ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

HIFU กับ Ulthera ต่างกันเยอะไหม เพราะราคาต่างกันเยอะ

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ตอบ:

ถ้าให้หมอตอบแบบเร็วๆย่อๆ คงประมาณว่า HIFU เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นดูแลใบหน้า ส่วน Ulthera เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ลึกซึ้งและอยู่ได้ยาวนานมากกว่า ประมาณนี้ค่ะ เพราะพลังงานคล้ายกันก็จริงแต่เทคโนโลยีคนละแบบ ส่งผลต่อผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน รายละเอียดที่ว่าต่างกันตรงไหนบ้าง ทำไมราคาถึงต่างกันได้หลายเท่า หมอสรุปไว้ให้ดังนี้ค่ะ

hifu รีวิว
ulthera-prime

หมอพบว่าคำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตที่คนไข้มักสอบถามในคลินิก เพราะทั้ง HIFU และ Ulthera ต่างก็เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ว่าจะมีเครื่องยกกระชับออกมาเยอะแค่ไหน ทุกคนก็ยังถามคำถามนี้อยู่

เปรียบเทียบ HIFU vs Ulthera

หัวข้อHIFUUlthera
เทคโนโลยีอัลตร้าซาวด์แบบ High-Intensity Focused Ultrasound ทั่วไปอัลตร้าซาวด์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA พร้อมระบบฉายภาพ Real-time
การมองเห็นชั้นผิวไม่สามารถเห็นชั้นผิวขณะรักษามีระบบ DeepSEE ที่แพทย์สามารถเห็นชั้นผิวได้ขณะรักษา
ความแม่นยำปานกลางสูงมาก เนื่องจากเห็นชั้นผิวจริงๆของคนไข้
ความเจ็บปานกลางปานกลาง-มาก แล้วแต่บริเวณ
ระยะเวลาทำ30-60 นาที60-90 นาที
ดูแลผิวหลังทำ1-2 วัน1-3 วัน
ผลลัพธ์เห็นผลภายใน 1-3 เดือนเห็นผลภายใน 2-4 เดือน
ความยาวนาน6-12 เดือน10-18 เดือน
ราคา5,000-20,000 บาท40,000-120,000 บาท
เหมาะกับ– อายุ 22-40 ปี
– ผิวหย่อนคล้อยระดับน้อยถึงปานกลาง
– ต้องการผลลัพธ์ในงบประมาณที่จำกัด
– อายุ 40 ปีขึ้นไป
– ผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก
– ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนาน

อายุ 22-35 ปี

ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย

  • HIFU เพราะราคาไม่สูงมาก และเหมาะกับการป้องกันปัญหาผิวหย่อนคล้อย

อายุ 35-45 ปี ขึ้นไป

ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยปานกลาง

  • สามารถเลือกได้ทั้ง HIFU และ Ulthera
  • หากมีงบประมาณจำกัด HIFU ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดี
  • หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานกว่า Ulthera จะเหมาะกว่า

อายุ 45 ปีขึ้นไป

ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยชัดเจน

  • Ulthera เพราะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า
  • มีความแม่นยำในการรักษาสูงกว่า เหมาะกับผิวที่มีความหย่อนคล้อยมาก

ทำไม Ulthera มีราคาสูงกว่า

  1. ความแม่นยำของเทคโนโลยี
    • Ulthera มีระบบ Visualization (Real-Time Imaging) ที่สามารถมองเห็นชั้นผิวได้แบบเรียลไทม์ระหว่างการรักษา ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถส่งพลังงานไปยังชั้น SMAS ได้ตรงจุดและปลอดภัย
    • HIFU ไม่มีระบบ Visualization ใช้ประสบการณ์การรักษาของแพทย์ในการประเมินชั้นผิว
  2. การรับรองมาตรฐานสากล
    • Ulthera ได้รับการรับรองจาก US FDA ด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพสำหรับการยกกระชับใบหน้าและลำตัว
    • HIFU มักมีหลายยี่ห้อในตลาด โดยบางรุ่นอาจไม่ได้รับการรับรองระดับสากลเดียวกัน
  3. ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า
    • หลังทำ Ulthera ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ถึง 10-18 เดือน หลังการรักษาเพียงครั้งเดียว ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า HIFU ที่มักต้องทำ 2-3 ครั้งต่อปี
    • ผลลัพธ์การยกกระชับจาก Ulthera ยังแสดงให้เห็นถึงความเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติอย่างชัดเจนในผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับลึก
  4. งานวิจัยและการพัฒนา
    • Ulthera มีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดความเสี่ยง การเจ็บ และเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา
    • HIFU ใช้หลักการคล้ายกันแต่ไม่ได้พัฒนารายละเอียดให้ซับซ้อนเท่า
  5. ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาระดับลึก
    • Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงรุนแรง เพราะพลังงานลงไปที่ชั้นผิวอย่างสม่ำเสมอและลึกกว่า HIFU
    • HIFU อาจเหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาเล็กน้อย แต่ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนต่อกลุ่มผู้มีปัญหาหนักได้เท่า Ulthera
  6. ความไว้วางใจจากผู้ใช้งานและแบรนด์
    • ด้วยประสิทธิภาพและมาตรฐานสูง ผู้ใช้จำนวนมากยอมรับว่า Ulthera มีคุณภาพและผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ เมื่อเปรียบเทียบกับ HIFU

อยากกระชับหน้า เลือกแบบไหนดีที่สุด

สุดท้ายนี้ หมอสรุปว่า การเลือกระหว่าง HIFU และ Ulthera ควรพิจารณาจาก

  • อายุและสภาพผิว
  • ความรุนแรงของปัญหา
  • งบประมาณที่มี
  • ความคาดหวังต่อผลลัพธ์

และที่สำคัญ ควรปรึกษาแพทย์ ต้องได้พบแพทย์ตัวจริง เสียงจริงก่อนรับบริการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยกกระชับผิวแบบไหนก็ตามแต่ เพราะแพทย์คือความสำคัญอันดับ 1 ในการประเมินเคส ไม่ใช่ให้เทคโนโลยีเป็นผู้ประเมินและรักษาเองได้แบบอัตโนมัติ แพทย์ที่มีประสบการณ์และจรรยาบรรณ จะเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณค่ะ