ความสวยงามของแผลหลังตัดไหมขึ้นอยู่กับสมดุลระหว่าง เทคนิคการเย็บของแพทย์ที่เป็นผู้ผ่าตัดค่ะ ที่ต้องลดแรงตึงผิวให้เหมาะสม ผสานกับ ช่วงเวลาการตัดไหมที่แม่นยำ เพื่อป้องกันไหมจมจนเป็นรอยเหมือนรางรถไฟ แต่ปัจจัยชี้ขาดสำคัญอยู่ที่ตัวคนไข้เอง ทั้งเรื่อง พันธุกรรม (เช่น ประวัติคีลอยด์) และวินัยใน การดูแลแผลหลังผ่าตัด เช่นไม่ล้างแผล ปล่อยให้มีคราบเลือดแห้งกรังติดแผล (สองเรื่องนี้เจอะบ่อยสุด) การงดขยับตัวรุนแรงในตำแหน่งที่มีแรงตึงสูง และการป้องกันการติดเชื้อ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้แผลหายเนียนสนิท และแผลออกมาสวยค่ะ สรุปให้ตรงไปตรงมาคือ หมอทำให้ดีแล้ว 50% อีก 50% คนไข้ต้องช่วยด้วย การตัดไหม ก็มีผลได้ถ้าสถานพยาบาลไม่มีเจ้าหน้าที่ ที่มีประสบการณ์พอ เช่น “ดึงไหมส่วนที่สกปรก ลอดผ่านใต้ผิวหนัง” กลับเข้าไปเพื่อดึงออก เท่ากับเรากำลังพาเชื้อโรคเดินทางเข้าไปในเนื้อเยื่อที่กำลังหายดี ทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ หรือเป็นหนองซ้ำได้ค่ะ รายละเอียดเล็กๆนี้ ส่งผลต่อแผลหลังตัดไหมโดยตรง
ฉะนั้นคลินิกเราจึงให้ความสำคัญ โดยการที่แพทย์ทำการตัดไหมเอง ประเมินเคสโดยละเอียด และซักประวัติคนไข้อย่างละเอียด ให้แน่ใจว่าถูกต้อง เหมาะสม ก่อนตัดไหมค่ะ
หมายเหตุ: คำตอบนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้น กรุณาทำนัดเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรับข้อมูลโดยละเอียด



![[รีวิวคีลอยด์] เป็นคุณแม่ต้องอดทน แต่กับคีลอยด์ผ่าคลอด ไม่ต้องทน เราช่วยได้!](https://dloveveryclinic.com/storage/2025/07/case96-before-pico-keloid-2.webp)
![[รีวิววิธีลดร่องแก้ม] ถ้ารู้ว่าฟิลเลอร์ช่วยได้ขนาดนี้ จะไม่เสียเวลาทุกข์ใจกับร่องแก้มลึกเลย](https://dloveveryclinic.com/storage/2025/06/case-67-before-after-cheek-filler-midface-dlovevery-clinic-1.webp)

