ฟิลเลอร์หนืดมากหนืดน้อย เลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิวเรา
มาทำความรู้จักกับคุณสมบัติของฟิลเลอร์กันก่อนนะคะ หมอจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ
ความยืดหยุ่น (G’ – จี ไพร์ม)
เปรียบเหมือนเวลาเรากดเจลลี่ค่ะ
- ถ้า G’ สูง = เจลลี่แข็ง กดแล้วคืนตัวเร็ว → เหมาะกับการเพิ่มปริมาตร เช่น เติมแก้ม
- ถ้า G’ ต่ำ = เจลลี่นุ่ม กดแล้วคืนตัวช้า → เหมาะกับบริเวณที่ต้องการความนุ่มนวล
ความหนืด (G” – จี ดับเบิ้ลไพร์ม)
เปรียบเหมือนน้ำผึ้งกับน้ำเชื่อมค่ะ
- ถ้าหนืดมาก = เหมือนน้ำผึ้ง ไหลช้า → อยู่ทรงดี
- ถ้าหนืดน้อย = เหมือนน้ำเชื่อม ไหลง่าย → กระจายตัวดี
ความทนทาน (G* – จี สตาร์)
คือความสามารถในการคงรูป เหมือนเวลาเราปั้นดินน้ำมันค่ะ
- G* สูง = คงรูปดี ไม่เปลี่ยนแปลงง่าย
- G* ต่ำ = ปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ง่าย
การยึดเกาะ (Cohesivity)
เปรียบเหมือนก้อนเพลย์โดว์ค่ะ
- ยึดเกาะสูง = ก้อนแน่น ไม่แตกง่าย → ให้ปริมาตรชัดเจน
- ยึดเกาะต่ำ = ก้อนร่วน แยกตัวง่าย → กระจายตัวได้ดี
แล้วเราจะเลือกยังไงดีคะ?
สำหรับการเติมแก้มตอบ
- ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มี G’ สูง (แข็งหน่อย)
- Cohesivity สูง (ยึดเกาะดี)
- เพราะต้องการการคงรูป ให้ปริมาตรชัดเจน
→ แนะนำ Juvederm Voluma หรือ Restylane Lyft ค่ะ
สำหรับร่องแก้ม
- ควรเลือก G’ ปานกลาง
- Cohesivity ปานกลาง
- เพราะต้องการการกระจายตัวที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ
→ แนะนำ Restylane Defyne หรือ Belotero Volume ค่ะ
สำหรับริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้า
- ควรเลือก G’ ต่ำ
- Cohesivity ต่ำ
- เพราะต้องการการกระจายตัวสูง เกลี่ยง่าย
→ แนะนำ Restylane Refyne หรือ Belotero Balance ค่ะ
เคล็ดลับจากหมอ
- ไม่จำเป็นต้องเลือกฟิลเลอร์ที่หนืดที่สุดเสมอไป
- ดูความเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะฉีด
- พิจารณาผลลัพธ์ที่ต้องการ
- ปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ
สุดท้ายนี้ หมออยากให้ทุกคนเข้าใจว่า ฟิลเลอร์แต่ละตัวมีจุดเด่นต่างกัน เหมือนเครื่องสำอางที่เราใช้ค่ะ ต้องเลือกให้เหมาะกับผิวและความต้องการของเรา ถ้ามีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม สามารถปรึกษาหมอได้นะคะ หมอยินดีให้คำแนะนำค่ะ