ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

ฉีด Sculptra พร้อมๆกับ Radiesse ได้ไหม

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ตอบ:

การฉีด Sculptra และ Radiesse หมอไม่แนะนำให้ทำในวันเดียวกัน เพราะทั้งสองตัวมีคุณสมบัติและการออกฤทธิ์แตกต่างกัน โดย Sculptra เหมาะสำหรับฟื้นฟูผิวในบริเวณกว้างและต้องการเวลา 1-2 เดือนเพื่อสร้างคอลลาเจน จากนั้นจึงค่อยใช้ Radiesse เพื่อปรับโครงหน้าในจุดเฉพาะ เช่น กรอบหน้าและคาง ซึ่งให้ผลลัพธ์ทันที การเว้นระยะประมาณ 4-8 สัปดาห์ จะช่วยประเมินผลลัพธ์ที่ชัดเจน ลดความเสี่ยงต่ออาการบวมหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้งานร่วมกัน และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุดค่ะ แต่ถ้าเป็นกลุ่มเครื่องยกกระชับ Ulthera, Thermage, Morpheus8 สามารถทำวันเดียวกันได้ โดยทำเครื่องก่อนตามด้วย Biostimulator ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของคนไข้เป็นหลักนะคะ

biostmulator ราคาเท่าไหร่
SCULPTRA-vs-RADIESSE เลือกอะไรดี

Sculptra และ Radiesse ทั้งสองตัวนี้เป็น สารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Biostimulants) แต่มีคุณสมบัติแตกต่างกันอยู่บ้าง หมอจะแนะนำให้ฉีดในบริเวณที่เหมาะสมแต่แยกกันค่ะ เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

  1. Sculptra เหมาะสำหรับการกระตุ้นคอลลาเจนในผิวแบบทั่วๆ ไป มักใช้ในบริเวณที่มีความหย่อนคล้อย เช่น แก้ม ร่องแก้ม หรือเสริมความเฟิร์มให้ผิวดูแน่นขึ้น แต่ผลลัพธ์จะค่อยๆ เห็นชัดใน 1-2 เดือนหลังการฉีด เพราะตัวนี้ออกฤทธิ์ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติค่ะ
  2. Radiesse ออกฤทธิ์ในลักษณะคล้ายกัน แต่มีเจลที่ให้ผลลัพธ์ฟิลเลอร์แบบทันที และสามารถฉีดในจุดที่ต้องการความยกกระชับ เช่น กรอบหน้า แนวคาง และช่วยปรับโครงหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น แตกต่างจาก Sculptra ที่ใช้ปรับผิวในพื้นที่กว้าง

ฉีดพร้อมได้ ต้องฉีดตัวไหนก่อน

การฉีด Sculptra และ Radiesse พร้อมกันนั้นสามารถทำได้ แต่การวางแผนว่าควรฉีด “อะไรก่อน-อะไรหลัง” จะขึ้นอยู่กับ ลักษณะปัญหาผิวของคนไข้ และ ตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข เป็นหลักค่ะ ซึ่งเราต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของแต่ละตัวเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สอดคล้องและดูธรรมชาติที่สุด หมอขออธิบายให้เข้าใจง่ายดังนี้


หลักการวางแผนการฉีด

Sculptra (ฉีดก่อนสำหรับการฟื้นฟูในบริเวณกว้าง)

    • จุดเด่น: Sculptra เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวแบบทั่วถึง เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นหรือการเติมเต็มปริมาตรในบริเวณกว้าง เช่น แก้ม, ร่องแก้ม, หรือจุดที่ผิวหย่อนคล้อยทั่วใบหน้า
    • เหตุผลที่ควรเริ่มฉีดก่อน
      • Sculptra กระตุ้นคอลลาเจนแบบค่อยเป็นค่อยไป (ใช้เวลา 1-2 เดือนจึงจะเห็นผลชัดเจน) การเริ่มฟื้นฟูพื้นผิวให้ดูเต็มขึ้นก่อน จึงเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการเติมโครงสร้างที่ชัดเจนในขั้นตอนถัดไป
      • หากฉีด Radiesse ก่อน แล้วตามด้วย Sculptra อาจเกิดความซ้ำซ้อนของผลลัพธ์ และไม่สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแต่ละตัวได้อย่างชัดเจน

    Radiesse (ฉีดทีหลังเพื่อปรับโครงหน้าชัดเจน)

      • จุดเด่น: Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่ให้ผลลัพธ์แบบทันทีและเหมาะสำหรับการฉีดเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าชัดเจน เช่น กรอบหน้า, คาง, หรือขมับที่ตอบลึก
      • เหตุผลที่ฉีดหลัง:
        • Radiesse ช่วยเสริมโครงหน้าได้ทันที ซึ่งจะเน้นในบริเวณเฉพาะจุดที่คนไข้ต้องการปรับแต่ง ดังนั้น หลังจาก Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูบริเวณกว้างได้ระดับหนึ่งแล้ว การใช้ Radiesse ในบริเวณที่สำคัญจะช่วยให้ผลลัพธ์ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น

      ลำดับการฉีดและบริเวณที่กังวล

      ขั้นตอนบริเวณที่แนะนำรายละเอียด
      1. ฉีด Sculptra ก่อนแก้ม, ร่องแก้ม, ส่วนที่ผิวหย่อนคล้อยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในบริเวณกว้าง ฟื้นฟูผิวให้เต็มและยืดหยุ่นมากขึ้น
      2. ฉีด Radiesse หลังกรอบหน้า, คาง, ขมับเน้นปรับโครงสร้างของใบหน้า เติมเต็มในจุดเฉพาะเพื่อให้โครงหน้าชัดเจนขึ้น

      คำแนะนำเพิ่มเติม

      • การวางแผนระหว่างการฉีด (เว้นระยะ):
        หมอแนะนำให้ฉีด Sculptra ก่อน และเว้นไปประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้เริ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จากนั้นจึงค่อยฉีด Radiesse เพื่อเติมในจุดที่ต้องการความชัดเจนค่ะ
      • ที่สำคัญ: ควรปรึกษาแพทย์ความงามที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและออกแบบแนวทางที่เหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละคน เพราะโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคนมีความแตกต่าง เช่น คนที่แก้มตอบหรือหน้าผากแบน อาจต้องปรับลำดับหรือบริเวณที่ฉีดให้เหมาะสม

      ถ้าคนไข้สนใจหรือสงสัยเพิ่มเติมสามารถปรึกษาหมอได้นะคะ หมอพร้อมออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลสำหรับคุณค่ะ