ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

อ้วนหรือไม่อ้วน วัดยังไงนอกจากดูหุ่น

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ว.49465

ตอบ:

การรู้ว่าเรา “อ้วนหรือไม่” ไม่ได้ดูแค่ส่องกระจกหรือขึ้นตาชั่งอย่างเดียวค่ะ การประเมินความอ้วนจริงๆ มีวิธีที่หมอใช้วัดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น หนึ่งในวิธียอดฮิตที่สุดคือค่า BMI หรือค่าดัชนีมวลกาย ซึ่งคำนวนจากน้ำหนักตัวเทียบกับส่วนสูง ถ้า BMI สูงเกินมาตรฐาน ถือว่าอ้วนค่ะ อีกวิธีที่หมอความงามนิยมดูเลยก็คือ “รอบเอว” เทียบกับส่วนสูง หรือที่เรียกว่า WHtR ถ้ารอบเอวเยอะเมื่อเทียบกับส่วนสูง โอกาสมีไขมันสะสมที่หน้าท้องสูง ซึ่งไขมันบริเวณนี้อันตรายกับสุขภาพมากกว่าจุดอื่น

แต่ถ้าจะให้แม่นยำจริงๆ หมอจะใช้วิธีวัด “เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย” ด้วยเครื่องมือเฉพาะ อย่างพวกเครื่องชั่งวัดไขมันหรือการสแกนร่างกายค่ะ ข้อมูลตรงนี้จะช่วยแยกคนที่ดูผอมแต่จริงๆ มีไขมันซ่อนอยู่ หรือคนที่มีกล้ามเนื้อเยอะจนดูน้ำหนักเกินแต่ไม่ได้อ้วนออกจากกันได้ดีขึ้น สรุปคือ ไม่ได้วัดแค่หุ่นที่มองเห็น แต่ต้องดูทั้งตัวเลขและสัดส่วนภายในเพื่อให้รู้สถานะร่างกายที่แท้จริงค่ะ


หมายเหตุ: คำตอบนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้น กรุณาทำนัดเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรับข้อมูลโดยละเอียด

แพ็คเกจตรวจการอักเสบในร่างกาย ราคา 2999 บาท
ลดน้ำหนัก วิธีไหนง่ายที่สุด

การประเมินว่า “อ้วนหรือไม่” สามารถดูได้จากหลายปัจจัยและเครื่องมือ แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน วิธีที่นิยมและพบเห็นบ่อยสุด 3 วิธีหลัก

BMI (Body Mass Index)

คืออะไร เป็นดัชนีมวลกาย ที่คำนวณจาก น้ำหนัก (กก.) / ส่วนสูง^2 (เมตร)

ค่ามาตรฐาน

  • ต่ำกว่า 18.5 = ผอม
  • 18.5 – 22.9 = ปกติ
  • 23.0 – 24.9 = น้ำหนักเกิน
  • 25.0 – 29.9 = อ้วนระดับ 1
  • 30.0 ขึ้นไป = อ้วนระดับ 2

ข้อดี

  • คำนวณง่าย
  • เหมาะใช้ในกลุ่มประชากร
    ข้อจำกัด:
  • ไม่สามารถบอกสัดส่วนไขมัน ต่อกล้ามเนื้อ
  • คนรูปร่างนักกีฬา อาจ BMI สูง แต่ไม่ได้อ้วนจริง

WHtR (Waist-to-Height Ratio)

คืออะไร คือ “รอบเอว (ซม.) / ส่วนสูง (ซม.)”

ค่ามาตรฐาน

  • ไม่ควรเกิน 0.5 (เช่น คนสูง 170 ซม. ควรมีรอบเอวไม่เกิน 85 ซม.)

ข้อดี

  • บ่งบอกความเสี่ยงโรคหัวใจ, เบาหวาน ได้ดีกว่า BMI
  • ให้ความสำคัญกับ “ไขมันหน้าท้อง” ซึ่งอันตราย

ข้อจำกัด

  • ต้องวัดรอบเอวอย่างถูกวิธี

เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย (Body Fat %)

คืออะไร
คือการวัดปริมาณไขมันทั้งหมดในร่างกายเทียบกับน้ำหนักตัว

ค่ามาตรฐาน

  • ผู้ชาย: 15–20%
  • ผู้หญิง: 25–30%

ข้อดี

  • แม่นยำ เห็นสัดส่วนไขมันจริง

ข้อจำกัด

  • ต้องใช้เครื่องมือวัด เช่น เครื่องวัดไขมัน BIA, DEXA, คาลิเปอร์ ฯลฯ

ไขมันในเลือด (Cholesterol & Triglyceride)

คืออะไร ตรวจวัดคอเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ทางห้องปฏิบัติการ

ข้อดี

  • บอกระดับไขมันในเลือดที่สัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

ข้อจำกัด

  • ไม่ใช่ตัววัด “อ้วนหรือไม่” โดยตรง แต่วัด “สุขภาพไขมันในเลือด”
  • น้ำหนักปกติ แต่อาจมีไขมันในเลือดสูงได้

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย

บริการของคลินิก