส่วนล่างดูบวมหรือยื่นออกมาคล้ายกระพุ้งแก้มของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กๆ ซึ่งชาวต่างชาติมักเรียกปัญหานี้รวมๆ ว่า “Trout Pout” หรือ “Overfilled” อันเกิดจากการฉีดสารเติมเต็มมากเกินไปหรือผิดเทคนิค จนทำให้ใบหน้าดูหนัก ไม่เป็นธรรมชาติ และสูญเสียความกลมกลืน แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับคนไข้ภายใต้การดูแลของเราอย่างแน่นอน เพราะเรายึดมั่นในหลักการ “ความงามที่เป็นธรรมชาติ” ด้วยการประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียด ใส่ใจในทุกมิติ และที่สำคัญคือ “รู้จักที่จะหยุดเมื่อพอดี” ในปริมาณที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้คือความงามที่สมดุลและดูดีอย่างยั่งยืนค่ะ
ความถี่ในการฉีดฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นชนิดของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด ไลฟ์สไตล์ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด อีกนัยนึงคือ คนไข้ที่มีปัญหาเยอะและต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมาก (หลาย cc) อาจจะต้องแบ่งการฉีดออกเป็นหลายเซสชั่น (เช่น 2 ครั้ง) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะสม เพราะการอัดฟิลเลอร์เข้าไปในปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียว อาจจะไม่เหมาะกับบางเคส ดังนั้น การปรึกษารับบริการกับแพทย์ที่มีประสบการณ์จริง เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ
ต้องบอกว่าจริงบางส่วน แต่มันไม่ใช่ทุกคน ทุกบริเวณ และทุกครั้งค่ะ
การที่ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยหลักที่ส่งผลคือ ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ บริเวณที่ฉีด การดูแลตัวเองหลังฉีด และกระบวนการสลายของร่างกายแต่ละบุคคล แม้ว่าการฉีดตอนอายุน้อยอาจมีส่วนช่วยให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้ดีขึ้นเล็กน้อยจากสภาพผิวที่สมบูรณ์กว่า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ
การดูแลผิวหน้าให้สวยสมบูรณ์แบบและอ่อนเยาว์นั้น ไม่ใช่แค่การดูแลผิวชั้นบนเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจว่าปัญหาเกิดจากชั้นผิวไหน เพื่อให้หมอเลือกโปรแกรมที่ ตรงจุด เช่น โปรแกรม Sculptra, Profhilo, Radiesse, Thermage FLX, Potenza, Oligio เหมาะกับการปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนังและไขมันตื้น, โปรแกรม Botox ใช้กับริ้วรอยจากการทำงานของกล้ามเนื้อ, โปรแกรม Ulthera ยกกระชับโครงสร้างลึกถึงชั้น SMAS, และ โปรแกรม Filler ช่วยเสริมสร้างและเติมเต็มโครงสร้างกระดูกและไขมันชั้นลึก การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินปัญหาในแต่ละชั้นผิวอย่างละเอียด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สวยงามและยั่งยืนค่ะ
“Facial Harmony Filler” ไม่ใช่เทคนิคที่เป็นความลับหรือมีใครเป็นเจ้าของค่ะ แต่มันคือ “ปรัชญา” และ “ศิลปะ” ในการปรับรูปหน้า ที่เปลี่ยนมุมมองจากการ “เติมเป็นจุดๆ” มาเป็นการ “ปั้นและออกแบบใบหน้าแบบองค์รวม” ค่ะ หัวใจสำคัญคือการที่แพทย์ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและสร้างความสมดุลให้ทุกส่วนประกอบบนใบหน้าดูกลมกลืนกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่แค่การเติมเต็มส่วนที่ขาด แต่คือการ คืนความอ่อนเยาว์ สร้างมิติที่สวยงาม และดึงความงามในแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุดของคนไข้ ออกมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการย้ำเตือนให้คนไข้เข้าใจว่า การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ แต่ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์อย่างแท้จริงค่ะ
คือ โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อ “ป้องกันและลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ” เช่น เวลายักคิ้ว ในขณะที่ ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ “เติมเต็มร่องลึกถาวร” ที่มองเห็นแม้จะทำหน้าเฉยๆ ค่ะ ในหลายกรณี การใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างครอบคลุมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ในผู้ชายมีความแตกต่างจากผู้หญิงอย่างชัดเจนในเรื่องของเป้าหมายและเทคนิคค่ะ สำหรับผู้ชายจะเน้นการฉีดเพื่อเสริมสร้างความคมชัดของกรอบหน้า (Masculinization) เช่น การทำให้หน้าผากดูกว้างและตรง, สร้างสันจมูกให้คม, เพิ่มความกว้างและความเหลี่ยมของคาง, และสร้างแนวกรามให้คมชัดเป็นสัน เพื่อส่งเสริมโครงสร้างที่ดูแข็งแรงตามแบบผู้ชาย ในขณะที่ การฉีดในผู้หญิงจะเน้นการสร้างความโค้งมน อ่อนหวาน (Feminization) เช่น การทำให้หน้าผากโหนกนูน, สร้างโหนกแก้มให้ดูอิ่มเอิบ, ทำให้คางเรียวเป็น V-shape และปั้นปากให้อวบอิ่มสวยงามค่ะ
อย่างไรก็ตาม ในบริเวณอื่นๆ เช่น ใต้ตาและร่องแก้ม เทคนิคและเป้าหมายจะมีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากปัญหาเกิดจากการยุบตัวของโครงสร้างใต้ผิวหนังเหมือนกัน เป้าหมายหลักจึงเป็นการ “เติมเต็ม” เพื่อแก้ปัญหาร่องลึกและความโทรมให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น แต่ทั้งนี้ แพทย์จะยังคงพิจารณาปริมาณฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละเพศ และใช้เทคนิคการเกลี่ยที่พิถีพิถัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและส่งเสริมเอกลักษณ์ของคนไข้แต่ละคนได้ดีที่สุดค่ะ
ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย รวมถึงฟิลเลอร์ ที่เป็นกล่องๆ ที่ผ่าน อย. แบบที่เราคุ้นเคยกันนั้นจะค่อย ๆ สลายตัวเองตามกระบวนการปกติของร่างกายค่ะ โดยมีเอนไซม์มาค่อย ๆ ย่อยสลายฟิลเลอร์จนกลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็กมาก ๆ สุดท้ายจะถูกดูดซึมและขับออกจากร่างกายไปตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับของเสียอื่น ๆ จึงมั่นใจได้ว่า ไม่มีการตกค้างเป็นอันตราย หรือไหลไปสะสมที่อื่นแน่นอนค่ะ
คนไข้หลายคนเข้าใจว่าตอนแรกฟิลเลอร์มีลักษณะเป็น “เจล” เพราะคลินิกต้องเอาหลอดฟิลเลอร์ให้ดูก่อนฉีดอยู่แล้ว และสุดท้ายก็กลายเป็นน้ำ “ถูกขับออกจากร่างกายไป” อันนี้ก็ต้องบอกว่าถูกต้องเหมือนกันค่ะ แต่หมอขอขยายส่วนที่บอกว่ากลายเป็น “น้ำ” นิดนึงค่ะ
จริงๆ แล้วฟิลเลอร์ HA ไม่ได้สลายตัวกลายเป็น “น้ำ” (H₂O) โดยตรงค่ะ แต่กระบวนการที่ถูกต้องคือ
- จากเจลสู่โมเลกุลน้ำตาล: เอนไซม์ในร่างกายจะย่อยสลายเนื้อเจลของฟิลเลอร์ ให้กลายเป็นโมเลกุลที่เล็กลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายอยู่ในรูปของ “โมเลกุลน้ำตาล” ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสาร Hyaluronic Acid ค่ะ
- ร่างกายนำไปใช้และขับออก: หลังจากนั้น ร่างกายก็จะดูดซึมโมเลกุลน้ำตาลเหล่านี้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ หรือ ขับออกตามกระบวนการขับของเสียปกติของร่างกาย ซึ่งก็คือผ่านทางปัสสาวะหรือเหงื่อนั่นเองค่ะ
ดังนั้น ที่คนไข้เข้าใจว่ามันกลายเป็นของเหลวแล้วถูกขับออกนั้นถูกต้องเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้เป๊ะๆ ตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็คือ จากเจล กลายเป็นน้ำตาล แล้วจึงถูกขับออก นั่นเองค่ะ
มีอะไรสงสัยถามหมอได้อีกเลยนะคะ ยินดีตอบเสมอค่ะ







