ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ทำไมอ้วนแล้ว ถึงทำให้ปวดหลัง?

หลักการสำคัญของอาการปวดหลังจากน้ำหนักตัวมาก คือ กระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อหลังต้องรับน้ำหนักเกินกว่าที่จะรับไหว ส่งผลให้เกิดแรงกดและการสึกหรอที่ข้อต่อกระดูก กล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องก็จะอ่อนแอ ทำให้การทรงตัวเสียสมดุล จึงเกิดอาการปวดเมื่อย ปวดร้าว หรือจนถึงหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็วและเส้นประสาทถูกกดทับในที่สุดค่ะ

ต้นตอของน้ำหนักตัวมากเกิดจากอาหาร การขยับตัวน้อย พักผ่อนไม่พอ ความเครียด ยาบางอย่าง หรือปัญหาสุขภาพ การแก้ต้องเริ่มสังเกตตัวเอง ปรับอาหาร เพิ่มกิจกรรม จัดการความเครียดและตรวจสุขภาพบ้าง ค่อยๆ แก้ไปแต่ละสาเหตุ ความสม่ำเสมอและความเข้าใจตัวเองคือหัวใจของการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน


หมายเหตุ: คำตอบนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้น กรุณาทำนัดเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรับข้อมูลโดยละเอียด

ทำไมอ้วนแล้วปวดหลัง dlovevery clinic
ปวดหลังเพราะยกของหนัก

น้ำหนักตัวกับอาการปวดหลัง

หมอเจอในคลินิกบ่อยมาก นั่นคือ “น้ำหนักตัวที่มาก มีผลกับอาการปวดหลังและกระดูกทับเส้นอย่างไร” เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าปัญหานี้กระทบกับชีวิตประจำวันมากขนาดไหน

ทำไม “น้ำหนักตัวมาก” ถึงทำให้ปวดหลัง?

เวลาคนไข้มีน้ำหนักตัวมาก กระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อหลังจะต้องรับน้ำหนักที่เยอะขึ้น แรงกดต่อข้อต่อกระดูกสันหลังมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังได้ง่ายกว่าเดิม

ตัวอย่าง ลองนึกถึงเวลาที่เราถือกระเป๋าหนัก ๆ นาน ๆ กล้ามเนื้อหลังจะล้าและเมื่อยใช่ไหมคะ? การมีน้ำหนักตัวมากก็เหมือนกับการที่ “ร่างกายต้องหิ้วน้ำหนักส่วนเกินนั้นตลอดเวลา” สุดท้ายก็ปวดหลังตามมา

กล้ามเนื้อหลังอ่อนแอลง เพราะน้ำหนักเกิน

รู้ไหมคะว่า น้ำหนักตัวเกินทำให้กล้ามเนื้อหลังอ่อนแอ และกล้ามเนื้อหน้าท้องก็อ่อนกำลังลงด้วย ส่งผลกับ การทรงตัวและสมดุลร่างกาย โดยตรง ทำให้เดินไม่นานก็เมื่อย เจ็บหลังง่ายขึ้น

ตัวอย่าง คนไข้บางคนมาปรึกษาว่าชอบปวดหลังเวลายืนนาน ๆ หมอจะพบว่าส่วนหนึ่งมาจากกล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังที่ไม่แข็งแรงร่วมกับน้ำหนักตัวที่มาก

หมอนรองกระดูก…เสื่อมไวเพราะน้ำหนักตัว

อีกหนึ่งปัญหาหลักคือ หมอนรองกระดูกเสื่อมเร็วและเสี่ยงกดทับเส้นประสาท โดยเฉพาะเวลาที่น้ำหนักตัวมากเกินไป ทำให้หมอนรองกระดูกสึกเร็วหรือเคลื่อนจนกดทับเส้นประสาทเกิดอาการชาหรือเจ็บร้าวลงขาได้

ตัวอย่าง คนไข้ที่มีน้ำหนักเกิน มักจะมาด้วยอาการเจ็บหลัง ร้าวลงขา หรือรู้สึกเหมือนขาชา สิ่งเหล่านี้มักมาจากหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนหรือเสื่อม

ปวดหลังเพราะอ้วน VS ปวดหลังเพราะยกของหนัก

อาการปวดหลังจาก “น้ำหนักตัวเยอะ” กับ “ปวดหลังจากยกของหนัก” มีลักษณะคล้ายกันตรงที่เกิดจากแรงกดและการใช้งานกล้ามเนื้อหรือกระดูกหลังเกินกำลัง แต่ต้นเหตุและรูปแบบที่เจอแตกต่างกันค่ะ

  • ปวดหลังจากน้ำหนักตัวเยอะ (แบบคนอ้วน)
    เกิดจากหลังต้องแบกรับน้ำหนักเกินปกติในทุกกิจกรรม โครงสร้างหลังสึกหรอ กล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องอ่อนแรง กระดูกและหมอนรองกระดูกถูกกดทับเรื้อรัง ส่งผลให้ปวดหลังเรื้อรัง และมักเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป
  • ปวดหลังจากยกของหนัก
    มักเกิดเฉียบพลันจากการยกของท่าผิด หรือของหนักเกิน ทำให้กล้ามเนื้อหลังฉีกหรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนทันที ปวดจุดเดียวหรือร้าวลงขาได้ อาการดีขึ้นเองได้ถ้าพัก หรือรักษาตามอาการ

คำแนะนำจากหมอ

  1. เช็กและปรับนิสัยการกิน
  2. เพิ่มการขยับตัวในชีวิตประจำวัน
  3. พักผ่อนให้เพียงพอและจัดการความเครียด
  4. ตรวจสุขภาพ เช็กฮอร์โมนและโรคประจำตัว
  5. สร้างเป้าหมายแบบที่ทำได้จริง

การมีน้ำหนักตัวมาก ไม่ได้ส่งผลแค่ต่ออาการปวดหลังนะคะคนไข้ หลายคนมักเริ่มมาด้วยอาการปวดหลัง ชาปลายมือปลายเท้า หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ความจริงแล้ว น้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานยังเป็นสัญญาณเตือนภัยปัญหาโรคอื่นมากมาย เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ หรือโรคหัวใจที่เราเรียกรวมกันว่า NCDs (กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) เหล่านี้มักจะค่อย ๆ เกิดขึ้นตามมาโดยที่ร่างกายไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนที่ชัดเจนเหมือนอาการปวดหลัง ยิ่งมีน้ำหนักมาก ยิ่งเสี่ยงเกิดโรคเหล่านี้ได้มากขึ้น

ดังนั้นหมอแนะนำให้คนไข้มองการควบคุมดูแลน้ำหนักไม่ใช่แค่เพื่อลดปวดหลัง แต่เป็นการลงมือ ป้องกันโรคเรื้อรัง (NCDs) ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้สุขภาพดีในระยะยาว การเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ เช่นเลือกกินอาหารดี ลดของหวาน ออกกำลังสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้พอ จะช่วยลดทั้งปัญหาปวดหลังและโอกาสเกิดโรคอื่นตามมา ดูแลตัวเองวันนี้เพื่อสุขภาพดีในวันข้างหน้านะคะ

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย