ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ตู้ออกซิเจนชะลอวัย คืออะไร ปลอดภัยไหม มีข้อดีข้อเสียอะไร

Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) คือการบำบัดด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% ในห้องปรับบรรยากาศที่มีความดันสูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ในการรักษาโรคน้ำหนีบหรือแผลเบาหวานเรื้อรัง แต่สำหรับการนำมาใช้ในด้าน “ชะลอวัย (Anti-aging) หรือผิวพรรณ” นั้น ปัจจุบันยังถือเป็นการใช้แบบนอกเหนือข้อบ่งชี้ (Off-label use) ที่ ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนเพียงพอ (Lack of clinical evidence) มายืนยันผลลัพธ์ด้านความงาม และยังไม่ถูกบรรจุเป็นมาตรฐานการรักษาเพื่อการชะลอวัยในระดับสากล

ในด้านความปลอดภัย แม้หลักการคือการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด แต่การทำ HBOT ในคนปกติมีความเสี่ยงที่ต้องระวังคือ ภาวะบารอตรามา (Barotrauma) จากการปรับแรงดันไม่สมดุล ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดหูรุนแรงหรือ แก้วหูทะลุ ได้ รวมถึงความเสี่ยงต่อภาวะออกซิเจนเป็นพิษ ดังนั้นในมุมมองทางการแพทย์เพื่อจุดประสงค์ด้านความงาม ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับยังถือว่า ไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง (Risk outweighs benefit) หากเทียบกับการเพิ่มออกซิเจนด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการออกกำลังกายซึ่งปลอดภัยและส่งผลดีต่อระบบไหลเวียนโลหิตในระยะยาวมากกว่าค่ะ


หมายเหตุ: คำตอบนี้ไม่ใช่การวินิจฉัยโรค กรุณาพบแพทย์หากมีอาการน่ากังวล

Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT)

ตู้ออกซิเจนชะลอวัย… สวยขึ้นจริง หรือเสี่ยงฟรี?

ช่วงนี้หมอเห็นโฆษณาเยอะมากกกก เรื่อง HBOT (Hyperbaric Oxygen Therapy) หรือตู้ออกซิเจนแรงดันสูง ที่เคลมกันว่าช่วย “ชะลอวัย” “ผิวใส” “หน้าเด็ก” เห็นแล้วอดเป็นห่วงเรื่อง Overclaim ไม่ได้

ข้อดี ที่ยังไม่มีใครการันตี

ต้องเข้าใจก่อนว่า เจ้าเครื่อง HBOT เนี่ย ทางการแพทย์เราใช้รักษาคนป่วยจริงๆ ค่ะ เช่น คนดำน้ำแล้วเกิดโรคน้ำหนีบ, แผลเบาหวานที่หายยาก หรือภาวะติดเชื้อรุนแรง

แต่สำหรับเรื่อง “ชะลอวัย” หรือ “ผิวสวย” ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่ชัดเจน (No Clear Indication) และยังไม่มีงานวิจัยขนาดใหญ่ที่ยืนยันผลลัพธ์ได้ 100% ว่าทำแล้วจะหน้าเด็กขึ้นจริงเหมือนที่โฆษณา

แต่ “ข้อเสีย” คือความเสี่ยงที่คุณต้องเจอ

ในขณะที่ผลลัพธ์ความสวยยังเป็นเครื่องหมายคำถาม (?) แต่ความเสี่ยงคือของจริงที่ต้องแลกค่ะ

  1. แก้วหูทะลุ (Barotrauma): อันนี้เจอบ่อยสุด! ใครเคยดูซีรีส์ Good Doctor TH จะเห็นฉากที่ต้องเจาะแก้วหู (Myringotomy) เพื่อปรับแรงดัน นั่นแหละค่ะคือคอนเซปต์เดียวกัน แรงดันในตู้ที่สูงมาก ถ้าเราเคลียร์หูไม่เป็น หรือเป็นหวัดอยู่ แก้วหูอาจฉีกขาดหรือทะลุได้เลย ไม่คุ้มกับความสวยแน่นอน
  2. ปอดแตก (Lung Rupture): ฟังดูน่ากลัว แต่เป็นไปได้ค่ะ หากมีการกลั้นหายใจขณะเปลี่ยนระดับแรงดัน อาจทำให้ถุงลมปอดฉีกขาดได้
  3. ออกซิเจนเป็นพิษ (Oxygen Toxicity): การได้รับออกซิเจนเข้มข้นสูงนานเกินไป อาจไปกระตุ้นให้เกิดอาการชัก หรือมีผลต่อระบบประสาทได้

สำหรับ HBOT ในมุมมองชะลอวัย เทรนด์ Longevity ตอนนี้ หมอมองว่า Risk (ความเสี่ยง) ยังมากกว่า Benefit (ประโยชน์)

ฝึกหายใจลึกๆ (Deep Breathing / Diaphragmatic Breathing)

อยากเพิ่มออกซิเจนในเลือด จะไปยากอะไร!

การออกกำลังกายคือ “วิธีเพิ่มออกซิเจนที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนที่สุด” ค่ะ

ในฐานะหมอ (ที่ออกกำลังกายเกือบทุกวัน) ต้องขอปรับความเข้าใจนิดนึงนะคะว่า ปกติคนเราถ้าสุขภาพแข็งแรง ค่าออกซิเจนในเลือด (O2 Saturation) มันจะเต็มหรือเกือบเต็ม (96-99%) อยู่แล้ว เราไม่สามารถ “ยัด” ให้มันเกิน 100% ได้ และร่างกายก็ไม่ได้ต้องการ “ปริมาณ” ที่ล้นเกิน (เหมือนที่ตู้ชะลอวัย พยายามทำ)

สิ่งที่ร่างกายต้องการจริงๆ คือ “การไหลเวียน (Circulation)” ที่ดี เพื่อพาออกซิเจนที่มีอยู่แล้ว ไปส่งให้ถึงเซลล์ปลายทาง (เช่น ผิวหน้า สมอง ปลายมือปลายเท้า) ต่างหากค่ะ

ถ้าอยากหน้าใส สมองแล่น แบบเลือดสูบฉีดดี หมอแนะนำ 4 วิธีนี้ค่ะ ปลอดภัย ไม่ต้องจ่ายเงินแพง และดีกว่าตู้ HBOT แน่นอน

1. ออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Cardio Exercise) 🏃‍♀️

นี่คือ The Best Choice ค่ะ!

  • ทำไม: เมื่อหัวใจเต้นเร็วขึ้น มันจะสูบฉีดเลือดแรงขึ้น ช่วยขยายหลอดเลือดฝอย (Capillaries) ทำให้เลือดพาออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ผิวได้ทั่วถึง
  • ผลลัพธ์ความงาม: สังเกตไหมคะ หลังวิ่งเสร็จหน้าจะแดงๆ มีเลือดฝาด นั่นแหละค่ะคือออกซิเจนมันวิ่งไปถึงผิวแล้ว ผิวจะดูโกลว์แบบสุขภาพดีจริงๆ
  • คำแนะนำ: แค่เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ หรือเต้นแอโรบิก วันละ 30 นาที ให้พอเหนื่อย (ร้องเพลงไม่จบเพลง) ก็พอค่ะ

2. ฝึกหายใจลึกๆ (Deep Breathing / Diaphragmatic Breathing) 🧘‍♀️

  • ทำไม: คนส่วนใหญ่หายใจสั้น (หายใจแค่ทรวงอก) ทำให้ปอดแลกเปลี่ยนก๊าซได้ไม่เต็มที่ การฝึกหายใจเข้าลึกๆ ให้ท้องป่อง และหายใจออกยาวๆ จะช่วยขับคาร์บอนไดออกไซด์ (ของเสีย) ออก และรับออกซิเจนใหม่เข้าได้เต็มปอด
  • ผลลัพธ์: ลดความเครียด (Cortisol ลดลง) พอไม่เครียด เส้นเลือดก็ไม่หดตัว ผิวพรรณก็ผ่องใสค่ะ

3. เช็ก “ธาตุเหล็ก” ในเลือด (สำคัญมากสำหรับผู้หญิง!) 🩸

  • ทำไม: อันนี้หลายคนตกม้าตาย! ต่อให้เราสูดออกซิเจนเข้าไปเยอะแค่ไหน แต่ถ้าเรา “โลหิตจาง” (เม็ดเลือดแดงน้อย หรือขาดธาตุเหล็ก) ก็เหมือนเรามีสินค้า (ออกซิเจน) แต่ไม่มีรถบรรทุก (เม็ดเลือด) ไปส่งค่ะ
  • วิธีแก้: ทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก (ตับ, ผักใบเขียว, เนื้อสัตว์) คู่กับวิตามินซี (ช่วยดูดซึม)
  • ผลลัพธ์: แก้ปัญหาหน้าซีด ปากซีด ให้กลับมาอมชมพูแบบธรรมชาติ

4. จิบน้ำเปล่าให้พอ 💧

  • ทำไม: เลือดเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ถ้าร่างกายขาดน้ำ เลือดจะข้นหนืด (เหมือนซอสมะเขือเทศ) ไหลเวียนยาก ออกซิเจนก็ไปไม่ถึง
  • วิธีแก้: จิบน้ำเรื่อยๆ ตลอดวัน ให้เลือดไหลเวียนคล่องๆ ค่ะ

การเข้าไปนั่งในตู้แรงดันสูง มันคือการ “บังคับ” ให้ออกซิเจนละลายเข้าเลือดแบบผิดธรรมชาติ (ซึ่งมีความเสี่ยง) แต่การ ออกกำลังกาย + หายใจถูกวิธี + กินดี คือการสร้างระบบขนส่งออกซิเจนในร่างกายให้ “ทรงประสิทธิภาพ” แบบหลังนี้ได้ทั้ง ผิวสวย หุ่นดี และสุขภาพปอดหัวใจแข็งแรง แบบที่ไม่มีเครื่องมือแพทย์ไหนทำแทนได้ค่ะ! ลุยเลยค่ะหมอเชียร์!

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย