ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

เติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ Juvederm ที่ D' Lovevery Clinic คลินิกมาตรฐานใกล้บ้านคุณ พร้อมดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จองคิวเลย สาขารามคำแหงและ CDC

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูล

ฟิลเลอร์

ไม่มีเจตนาโปรโมทเครื่องมือแพทย์

รู้จักหมอต้าร์ ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ใบอนุญาต ว.49465

แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านปรับรูปหน้าและการชะลอวัย ประจำดีเลิฟเวอรี่คลินิก

Juvederm ฟิลเลอร์ มีกี่รุ่น เหมาะกับตำแหน่งไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ คำถามที่พบบ่อย

พบแพทย์ก่อนทุกเคส แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง รับกล่องกลับบ้าน ติดตามผลการรักษา

Elegance is not about being noticed, it’s about being remembered for your own unique brilliance.

การปรับรูปหน้าและเติมเต็มริ้วรอยเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมา ฟิลเลอร์ Juvederm ถือเป็นหนึ่งในฟิลเลอร์ชื่อเสียงและถูกใช้ไปทั่วโลก แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับความไว้วางใจจากคลินิกเสริมความงามชั้นนำในการช่วยคืนความอ่อนเยาว์และปรับโครงสร้างใบหน้าให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ผลิตโบท็อกซ์ ทำให้มั่นใจได้ในมาตรฐานและความปลอดภัย

โปรแกรม Juvederm filler ดีอย่างไร ฉีดรุ่นไหนดี ฉีดฟิลเลอร์ คลินิกใกล้ฉัน

ฟิลเลอร์ Juvederm คืออะไร

ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) หรือ HA ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ทำหน้าที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น และทำให้ผิวดูเต่งตึง เมื่ออายุมากขึ้น HA ในร่างกายจะลดลง ทำให้เกิดริ้วรอยร่องลึกและความหย่อนคล้อย การฉีดฟิลเลอร์ Juvederm จึงเป็นการเติมสาร HA เข้าไปทดแทน เพื่อแก้ปัญหาผิวและปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

Juvederm มีเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ถึง 2 รูปแบบ คือ Hylacross และ Vycross ซึ่งทำให้ได้เนื้อเจลที่มีคุณสมบัติต่างกันออกไป สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละปัญหาและบริเวณที่ต้องการแก้ไขได้อย่างแม่นยำ

  • เทคโนโลยี Hylacross เป็นเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมที่ทำให้สาร HA มีความเข้มข้นสูง อุ้มน้ำได้ดี เนื้อเจลจึงมีความฟู เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้นอย่างชัดเจน
  • เทคโนโลยี Vycross เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่พัฒนาให้โมเลกุลของ HA ยึดเกาะกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เนื้อเจลมีความเรียบเนียน ยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และที่สำคัญคือมีคุณสมบัติอุ้มน้ำน้อย จึงช่วยลดอาการบวมหลังฉีดได้เป็นอย่างดี และยังให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย

ฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น เหมาะกับฉีดจุดไหน

Juvederm ได้ออกแบบฟิลเลอร์มาหลากหลายรุ่น เพื่อให้แพทย์สามารถเลือกใช้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดที่สุด ทุกรุ่นจะมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) เพื่อช่วยลดความเจ็บระหว่างการฉีด

  • Juvederm Volux เป็นรุ่นที่มีความคงตัวและยืดหยุ่นสูงที่สุด เนื้อเจลมีความหนาแน่น สามารถปั้นทรงได้ดี เหมาะสำหรับการสร้างกรอบหน้าให้คมชัด ปรับโครงสร้างคางและแนวกราม ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
Juvederm Volux เป็นรุ่นที่มีความคงตัวและยืดหยุ่นสูงที่สุด เนื้อเจลมีความหนาแน่น สามารถปั้นทรงได้ดี เหมาะสำหรับการสร้างกรอบหน้าให้คมชัด ปรับโครงสร้างคางและแนวกราม ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
  • Juvederm Voluma เนื้อเจลมีความแข็งและฟูปานกลาง เหมาะสำหรับเติมแก้มตอบ ขมับตอบ หรือคาง ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
Juvederm Voluma เนื้อเจลมีความแข็งและฟูปานกลาง เหมาะสำหรับเติมแก้มตอบ ขมับตอบ หรือคาง ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
  • Juvederm Volift เนื้อเจลนิ่ม ละเอียด มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการเติมริมฝีปากให้ดูเป็นธรรมชาติ หรือเติมร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
Juvederm Volift เนื้อเจลนิ่ม ละเอียด มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการเติมริมฝีปากให้ดูเป็นธรรมชาติ หรือเติมร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
  • Juvederm Volbella เนื้อเจลนิ่มและมีความละเอียดสูง เหมาะสำหรับเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตา หรือเติมหน้าผาก ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
Juvederm Volbella เนื้อเจลนิ่มและมีความละเอียดสูง เหมาะสำหรับเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตา หรือเติมหน้าผาก ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
  • Juvederm Ultra XC เหมาะสำหรับฉีดแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก รวมถึงการเติมเต็มบริเวณขมับ แก้มตอบ จมูก และคาง โดยผลลัพธ์คงอยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
Juvederm Ultra XC เหมาะสำหรับฉีดแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก รวมถึงการเติมเต็มบริเวณขมับ แก้มตอบ จมูก และคาง โดยผลลัพธ์คงอยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
  • Juvederm Ultra Plus XC เนื้อเจลนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม หรือเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มแบบชัดเจน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
Juvederm Ultra Plus XC เนื้อเจลนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม หรือเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มแบบชัดเจน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Volite เนื้อเจลมีความละเอียดและบางเบาที่สุด ออกแบบมาเพื่อการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้า หรือใช้เติมใต้ตาในผิวชั้นตื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน
Juvederm Volite เนื้อเจลมีความละเอียดและบางเบาที่สุด ออกแบบมาเพื่อการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ทั่วใบหน้า หรือใช้เติมใต้ตาในผิวชั้นตื้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน

เลือกฟิลเลอร์ Juvederm ให้เหมาะกับแต่ละส่วนของใบหน้า

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เราได้สรุปข้อมูลการเลือกรุ่นฟิลเลอร์ ปริมาณที่แนะนำ และทางเลือกอื่นในการรักษาแต่ละบริเวณมาให้ในตารางนี้

ตำแหน่งรุ่นที่เหมาะปริมาณที่ใช้ (CC)เติมไขมันเสริมซิลิโคน
ร่องแก้มVolift, Ultra Plus XC1 – 2
คางVolux, Voluma1 – 3
ริมฝีปากVolift, Ultra Plus XC, Volbella, Volite1 – 2
ใต้ตาVolbella, Volite1 – 2
หน้าผากVolbella2 – 4
ขมับVoluma, Ultra Plus XC1 – 3

หมายเหตุ ปริมาณ CC ที่ใช้เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้น ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์

ความแตกต่างของฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นที่มียาชาและไม่มียาชา

เพื่อความสบายของคนไข้ระหว่างการฉีด ปัจจุบันฟิลเลอร์ Juvederm ที่ใช้ในคลินิกชั้นนำส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่มียาชาผสมอยู่แล้ว ซึ่งสังเกตได้จากอักษร “XC” (Extra Comfort) ที่ต่อท้ายชื่อรุ่น

คุณสมบัติรุ่นที่มียาชา (XC)รุ่นที่ไม่มียาชา (ไม่มี XC)
ตัวอย่างJuvederm Ultra Plus XCJuvederm Ultra Plus
ส่วนผสมมี Lidocaine 0.3% ผสมในเนื้อเจลไม่มีส่วนผสมของยาชา
ความรู้สึกขณะฉีดรู้สึกเจ็บน้อยกว่าอย่างชัดเจนอาจรู้สึกเจ็บขณะเดินยา แพทย์ต้องใช้ยาชาแบบทาหรือฉีดนำก่อน
การใช้งานเป็นที่นิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เพราะสะดวกและลดความเจ็บปวดได้ดีไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้ว อาจพบได้ในบางกรณีเท่านั้น
รุ่นที่ D’Lovevery เลือกใช้

ที่ D’ Lovevery Clinic เราเลือกใช้ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นที่มียาชา (XC) ทุกรุ่น เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การรักษาที่สบายและเจ็บน้อยที่สุด

ฟิลเลอร์ Juvederm และ Restylane

ฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์มีเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว ซึ่งส่งผลให้เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป การทำความเข้าใจเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกรุ่นฟิลเลอร์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณได้ดียิ่งขึ้น

แบรนด์เทคโนโลยีจุดเด่นของเทคโนโลยีรุ่นที่ใช้
JuvedermHylacrossเนื้อฟู อิ่มน้ำ
เป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมที่ทำให้เนื้อเจลมีความอุ้มน้ำสูง มีความยืดหยุ่น เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นฟูขึ้น
• Juvederm Ultra XC
• Juvederm Ultra Plus XC
Vycrossเรียบเนียน ยืดหยุ่นสูง
เป็นการพัฒนาให้ HA โมเลกุลสั้นและยาวมาเชื่อมกัน ทำให้เนื้อเจลเรียบเนียน ปั้นทรงสวย ลดการอุ้มน้ำจึงบวมน้อย และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
• Juvederm Volux
• Juvederm Voluma
• Juvederm Volift
• Juvederm Volbella
• Juvederm Volite
RestylaneNASHAคงตัว ยกกระชับ
ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความคงตัวสูง ไม่ฟุ้งกระจาย สามารถยกกระชับผิวได้ดี เหมาะกับการสร้างขอบเขตให้คมชัด และให้ความชุ่มชื้น
• Restylane Classic
• Restylane Lyft
• Restylane Skinboosters Vital
OBTยืดหยุ่น ปรับทรงง่าย
ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความยืดหยุ่นสูง ปรับรูปทรงได้หลากหลาย กลืนกับผิวได้ดี เหมาะกับบริเวณที่มีการขยับบ่อยๆ เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
• Restylane Defyne
• Restylane Refyne
• Restylane Volyme
• Restylane Kysse

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น อาการบวมหรือรอยช้ำ และช่วยให้ผลลัพธ์การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด

  • งดยาและวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรงดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด เช่น แอสไพริน, NSAIDs (Ibuprofen, Naproxen), วิตามินอี, น้ำมันปลา, สารสกัดจากแปะก๊วย (Ginkgo Biloba)
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการรักษา
  • แจ้งข้อมูลสุขภาพให้ครบถ้วน แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว, ประวัติการแพ้ยา, และยาที่รับประทานเป็นประจำทุกครั้ง
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายหนักๆ ในวันที่นัดทำหัตถการ
  • หากมีนัดทำฟัน ควรทำก่อนหรือเลื่อนออกไป ควรเว้นระยะห่างจากการทำฟันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนหรือหลังการฉีดฟิลเลอร์
  • สภาพผิว หากมีสิวอักเสบหรือผื่นผิวหนังบริเวณที่จะฉีด ควรแจ้งแพทย์เพื่อเลื่อนนัดจนกว่าจะหายดี

6 ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

เราเข้าใจดีว่าความปลอดภัยและความโปร่งใสคือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญที่สุด เราจึงออกแบบทุกขั้นตอนการบริการให้คุณสามารถตรวจสอบได้และมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ

  1. ประเมินใบหน้าและให้คำปรึกษาโดยแพทย์ แพทย์จะทำการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าของคุณอย่างละเอียด รับฟังความต้องการและเป้าหมายของคุณ พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจและเป็นธรรมชาติที่สุด
  2. ทำความสะอาดผิวและเตรียมการรักษา เจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบริเวณที่จะทำการรักษา จากนั้นจะทำการแปะยาชา (ในกรณีที่จำเป็น) เพื่อให้คุณรู้สึกสบายที่สุดในระหว่างขั้นตอนการฉีด
  3. ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนฉีด นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเพื่อความมั่นใจของคุณ แพทย์จะนำกล่องฟิลเลอร์ Juvederm กล่องใหม่มาแสดงต่อหน้าคุณ ให้คุณตรวจสอบสติกเกอร์โฮโลแกรม เลข Lot. และวันหมดอายุได้ด้วยตนเอง จากนั้นจะทำการแกะกล่องและหลอดฟิลเลอร์ใหม่ให้เห็น เพื่อยืนยันว่าเป็นของแท้ที่ได้มาตรฐานและไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน
  4. ดำเนินการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคและความแม่นยำสูง ค่อยๆ ปั้นและปรับทรงอย่างประณีตเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและเรียบเนียน ทุกขั้นตอนจะทำอย่างนุ่มนวลและใส่ใจในความรู้สึกของคุณเป็นหลัก
  5. ตรวจสอบผลลัพธ์และให้คำแนะนำ หลังฉีดเสร็จทันที แพทย์จะให้คุณดูกระจกเพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ร่วมกัน พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างละเอียด เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานและลดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
  6. นัดหมายเพื่อติดตามผล เราจะทำการนัดหมายเพื่อให้คุณกลับมาติดตามผลกับแพทย์ท่านเดิม เพื่อประเมินผลลัพธ์หลังฟิลเลอร์เข้าที่ และให้ความมั่นใจว่าคุณพึงพอใจกับผลการรักษาอย่างสูงสุด

วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้

  • ตรวจสอบกล่องผลิตภัณฑ์ ต้องมีสติกเกอร์ราคาสีทองและมีแถบโฮโลแกรมคำว่า Allergan
  • เลขทะเบียน อย. สามารถนำเลข Lot. ที่อยู่ข้างกล่องไปตรวจสอบกับบริษัท Allergan Thailand ได้โดยตรง

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

เพื่อให้ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์อยู่กับคุณได้นานและสวยงามที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด หรือนวดบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • งดการทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก การซาวน่า หรือการดื่มแอลกอฮอล์ใน 24 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือหัตถการที่ใช้ความร้อนกับผิวบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและฟูสวยยิ่งขึ้น

ข้อควรรู้ก่อนรับบริการฟิลเลอร์ Juvederm

ข้อควรรู้ก่อนทำรายละเอียดและคำแนะนำ
อาการหลังฉีดอาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยในจุดที่ฉีด สามารถหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง
ระยะเวลาบวม⭐ (น้อยมาก ประมาณ 1-2 วัน)
ต้องพักฟื้นหรือไม่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ความแตกต่างกับยี่ห้ออื่นJuvederm มีเทคโนโลยี Vycross ที่ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติสูง และมีรุ่นที่เหมาะกับทุกปัญหา ทุกสภาพผิว
ความเจ็บระหว่างทำ⭐⭐ (เจ็บเล็กน้อย) เนื่องจากมีการผสมยาชาในตัวฟิลเลอร์ หรือมีการฉีดเพิ่มโดยแพทย์ ประเมินเป็นรายบุคคล
ผลลัพธ์เห็นผลทันทีหรือไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดเมื่ออาการบวมหายไป
ระยะเวลาผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล

ทำไมต้องที่ D’ Lovevery Clinic

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและไว้วางใจได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจึงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคุณในทุกๆ ด้าน

การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ที่ดีเลิฟเวอรี่คลินิก ความปลอดภัย ต้องมาควบคู่กับความสวยงาม ธรรมชาติ
ความปลอดภัย ต้องมาควบคู่กับความสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
  • เป็นส่วนตัวและใส่ใจ ไม่ต้องรอนาน ไม่แออัด แพทย์ให้คำปรึกษาแบบ case-by-case ละเอียด ไม่เร่งรีบ
  • สบายใจไม่มีแรงกดดัน ไม่มีเซลส์คอยปิดการขาย ไม่มีการบังคับซื้อคอร์ส
  • จ่ายสบายเลือกได้ มีระบบมัดจำ แบ่งจ่ายได้ มี Shopee PayLater และผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิต
  • ดูแลต่อเนื่องโดยแพทย์คนเดิม ติดตามผลกับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยตรง
  • รีวิวจริงจากลูกค้าจริง รวมรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ไม่ใช่ดาราหรือ Influencer
  • แพทย์ประสบการณ์สูงตรวจสอบได้
  • คลินิกมาตรฐาน เดินทางสะดวก คลินิกผ่านการรับรอง มีที่จอดรถฟรี
  • โปร่งใสและตรวจสอบได้ ข้อมูลรวดเร็ว เช็คคอร์สคงเหลือได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ทุกตัวผ่าน อย. ไทยและตรวจสอบได้

โปรแกรม Juvederm Filler ราคาเท่าไหร่

ฟิลเลอร์ราคา คลินิกฉีดฟิลเลอร์ เลียบด่วน รามอินทรา ดีเลิฟเวอรี่คลินิก อย. แท้ทุกกล่อง

ราคาฟิลเลอร์ Juvederm ที่ D’ Lovevery Clinic

รุ่นฟิลเลอร์ (ต่อ 1 CC)ราคาประมาณ (บาท)
Juvederm Ultra Plus XC12,000 – 15,000
Juvederm Voluma16,000 – 18,000
Juvederm Volift16,000 – 18,000
Juvederm Volite16,000 – 18,000
Juvederm Volbella16,000 – 18,000
Juvederm Volux18,000
ลูกค้า Membership รับส่วนลดพิเศษ ลดเพิ่มสูงสุด 40%

หมายเหตุ

  • หากต้องการทราบราคาที่ชัดเจนตามปัญหา ส่งภาพเข้ามาประเมิน หรือเข้ามาพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาอย่างละเอียด คุณหมอจะแนะนำ จำนวน รุ่นที่จะใช้แก้ปัญหาได้ชัดเจนที่สุด แจ้งราคาก่อนรับบริการทุกเคส
  • คลินิกมีโปรแกรมผ่อนชำระ 0% และ Shopee PayLater เพื่อความสะดวกของคุณลูกค้าทุกท่าน

ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก มั่นใจดีเลิฟเวอรี่คลินิก


พร้อมเผยความงามในแบบฉบับของคุณแล้วหรือยัง ปรึกษาปัญหาผิวและรูปหน้ากับทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ มีรีวิวจำนวนมากที่อาจจะมีปัญหาคล้ายกับของคุณ ปรึกษาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อการประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ จองคิวเพื่อรับคำปรึกษาได้แล้ววันนี้

  • สาขาพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง โทร 064-424-6526
  • สาขา Crystal Design Center (CDC) โทร 095-236-4546

“Facial Harmony Filler” ไม่ใช่เทคนิคที่เป็นความลับหรือมีใครเป็นเจ้าของค่ะ แต่มันคือ “ปรัชญา” และ “ศิลปะ” ในการปรับรูปหน้า ที่เปลี่ยนมุมมองจากการ “เติมเป็นจุดๆ” มาเป็นการ “ปั้นและออกแบบใบหน้าแบบองค์รวม” ค่ะ หัวใจสำคัญคือการที่แพทย์ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและสร้างความสมดุลให้ทุกส่วนประกอบบนใบหน้าดูกลมกลืนกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่แค่การเติมเต็มส่วนที่ขาด แต่คือการ คืนความอ่อนเยาว์ สร้างมิติที่สวยงาม และดึงความงามในแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุดของคนไข้ ออกมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการย้ำเตือนให้คนไข้เข้าใจว่า การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ แต่ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์อย่างแท้จริงค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

คือ โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อ “ป้องกันและลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ” เช่น เวลายักคิ้ว ในขณะที่ ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ “เติมเต็มร่องลึกถาวร” ที่มองเห็นแม้จะทำหน้าเฉยๆ ค่ะ ในหลายกรณี การใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างครอบคลุมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

การฉีดฟิลเลอร์ในผู้ชายมีความแตกต่างจากผู้หญิงอย่างชัดเจนในเรื่องของเป้าหมายและเทคนิคค่ะ สำหรับผู้ชายจะเน้นการฉีดเพื่อเสริมสร้างความคมชัดของกรอบหน้า (Masculinization) เช่น การทำให้หน้าผากดูกว้างและตรง, สร้างสันจมูกให้คม, เพิ่มความกว้างและความเหลี่ยมของคาง, และสร้างแนวกรามให้คมชัดเป็นสัน เพื่อส่งเสริมโครงสร้างที่ดูแข็งแรงตามแบบผู้ชาย ในขณะที่ การฉีดในผู้หญิงจะเน้นการสร้างความโค้งมน อ่อนหวาน (Feminization) เช่น การทำให้หน้าผากโหนกนูน, สร้างโหนกแก้มให้ดูอิ่มเอิบ, ทำให้คางเรียวเป็น V-shape และปั้นปากให้อวบอิ่มสวยงามค่ะ

อย่างไรก็ตาม ในบริเวณอื่นๆ เช่น ใต้ตาและร่องแก้ม เทคนิคและเป้าหมายจะมีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากปัญหาเกิดจากการยุบตัวของโครงสร้างใต้ผิวหนังเหมือนกัน เป้าหมายหลักจึงเป็นการ “เติมเต็ม” เพื่อแก้ปัญหาร่องลึกและความโทรมให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น แต่ทั้งนี้ แพทย์จะยังคงพิจารณาปริมาณฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละเพศ และใช้เทคนิคการเกลี่ยที่พิถีพิถัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและส่งเสริมเอกลักษณ์ของคนไข้แต่ละคนได้ดีที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย รวมถึงฟิลเลอร์ ที่เป็นกล่องๆ ที่ผ่าน อย. แบบที่เราคุ้นเคยกันนั้นจะค่อย ๆ สลายตัวเองตามกระบวนการปกติของร่างกายค่ะ โดยมีเอนไซม์มาค่อย ๆ ย่อยสลายฟิลเลอร์จนกลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็กมาก ๆ สุดท้ายจะถูกดูดซึมและขับออกจากร่างกายไปตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับของเสียอื่น ๆ จึงมั่นใจได้ว่า ไม่มีการตกค้างเป็นอันตราย หรือไหลไปสะสมที่อื่นแน่นอนค่ะ

คนไข้หลายคนเข้าใจว่าตอนแรกฟิลเลอร์มีลักษณะเป็น “เจล” เพราะคลินิกต้องเอาหลอดฟิลเลอร์ให้ดูก่อนฉีดอยู่แล้ว และสุดท้ายก็กลายเป็นน้ำ “ถูกขับออกจากร่างกายไป” อันนี้ก็ต้องบอกว่าถูกต้องเหมือนกันค่ะ แต่หมอขอขยายส่วนที่บอกว่ากลายเป็น “น้ำ” นิดนึงค่ะ

จริงๆ แล้วฟิลเลอร์ HA ไม่ได้สลายตัวกลายเป็น “น้ำ” (H₂O) โดยตรงค่ะ แต่กระบวนการที่ถูกต้องคือ

  1. จากเจลสู่โมเลกุลน้ำตาล: เอนไซม์ในร่างกายจะย่อยสลายเนื้อเจลของฟิลเลอร์ ให้กลายเป็นโมเลกุลที่เล็กลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายอยู่ในรูปของ “โมเลกุลน้ำตาล” ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสาร Hyaluronic Acid ค่ะ
  2. ร่างกายนำไปใช้และขับออก: หลังจากนั้น ร่างกายก็จะดูดซึมโมเลกุลน้ำตาลเหล่านี้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ หรือ ขับออกตามกระบวนการขับของเสียปกติของร่างกาย ซึ่งก็คือผ่านทางปัสสาวะหรือเหงื่อนั่นเองค่ะ

ดังนั้น ที่คนไข้เข้าใจว่ามันกลายเป็นของเหลวแล้วถูกขับออกนั้นถูกต้องเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้เป๊ะๆ ตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็คือ จากเจล กลายเป็นน้ำตาล แล้วจึงถูกขับออก นั่นเองค่ะ

มีอะไรสงสัยถามหมอได้อีกเลยนะคะ ยินดีตอบเสมอค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

เบื้องต้นควรฉีด 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 4 สัปดาห์ก่อนเพื่อให้ผิวฟื้นฟู จากนั้นสามารถทิ้งระยะในการฉีดได้โดยฉีดทุกๆ 6 เดือนนะคะ

การฉีด Profhilo บริเวณใบหน้าจำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 1 ไซริงค์ (2 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 25,000 บาทค่ะ แต่หากเป็นการฉีดบริเวณใบหน้าและลำคอ จำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 2 ไซริงค์ (4 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 45,000 บาทค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะ D’Lovevery Clinic ยินดีให้บริการค่ะ 😊

ไม่ทราบว่าสนใจสอบถามข้อมูลฟิลเลอร์ JUVEDERM ตัวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ตอนนี้เรามีโปรโมชั่นสุดพิเศษ ทุกโมเลกุลราคาเดียวเลยค่ะ

  • 1 cc ราคา 18,000 บาท
  • 2 cc ราคา 30,000 บาท
  • 3 cc ราคา 39,000 บาท

สามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อประเมินใบหน้าก่อนได้นะคะ หรือถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม ถามแอดมินได้เลยค่า

อ่านเพิ่มเติม

การรักษาริ้วรอยที่คอต้องเลือกให้ถูกประเภทค่ะ โดย ริ้วรอยที่เป็นเส้นขวางตามลำคอ (เหมือนสร้อยคอ) ซึ่งเกิดจากร่องลึกของผิวหนังที่สูญเสียคอลลาเจน จะต้องใช้ “ฟิลเลอร์” ในการ “เติมเต็ม” ร่องลึกนั้นให้ตื้นขึ้นและเรียบเนียน ในขณะที่ เส้นเอ็นแนวตั้งที่เห็นชัดตอนเกร็งคอ เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ จะต้องใช้ “โบท็อกซ์” เพื่อฉีด “คลายกล้ามเนื้อ” ไม่ให้หดตัวจนเกิดเป็นเส้นขึ้นมาค่ะ ในบางเคส อาจมีการผสมผสานการรักษา หรือแม้กระทั่งกลุ่ม Biostimulator ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีในบางเคสค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ลองวาดภาพว่าผิวเราเหมือนสปริงที่ยืดหยุ่นน้อยลง คอลลาเจน–อีลาสทินค่อยๆลด ทำให้ผิวบางลง แห้งง่าย และเกิดริ้วรอยทั้งตอนยิ้มขยับและตอนพักเฉยๆ ไขมันชั้นตื้นที่เคยพยุงผิวก็กระจายและไหลลง ทำให้ใต้ตาล้า ร่องแก้มเริ่มมา แก้มแฟบลง หน้าดูโทรมกว่าที่เคยเป็น

ลึกลงไป กล้ามเนื้อบางมัดทำงานหนักขึ้น (เช่น กราม) จึงดึงหน้าให้ตกลง ส่วนบางมัดกลับฝ่อ สมดุลเสีย กระดูกก็หดร่นเล็กลง โดยเฉพาะรอบเบ้าตาและแนวกราม ทำให้ตาดูลึก ขมับแบน และเกิดแก้มตกห นี่คือเหตุผลว่าทำไม “ทาครีมอย่างเดียว” จึงดีขึ้นไม่ได้ เพราะปัญหาอยู่หลายชั้นตั้งแต่ผิว ไขมัน กล้ามเนื้อ ไปจนถึงกระดูก

พื้นฐานคือทากันแดดสม่ำเสมอ บางคนแค่กันแดดก็บอกลำบากแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง บำรุงด้วยเรตินอยด์ วิตามินซี และมอยส์เจอไรเซอร์ จากนั้นเราปรับตามปัญหา โบท็อกซ์ช่วยคลายริ้วรอยได้ เลเซอร์/คลื่นพลังงานกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่นขึ้น ฟิลเลอร์ใน “ชั้นลึก” ยกเครื่องโครงหน้าใหม่ เช่นโหนกแก้ม–ขมับ–แนวกราม และในบางเคสอาจใช้ไหมพยุงหรือพิจารณาศัลยกรรมเมื่อหย่อนมาก จุดสำคัญคือทำอย่างพอดี ปลอดภัย และวางแผนระยะยาวให้เหมาะกับใบหน้าและไลฟ์สไตล์ของตัวเองดีที่สุดค่ะ ทุกโปรแกรม ทุกเครื่องมีข้อดีข้อจำกัด เหมาะกับคนอื่นแต่อาจจะไม่เหมาะกับเรา

อ่านเพิ่มเติม

ใช้เวลารับบริการ:

60

นาที

ให้บริการโดย:

แพทย์ประจำ

★★ ความประทับใจ ★★

facebook
Darinda Nina
Darinda Nina
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Lawleit Schneider
Lawleit Schneider
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Jenifer Rich
Jenifer Rich
แนะนำเลย
28/06/2024
google
พิเชฐ ตันเจริญ
พิเชฐ ตันเจริญ
21/06/2024
facebook
Natanicha Charbumrung
Natanicha Charbumrung
แนะนำเลย
16/06/2024
google
นิภาพร บํารุงชาติ
นิภาพร บํารุงชาติ
16/06/2024
google
Darin dada
Darin dada
21/05/2024