ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

อ้วนหรือไม่อ้วน วัดยังไงนอกจากดูหุ่น

การรู้ว่าเรา “อ้วนหรือไม่” ไม่ได้ดูแค่ส่องกระจกหรือขึ้นตาชั่งอย่างเดียวค่ะ การประเมินความอ้วนจริงๆ มีวิธีที่หมอใช้วัดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น หนึ่งในวิธียอดฮิตที่สุดคือค่า BMI หรือค่าดัชนีมวลกาย ซึ่งคำนวนจากน้ำหนักตัวเทียบกับส่วนสูง ถ้า BMI สูงเกินมาตรฐาน ถือว่าอ้วนค่ะ อีกวิธีที่หมอความงามนิยมดูเลยก็คือ “รอบเอว” เทียบกับส่วนสูง หรือที่เรียกว่า WHtR ถ้ารอบเอวเยอะเมื่อเทียบกับส่วนสูง โอกาสมีไขมันสะสมที่หน้าท้องสูง ซึ่งไขมันบริเวณนี้อันตรายกับสุขภาพมากกว่าจุดอื่น

แต่ถ้าจะให้แม่นยำจริงๆ หมอจะใช้วิธีวัด “เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย” ด้วยเครื่องมือเฉพาะ อย่างพวกเครื่องชั่งวัดไขมันหรือการสแกนร่างกายค่ะ ข้อมูลตรงนี้จะช่วยแยกคนที่ดูผอมแต่จริงๆ มีไขมันซ่อนอยู่ หรือคนที่มีกล้ามเนื้อเยอะจนดูน้ำหนักเกินแต่ไม่ได้อ้วนออกจากกันได้ดีขึ้น สรุปคือ ไม่ได้วัดแค่หุ่นที่มองเห็น แต่ต้องดูทั้งตัวเลขและสัดส่วนภายในเพื่อให้รู้สถานะร่างกายที่แท้จริงค่ะ


หมายเหตุ: คำตอบนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้น กรุณาทำนัดเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรับข้อมูลโดยละเอียด

แพ็คเกจตรวจการอักเสบในร่างกาย ราคา 2999 บาท
ลดน้ำหนัก วิธีไหนง่ายที่สุด

การประเมินว่า “อ้วนหรือไม่” สามารถดูได้จากหลายปัจจัยและเครื่องมือ แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน วิธีที่นิยมและพบเห็นบ่อยสุด 3 วิธีหลัก

BMI (Body Mass Index)

คืออะไร เป็นดัชนีมวลกาย ที่คำนวณจาก น้ำหนัก (กก.) / ส่วนสูง^2 (เมตร)

ค่ามาตรฐาน

  • ต่ำกว่า 18.5 = ผอม
  • 18.5 – 22.9 = ปกติ
  • 23.0 – 24.9 = น้ำหนักเกิน
  • 25.0 – 29.9 = อ้วนระดับ 1
  • 30.0 ขึ้นไป = อ้วนระดับ 2

ข้อดี

  • คำนวณง่าย
  • เหมาะใช้ในกลุ่มประชากร
    ข้อจำกัด:
  • ไม่สามารถบอกสัดส่วนไขมัน ต่อกล้ามเนื้อ
  • คนรูปร่างนักกีฬา อาจ BMI สูง แต่ไม่ได้อ้วนจริง

WHtR (Waist-to-Height Ratio)

คืออะไร คือ “รอบเอว (ซม.) / ส่วนสูง (ซม.)”

ค่ามาตรฐาน

  • ไม่ควรเกิน 0.5 (เช่น คนสูง 170 ซม. ควรมีรอบเอวไม่เกิน 85 ซม.)

ข้อดี

  • บ่งบอกความเสี่ยงโรคหัวใจ, เบาหวาน ได้ดีกว่า BMI
  • ให้ความสำคัญกับ “ไขมันหน้าท้อง” ซึ่งอันตราย

ข้อจำกัด

  • ต้องวัดรอบเอวอย่างถูกวิธี

เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย (Body Fat %)

คืออะไร
คือการวัดปริมาณไขมันทั้งหมดในร่างกายเทียบกับน้ำหนักตัว

ค่ามาตรฐาน

  • ผู้ชาย: 15–20%
  • ผู้หญิง: 25–30%

ข้อดี

  • แม่นยำ เห็นสัดส่วนไขมันจริง

ข้อจำกัด

  • ต้องใช้เครื่องมือวัด เช่น เครื่องวัดไขมัน BIA, DEXA, คาลิเปอร์ ฯลฯ

ไขมันในเลือด (Cholesterol & Triglyceride)

คืออะไร ตรวจวัดคอเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ทางห้องปฏิบัติการ

ข้อดี

  • บอกระดับไขมันในเลือดที่สัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

ข้อจำกัด

  • ไม่ใช่ตัววัด “อ้วนหรือไม่” โดยตรง แต่วัด “สุขภาพไขมันในเลือด”
  • น้ำหนักปกติ แต่อาจมีไขมันในเลือดสูงได้

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย