ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

Endolift ดีไหมคะ ทำไมราคาสูง

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ตอบ:

วันนี้มีคุณคนไข้ที่ทำทรีทเมนต์กับหมอเป็นประจำ มาส่งข่าว ว่ามีโปรแกรมใหม่มาอีกแล้ว ชื่อ Endolift ที่กำลังมาแรงกลุ่มเพื่อนๆเขาในตอนนี้ เนื่องจากคุณคนไข้เองก็สนใจและติดตามเทรนด์การดูแลผิวและการยกกระชับใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ หมอเลยขอสรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Endolift ให้ทุกคนได้ทราบนะคะ

Endolift เป็นนวัตกรรมการยกกระชับใบหน้าด้วยเลเซอร์แบบไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้เลเซอร์ความยาวคลื่น 1470nm ที่มีข้อดีคือสามารถเข้าถึงชั้นไขมันได้โดยตรง ช่วยทั้งละลายไขมันและกระชับผิวไปพร้อมกัน กระชับผิวได้ทั้งใบหน้าและบอดี้ส่วนอื่นๆได้ด้วย

ข้อดีของ Endolift คือ

  • ไม่ต้องผ่าตัด เจ็บน้อย
  • ใช้เข็มขนาดเล็กมากในการนำเลเซอร์เข้าสู่ผิว
  • ฟื้นตัวเร็ว กลับไปใช้ชีวิตปกติได้ใน 1-3 วัน
  • ไม่มีแผลเป็น
  • ผลลัพธ์ต้องขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ต้องรอติดตามกันต่อ เหมือนกับทุกๆโปรแกรมที่ออกมาใหม่

แต่หมอต้องบอกตรงๆ นะคะว่า ทุกการรักษาย่อมมีข้อจำกัด สำหรับ Endolift

  • ผลอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี
  • ราคาค่อนข้างสูง
  • อาจต้องทำซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ เพราะแม้แต่ศัลยกรรมดึงหน้า ก็มีวันที่หน้าเราต้องตก ต้องคล้อย ตามวันเวลา

Endolift เหมาะกับใคร

  • มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กถึงปานกลาง
  • ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน
  • กลัวการผ่าตัด

โปรแกรมที่คล้ายกันมีอะไรบ้าง

เครื่องยกกระชับผิวที่มีการทำงานคล้ายกันในตลาดมีดังนี้

Ulthera/Ultherapy/Ulthera Prime

  • ใช้เทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)
  • เน้นการยกกระชับผิวในระดับลึก
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
  • มีความรู้สึกตอนทำบ้างในบางจุด

Thermage

  • ใช้คลื่นความถี่วิทยุ (RF)
  • เน้นการกระชับผิวและกระตุ้นคอลลาเจน
  • ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี
  • เหมาะกับการรักษาผิวชั้นตื้น ให้ผิวหดตัวเฟิร์มขึ้น

Sofwave

  • ใช้เทคโนโลยี Synchronous Ultrasound Parallel Beam
  • เน้นการกระชับผิวและลดริ้วรอย
  • ความรู้สึกขณะทำใกล้เคียง Ulthera
  • ใช้เวลารักษาสั้นกว่า

Endolift

ความแตกต่างหลักของ Endolift เมื่อเทียบกับเครื่องอื่นๆ จากแหล่งข้อมูลผู้พัฒนา

  • ใช้เลเซอร์แบบ 1470nm ที่สามารถเข้าถึงชั้นไขมันได้โดยตรง
  • สามารถละลายไขมันได้พร้อมกับการกระชับผิว
  • มีความเจ็บตอนทำน้อยกว่า
  • ใช้เข็มขนาดเล็กมากในการนำเลเซอร์เข้าสู่ผิว
  • ฟื้นตัวเร็วกว่าการรักษาแบบอื่น

ราคาสูง ผ่าตัดดึงหน้าจะคุ้มกว่าไหม

คำตอบของคำถามนี้จะวัดที่ตัวเลขราคาก็จะไม่ได้ค่ะ เพราะมีปัจจัยอื่นๆที่แพทย์ต้องประเมิน และแจ้งข้อดี ข้อจำกัดกับคนไข้แบบตรงไปตรงมา เชื่อว่าแพทย์ทุกคนอยากแนะนำวิธีที่ดีที่สุด

การดึงหน้า (Facelift)

ข้อดี

  • ผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นาน (5-10 ปี)
  • แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้มาก
  • คุ้มค่าในระยะยาวหากมองเรื่องความคงทนของผลลัพธ์

ข้อเสีย

  • ต้องดมยาสลบ มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด
  • พักฟื้นนาน 2-4 สัปดาห์
  • มีแผลเป็น แม้จะซ่อนไว้ตามแนวผม
  • อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
  • หากผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจ แก้ไขได้ยาก

Endolift

ข้อดี

  • ไม่ต้องผ่าตัด ความเสี่ยงภาพรวมต่ำ
  • พักฟื้นสั้น 1-3 วัน
  • ไม่มีแผลเป็น
  • สามารถทำซ้ำได้
  • ธรรมชาติกว่า ไม่ดูตึงเกินไป
  • เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระยะแรกถึงปานกลาง

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าการผ่าตัด (1-2 ปี)
  • ราคาสูง และอาจต้องทำซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์
  • ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าการผ่าตัด

การเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับเรา

  1. พิจารณาอายุและสภาพผิว
    • อายุน้อย/ปัญหาไม่มาก -> อาจจะเหมาะกับการยกกระชับด้วยเครื่อง
    • อายุมาก/ปัญหามาก -> อาจเหมาะกับการผ่าตัดมากกว่า
  2. พิจารณาไลฟ์สไตล์
    • ต้องการกลับไปทำงานเร็ว -> อาจจะเหมาะกับการยกกระชับด้วยเครื่อง
    • มีเวลาพักฟื้นนาน -> สามารถเลือกผ่าตัดได้
  3. พิจารณาความคาดหวัง
    • ต้องการผลลัพธ์ธรรมชาติ -> อาจจะเหมาะกับการยกกระชับด้วยเครื่อง
    • ต้องการเห็นผลชัดเจนมาก -> การผ่าตัดอาจเหมาะสมกว่า
  4. พิจารณางบประมาณระยะยาว
    • คำนวณค่าใช้จ่ายรวมหากต้องทำ Endolift ซ้ำ
    • เทียบกับค่าผ่าตัดครั้งเดียวแต่อยู่ได้นาน

เทคโนโลยีมีจุดเด่นต่างกัน การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับ

  • ปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข
  • ความพร้อมของสภาพผิวคนไข้
  • ระยะเวลาในการฟื้นตัวที่ยอมรับได้
  • งบประมาณ

หมอมีเจตนาเดียวในการสรุปบทความนี้เพื่อจะบอกว่านวัตกรรมความงาม มีมาใหม่ทุกวัน อย่างกรณี Endolift ที่คุณคนไข้หลายท่านสอบถามเข้ามา ในฐานะแพทย์ความงาม หมอเชื่อว่าการดูแลความงามที่ดีที่สุดคือการเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเรา ไม่ใช่เพียงเพราะมันเป็นเทรนด์หรือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

ทุกวันนี้ เทคโนโลยีความงามพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ละเครื่องมือล้วนมีจุดเด่นและข้อจำกัดของตัวเอง บางครั้งเทคโนโลยีใหม่อาจไม่ได้ดีกว่าวิธีดั้งเดิมเสมอไป สิ่งสำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของแต่ละคน

หมอเชื่อว่าหน้าที่ของแพทย์ความงามไม่ใช่แค่แนะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ต้องให้ข้อมูลที่รอบด้านและตรงไปตรงมา เพื่อให้คุณคนไข้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม บางครั้งการรักษาแบบเดิมที่ได้ผลดีอยู่แล้ว อาจเหมาะสมกว่าการเปลี่ยนไปทำทรีทเมนต์ใหม่ที่ยังไม่มีข้อมูลผลลัพธ์ระยะยาว

สุดท้ายนี้ หมออยากฝากว่า ความงามที่ยั่งยืนเกิดจากการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และเลือกวิธีการที่เหมาะกับตัวเรา ไม่จำเป็นต้องตามกระแสทุกอย่าง แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ดีและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ

หมอยินดีให้คำปรึกษาและช่วยวางแผนการดูแลผิวที่เหมาะสมกับคุณคนไข้แต่ละท่านนะคะ เพราะความสวยที่ยั่งยืนต้องมาจากการดูแลที่ใส่ใจและเหมาะสมกับตัวเราค่ะ