สำหรับคนที่น้ำหนักตัวเยอะ หากมีปัญหานอนกรน หรือรู้สึกว่านอนหลับไม่สนิทตื่นมาแล้วไม่สดชื่น อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของ “ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ” ซึ่งพบได้บ่อยในคนอ้วนและอาจมีผลต่อสุขภาพหลายด้าน แม้จะยังไม่พร้อมตรวจ Sleep Test แบบจริงจัง ก็สามารถเริ่มต้นดูแลตัวเองได้ที่บ้านด้วยสมาร์ทวอทช์ เช่น Apple Watch, Samsung Galaxy Watch หรือแบรนด์อื่น ๆ ที่มีฟีเจอร์ติดตามการนอน เพื่อเก็บข้อมูล ถ้าแน่ใจว่ามีปัญหาค่อยตัดสินใจเลือกตรวจอย่างละเอียดได้ค่ะ
Home Sleep Test (HST) — ตรวจที่บ้าน
- คือการนำเครื่องมือกลับไปใช้ที่บ้านเอง ง่าย สะดวก ใช้สำหรับประเมินกรณีสงสัยภาวะ “นอนกรน” หรือ “หยุดหายใจขณะหลับ”
- ตรวจอะไรได้บ้าง: วัดระดับออกซิเจน, จังหวะการหายใจ, การกรน, จังหวะหัวใจ (วัดข้อมูลไม่ละเอียดเท่าการตรวจในโรงพยาบาล)
- ราคา
- โรงพยาบาล: ประมาณ 4,000–8,000 บาท*
- คลินิกเฉพาะทาง หรือ Lab บางแห่งอาจมีราคาเริ่มที่ 2,500–5,000 บาท*
In-Lab Polysomnography (PSG)
ตรวจในโรงพยาบาล/คลินิกด้วยเครื่องมือครบชุด
- เป็นมาตรฐานทองของการตรวจการนอนหลับ ต้องนอนพักที่โรงพยาบาลใน 1 คืน
- ตรวจอะไรได้บ้าง: คลื่นสมอง (EEG), อัตราการเต้นหัวใจ, การกรน, กล้ามเนื้อ, การเคลื่อนไหวตา/ขา, ออกซิเจน, ลมหายใจ ฯลฯ (ละเอียด ครอบคลุม เหมาะกับเคสซับซ้อน/นอนไม่หลับผิดปกติ)
- ราคา
- โรงพยาบาลรัฐ: ประมาณ 7,000–15,000 บาท* (อาจต้องคิวนาน)
- โรงพยาบาลเอกชน: ประมาณ 15,000–30,000 บาท*
Portable Sleep Test
(มีแค่บางแห่ง หรือที่ต่างประเทศ)
- เครื่องตรวจแบบพกพาหรือกึ่งอัตโนมัติ เน้นวัดเฉพาะรายการพื้นฐาน เช่น ออกซิเจนและคลื่นหัวใจ
- ราคา ใกล้เคียงกับ Home Sleep Test — ประมาณ 3,000–8,000 บาท*
*ราคานี้เป็นราคาโดยประมาณจากปี 2024–2025 อาจเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น หรือแต่ละโรงพยาบาล/คลินิก แนะนำสอบถามราคาและรายละเอียดจากสถานที่จริงก่อนทำการนัดหมายนะคะ
ใช้อุปกรณ์ทดสอบเบื้องต้นก่อน
ถ้าคุณยังไม่พร้อมตรวจ Sleep Test แบบจริงจัง สามารถเริ่มต้นดูแลตัวเองที่บ้านด้วยเทคโนโลยีใกล้ตัวอย่าง Apple Watch, Samsung Galaxy Watch หรือสมาร์ทแบนด์รุ่นต่าง ๆ ได้เลยค่ะ นาฬิกาเหล่านี้มีฟีเจอร์ติดตามการนอนเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นบันทึกระยะเวลาการนอน วัดอัตราการเต้นหัวใจขณะหลับ วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) ระหว่างนอน และบางรุ่นยังประเมินการกรนหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการนอนได้อีกด้วย ข้อดีคือช่วยให้เราหมั่นสังเกตแนวโน้มคุณภาพการนอนได้ง่ายขึ้น เช่น เช็คว่ามีตื่นกลางดึกบ่อยไหม นอนพอหรือเปล่า หรือมีออกซิเจนในเลือดต่ำช่วงกลางคืนหรือไม่
อย่างไรก็ดี สมาร์ทวอทช์ยังไม่สามารถตรวจละเอียดหรือวินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้เท่ากับ Sleep Test จริงนะคะ หากมีอาการน่าสงสัย เช่น นอนกรนเสียงดัง เหนื่อยง่าย ง่วงหลับระหว่างวัน ตื่นมาไม่สดชื่น หรือได้รับแจ้งเตือนเสี่ยงบ่อย ๆ จากนาฬิกา แม้ค่าบางอย่างจะดูปกติ ก็ควรพบคุณหมอและอาจพิจารณาตรวจ Sleep Test เพื่อความมั่นใจและวางแผนดูแลรักษาที่เหมาะสม สมาร์ทวอทช์ถือเป็นผู้ช่วยเฝ้าระวังเบื้องต้นที่ดีแต่ยังแทนเครื่องมือแพทย์ไม่ได้ หากมีข้อมูลสงสัยจากนาฬิกา สามารถนำผลปรึกษาคุณหมอได้เสมอค่ะ