ฉีดฝ้า vs เลเซอร์ฝ้า แตกต่างกันอย่างไร?
ทั้ง “ฉีดฝ้า” และ “เลเซอร์ฝ้า” เป็นตัวเลือกยอดนิยมในการรักษาฝ้า แต่แต่ละแบบเหมาะกับเคสและความต้องการของแต่ละคนต่างกันค่ะ มาดูตารางเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ กันเลย
ฉีดฝ้า | เลเซอร์ฝ้า | |
---|---|---|
วิธีการรักษา | ใช้ยา/วิตามินเข้มข้นฉีดตรงจุดที่เป็นฝ้า | ใช้พลังงานแสงเลเซอร์ยิงทำลายเม็ดสีฝ้าที่ผิว |
ความเจ็บ | ⭐⭐ เจ็บเล็กน้อยขณะฉีด | ⭐⭐ รู้สึกแสบๆ ร้อนๆ ชั่วขณะขณะเลเซอร์ |
ระยะเวลาที่เห็นผล | ⭐⭐⭐ เห็นผลไวภายใน 4-8 สัปดาห์ (ขึ้นกับสูตร/ความเข้มข้น) | ⭐⭐⭐ ทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง เดือนละครั้ง |
ผลข้างเคียง | รอยแดง รอยช้ำเล็กน้อย | ผิวแห้ง แดง ลอก อาจมีสะเก็ด |
เหมาะกับใคร | ฝ้าใหม่ จุดไม่ลึก ผิวไม่แพ้ง่าย | ฝ้าลึก ฝ้าเก่าดื้อการรักษา ผิวแข็งแรง |
ข้อควรระวัง | คนผิวแพ้ง่ายหรือมีประวัติแพ้ยาต้องแจ้งแพทย์ | หลังเลเซอร์ตากแดดจัดจะกระตุ้นฝ้ากลับได้ง่าย |
คำแนะนำ
- ถ้าอยากรักษาอย่างอ่อนโยน เห็นผลไว ไม่เจ็บมาก แนะนำลองฉีดฝ้าค่ะ
- ถ้าเป็นฝ้าลึก มานาน หรือดื้อยาก แนะนำเลเซอร์ ร่วมกับการทายาหรือฉีดฝ้าเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- ทั้งสองวิธีควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีการดูแลผิวหลังทำอย่างเคร่งครัดนะคะ
สนใจโปรแกรมไหน หรืออยากให้หมอแนะนำแบบละเอียดตามสภาพผิว ทักมาสอบถามได้เลยค่ะ