โปรแกรมฟิลเลอร์สะโพก ปั้นบั้นท้ายสวย กลมกลึงทุกองศา
Your body is a canvas, and you are the artist. Sculpt the silhouette you desire.
โปรแกรมฟิลเลอร์สะโพก หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อการฉีดฟิลเลอร์ก้น เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อความงามที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ช่วยปรับรูปร่างสะโพกและบั้นท้ายให้มีความโค้งมนสวยงาม กลมกลึง และได้สัดส่วนอย่างเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาบั้นท้ายหย่อนคล้อย, สะโพกแบน, สะโพกบุ๋ม หรือที่เรียกว่า Hip Dip รวมถึงผู้ที่ต้องการเสริมสะโพกให้ดูผายขึ้น เพื่อสร้างมิติให้รูปร่างดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ไม่ต้องพักฟื้นนาน
ที่ D’ Lovevery Clinic เราเลือกใช้โปรแกรมฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้คุณสามารถปั้นหุ่นในฝันให้เป็นจริงได้อย่างมั่นใจ
ปั้นหุ่นสวยด้วยฟิลเลอร์สะโพก เหมาะกับใครบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์สะโพกเป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของรูปร่างได้อย่างตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ที่เผชิญปัญหาเหล่านี้
- ปัญหาสะโพกบุ๋ม (Hip Dip) เติมเต็มด้านข้างสะโพกที่เว้าแหว่งให้เต็มสวย ทำให้รูปร่างดูมีส่วนโค้งเว้ามากขึ้น
- ปัญหาสะโพกแบน ไม่ได้สัดส่วน เพิ่มวอลลุ่มให้บั้นท้ายดูเต็มและผายขึ้น สร้างมิติให้รูปร่าง
- ปัญหาบั้นท้ายหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับบั้นท้ายที่ขาดความเต่งตึงให้กลับมาสวยงาม อวบอิ่ม
- ปัญหารูปร่างไม่สมส่วน ปรับขนาดสะโพกให้สมดุลกับสัดส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างแต่ไม่ต้องการผ่าตัด เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องเจ็บตัวเหมือนการผ่าตัด

ข้อดีและข้อควรพิจารณาของการฉีดฟิลเลอร์สะโพก
ข้อดี
- เห็นผลลัพธ์ทันที สามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้ทันทีหลังทำ
- ไม่ต้องผ่าตัด เป็นหัตถการที่ไม่ต้องใช้มีด ไม่มีความเสี่ยงจากการดมยาสลบ
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติแทบทันที
- ปลอดภัยสูง ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง
- ปรับแก้ได้ สามารถปรับแต่งรูปทรงเพิ่มเติม หรือฉีดสลายได้หากผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจ
- กระตุ้นคอลลาเจน ฟิลเลอร์บางชนิดมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดดูเรียบเนียนและเต่งตึงขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ฟิลเลอร์จะค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติ โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลตัวเอง
- ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ การฉีดฟิลเลอร์สะโพกต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย
- ปริมาณฟิลเลอร์ อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งส่งผลต่อค่าใช้จ่ายโดยรวม
- อาจมีอาการบวมช้ำ หลังทำอาจมีอาการบวมหรือรอยช้ำเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะค่อยๆ หายไปเองใน 1-2 สัปดาห์
เพื่อผลลัพธ์และความปลอดภัยสูงสุด ที่ D’ Lovevery Clinic
เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเป็นไปตามที่คาดหวัง ทีมแพทย์ของเราใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยใช้เทคนิคสำคัญดังนี้
- เลือกใช้เข็มปลายทู่ (Blunt Cannula)
- ลดการบาดเจ็บ ปลายเข็มที่ทู่จะช่วยลดการทำลายเส้นเลือดและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดรอยช้ำน้อยมากหรือไม่เกิดเลย
- เพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่เส้นเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
- วางฟิลเลอร์ในชั้นที่ถูกต้อง
- แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ใน ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat Layer) เท่านั้น ซึ่งเป็นชั้นที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด
- เรา ไม่ฉีดลึกลงในชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ผิวเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน
- ออกแบบการฉีดแบบ Vector-Lifting
- ไม่ใช่แค่การเติมเต็ม แต่เป็นการฉีดในทิศทางที่เป็นการ สร้างแนวเวคเตอร์เพื่อยกกระชับ (Vector Lift) ช่วยให้บั้นท้ายที่หย่อนคล้อยดูกระชับและยกขึ้น
- เทคนิคนี้ช่วยสร้าง Contour หรือกรอบของสะโพกให้คมชัดและมีส่วนโค้งเว้าที่สวยงาม
- วางแผนการรักษาร่วมกับคนไข้ (Customized Plan)
- ก่อนทำการรักษา แพทย์จะประเมินสรีระและพูดคุยถึงความต้องการของคนไข้อย่างละเอียด เพื่อ ออกแบบรูปทรงสะโพกเฉพาะบุคคล ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ตอบโจทย์และน่าพึงพอใจที่สุด

ภาพนี้แสดงถึงเทคนิคสำคัญในการเสริมสร้างและปรับรูปทรงบั้นท้าย (gluteal augmentation) อย่างแม่นยำ ซึ่งอาศัยความเข้าใจกายวิภาคของบริเวณก้นอย่างลึกซึ้ง จุดวงกลมสีดำบนภาพคือตำแหน่งที่แพทย์จะสอดท่อขนาดเล็กปลายทู่ หรือที่เรียกว่า “แคนนูลา” (cannula) เข้าสู่ผิวหนังอย่างระมัดระวัง เพื่อนำสารเติมเต็ม เข้าไปในชั้นเนื้อเยื่อ เส้นสีแดงที่แตกแขนงออกไปพร้อมจุดสีเหลือง แสดงถึงแนวทางและจุดกระจายตัวของสารเติมเต็มในบริเวณชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous tissue) หรือเหนือกล้ามเนื้อก้น (supra-muscular plane) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการเพิ่มปริมาตรและปรับส่วนโค้งเว้าของบั้นท้ายให้ได้รูปทรงที่สวยงามและเป็นธรรมชาติที่สุด การทำหัตถการนี้จำเป็นต้องกระทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่ได้
โปรแกรมฟิลเลอร์สะโพก ต่างจากการฉีดไขมันสะโพกอย่างไร
หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือ ควรเลือกเติมสะโพกด้วยฟิลเลอร์ หรือเลือกการฉีดไขมันตัวเองดี แม้ทั้งสองวิธีจะช่วยเพิ่มขนาดและปรับรูปทรงของสะโพกได้เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ตั้งแต่กระบวนการทำไปจนถึงผลลัพธ์และการดูแลตัวเอง ซึ่งตารางข้างล่างนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ตารางเปรียบเทียบ ฟิลเลอร์สะโพก VS ฉีดไขมันสะโพก
| หัวข้อเปรียบเทียบ | โปรแกรมฟิลเลอร์สะโพก | การฉีดไขมันสะโพก |
|---|---|---|
| กระบวนการ | ฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่สะโพกได้ทันที | ต้องดูดไขมันจากส่วนอื่นก่อน แล้วนำมาปั่นคัดแยกเซลล์ไขมัน จากนั้นจึงฉีดกลับเข้าไป |
| จำนวนแผล | แผลเล็กเพียง 1 จุด (จากรอยเข็ม) | มีแผลอย่างน้อย 2 จุด (บริเวณที่ดูดไขมัน และบริเวณที่ฉีด) |
| ความเจ็บปวด | 🟡⚪️⚪️⚪️⚪️ (น้อยมาก) | 🟡🟡🟡⚪️⚪️ (ปานกลาง) |
| ระยะเวลาพักฟื้น | ⚪️⚪️⚪️⚪️⚪️ (ไม่ต้องพักฟื้น) | 🟡🟡🟡🟡⚪️ (นาน 1-2 สัปดาห์ หรือมากกว่า) |
| ความชัดเจนของผลลัพธ์ | 🟢🟢🟢🟢🟢 (เห็นผลชัดเจน 100%) | 🟢🟢🟢⚪️⚪️ (คาดเดายาก ไขมันอาจติดเพียง 40-70%) |
| การเกิดรอยบวมช้ำ | 🟡⚪️⚪️⚪️⚪️ (น้อยมาก) | 🟡🟡🟡🟡⚪️ (บวมช้ำค่อนข้างมาก) |
| ความยุ่งยากในการดูแล | 🟡⚪️⚪️⚪️⚪️ (ดูแลตัวเองง่าย) | 🟡🟡🟡🟡⚪️ (ดูแลแผลหลายตำแหน่งและมีข้อจำกัดเยอะ) |
| ระยะเวลาเห็นผล | 🟢🟢🟢🟢🟢 (เห็นผลทันที) | 🟡🟡⚪️⚪️⚪️ (ต้องรอให้ไขมันเข้าที่และยุบบวม 3-6 เดือน) |
| ระยะเวลาผลลัพธ์ | อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี | หากไขมันติดแล้วจะอยู่ได้ค่อนข้างถาวร |
การฉีด โปรแกรมฟิลเลอร์สะโพก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันทีหลังทำ ไม่ต้องการมีแผลหลายตำแหน่ง และไม่ต้องการเสียเวลาพักฟื้น ในขณะที่ การฉีดไขมัน จะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินเพียงพอให้ดูด มีเวลาพักฟื้นนาน และยอมรับความไม่แน่นอนของผลลัพธ์ได้
ทรงสะโพกยอดนิยมที่ฟิลเลอร์ ปั้นได้
ความสวยงามของรูปร่างเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว ทรงสะโพกที่คนไทยและชาวเอเชียนิยมมักจะเน้นความกลมกลึงดูเป็นธรรมชาติ มีส่วนโค้งเว้าที่พอดีกับสรีระ ไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่ง โปรแกรมฟิลเลอร์สะโพก สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทรงที่สามารถปั้นได้สวยงามและเป็นที่นิยม มีดังนี้
- ทรงกลม (Round Shape) เป็นทรงที่ได้รับความนิยมสูงสุด ให้ลุคที่ดูสวยงาม อวบอิ่ม บั้นท้ายกลมสวยเท่ากันทุกสัดส่วน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้สะโพกดูเต็มและเด่นชัดขึ้น
- ทรงหัวใจ (Heart Shape หรือ A-Shape) เป็นทรงที่ช่วงบนของสะโพกจะเล็กกว่าและค่อยๆ ผายออกด้านข้างและโค้งมนลงมาที่บั้นท้าย ทำให้เอวดูคอดเล็กและรูปร่างมีส่วนโค้งเว้าที่ชัดเจน ให้ลุคที่ดูสวยหวานแบบผู้หญิง
- ทรงสามเหลี่ยม (V-Shape) หรือที่บางคนเรียกว่า “ทรงคว่ำ” เป็นทรงที่สัดส่วนช่วงเอวและสะโพกจะไล่ระดับลงมาเป็นรูปตัว V ทำให้บั้นท้ายดูเล็กลงเมื่อเทียบกับช่วงบนของสะโพก จุดเด่นของทรงนี้คือจะช่วยเน้นให้ช่วงขาดูเรียวยาวมากขึ้น จึงเป็นทรงที่ได้รับความนิยมในหมู่สาวเอเชีย โดยเฉพาะ คนที่โครงสร้างกระดูกสะโพกช่วงบนค่อนข้างกว้างแต่มีช่วงขาที่เล็ก การปรับทรงสะโพกแบบนี้จะช่วยสร้างสมดุลให้รูปร่างโดยรวมดูเพรียวและสง่างามยิ่งขึ้น

แล้วทรงสะโพกแบบสายฝอ บราซิล หรือตุรกีล่ะ?
สำหรับทรงสะโพกที่ใหญ่และพุ่งมากๆ แบบสายฝอ (Westernized) หรือที่เรียกว่า Brazilian Butt Lift (BBL) สไตล์นั้น อาจไม่เหมาะกับการใช้ฟิลเลอร์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากการจะปั้นสะโพกให้มีขนาดใหญ่และพุ่งมากๆ ต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่สูงมาก ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงและเสี่ยงต่อการที่ฟิลเลอร์จะเคลื่อนตัวได้ในอนาคต
ในกรณีนี้ การผ่าตัดเสริมซิลิโคน (Silicone Implants) อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ถาวรและสามารถเพิ่มขนาดได้ใหญ่ตามต้องการ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องแลกมากับความเสี่ยงจากการผ่าตัดและระยะเวลาพักฟื้นที่นานกว่า

ตารางเปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ สะโพก VS การเสริมซิลิโคน
| หัวข้อเปรียบเทียบ | โปรแกรมฟิลเลอร์สะโพก | การผ่าตัดเสริมซิลิโคน |
|---|---|---|
| เหมาะกับทรงแบบไหน | ทรงธรรมชาติ กลมมน พอดีตัว (ทรงเอเชีย) | ทรงใหญ่พิเศษ พุ่งชัดเจน (ทรงสายฝอ) |
| กระบวนการ | ฉีดสารเติมเต็ม ไม่ต้องผ่าตัด | ผ่าตัดเพื่อใส่ถุงซิลิโคน ต้องดมยาสลบ |
| ขนาดแผล | 🟡⚪️⚪️⚪️⚪️ (รอยเข็มเล็กๆ) | 🟡🟡🟡🟡🟡 (แผลผ่าตัดยาวหลายเซนติเมตร) |
| ระยะเวลาพักฟื้น | ⚪️⚪️⚪️⚪️⚪️ (ไม่ต้องพักฟื้น) | 🟡🟡🟡🟡🟡 (พักฟื้นนาน 4-6 สัปดาห์ หรือมากกว่า) |
| ความเจ็บปวด | 🟡⚪️⚪️⚪️⚪️ (น้อย) | 🟡🟡🟡🟡🟡 (อาจระบบมากในช่วงแรก) |
| ความเสี่ยง | ความเสี่ยงต่ำ (อาจมีบวม ช้ำ) | ความเสี่ยงสูง (ติดเชื้อ, ซิลิโคนพลิก/ฉีกขาด, พังผืดรัด) |
| การปรับแก้ | 🟢🟢🟢🟢🟢 (ปรับแก้หรือฉีดสลายได้ง่าย) | ⚪️⚪️⚪️⚪️⚪️ (แก้ไขยุ่งยาก ต้องผ่าตัดใหม่) |
| ความเป็นธรรมชาติ | 🟢🟢🟢🟢🟢 (ดูเป็นธรรมชาติ สัมผัสนิ่ม) | 🟡🟡🟡⚪️⚪️ (อาจดูเป็นบล็อกและคลำเจอขอบซิลิโคนได้) |
| ผลลัพธ์ | อยู่ได้นาน 1-2 ปี | ถาวร (หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน) |
คุณสมบัติฟิลเลอร์ที่ดีสำหรับสะโพก
การเลือกฟิลเลอร์สำหรับฉีดบริเวณลำตัว เช่น สะโพกและบั้นท้าย จะแตกต่างจากการเลือกฟิลเลอร์สำหรับใบหน้า เนื่องจากต้องใช้ในปริมาณที่มากกว่าและต้องรองรับการเคลื่อนไหวและแรงกดทับได้ดี ดังนั้น ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับสะโพกจึงต้องมีคุณสมบัติพิเศษดังนี้
- มีความคงตัวสูง (High Cohesiveness)
- ทำไมถึงสำคัญ ฟิลเลอร์ต้องสามารถเกาะกลุ่มกันได้ดี ไม่ไหลหรือเคลื่อนที่ไปยังบริเวณอื่นได้ง่ายหลังจากฉีดเข้าไปแล้ว เพื่อให้สะโพกคงรูปทรงสวยงามตามที่ออกแบบไว้
- ผลลัพธ์คือ รูปทรงที่ชัดเจน ไม่เสียทรงเมื่อเวลาผ่านไป
- มีแรงยกและขึ้นรูปได้ดี (High Lifting Capacity & G’ Prime)
- ทำไมถึงสำคัญ เนื่องจากสะโพกเป็นบริเวณที่ต้องการการ “ยก” และ “ปั้น” ให้ได้รูปทรงที่พุ่งสวยงาม ฟิลเลอร์จึงต้องมีความหนาแน่นและความแข็งที่เหมาะสม สามารถดันเนื้อเยื่อและคงรูปอยู่ได้ ไม่แบนราบไปกับผิว
- ผลลัพธ์คือ สะโพกที่ยกกระชับ กลมกลึง และมีมิติ
- ทนต่อแรงกดทับและแรงขยับ (Durable & Flexible)
- ทำไมถึงสำคัญ สะโพกเป็นส่วนที่เราใช้ในการนั่ง นอน และเคลื่อนไหวตลอดเวลา ฟิลเลอร์จึงต้องทนทานต่อแรงกดทับและมีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปกลับมาได้ดี ไม่เสียทรงง่าย
- ผลลัพธ์คือ ผลลัพธ์ที่ยาวนานและดูเป็นธรรมชาติในทุกการเคลื่อนไหว
- มีความปลอดภัยสูงและผ่านการรับรอง
- ทำไมถึงสำคัญ ต้องเป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตมาเพื่อใช้กับร่างกาย (Body Filler) โดยเฉพาะ และต้องผ่านการรับรองจากองค์กรอาหารและยา (อย.) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากร่างกายหรือผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายในระยะยาว

Variofill for Gluteal Augmentation คืออะไร
Variofill เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) จากประเทศเยอรมนี ที่ผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี MPT™ (Monalisa Particle Technology) ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความหนืดและความคงตัวสูงเป็นพิเศษ เหมาะสมอย่างยิ่งกับการเติมเต็มและปั้นทรงบริเวณสะโพก ซึ่งต้องการแรงยกและความทนทานต่อแรงกดทับสูง
ตารางข้อมูลโปรแกรมฟิลเลอร์ Variofill
| คุณสมบัติ | รายละเอียด |
|---|---|
| ชื่อผลิตภัณฑ์ | Variofill® for Gluteal Augmentation |
| ประเภทสาร | Cross-linked Hyaluronic Acid (HA) |
| ปริมาตรต่อกล่อง | 10 ซีซี |
| แหล่งผลิต | ประเทศเยอรมนี |
| เทคโนโลยี | MPT™ (Monalisa Particle Technology) |
| คุณสมบัติเด่น | เนื้อเจลมีความคงตัวสูง (High Cohesiveness) ทนต่อแรงกดทับได้ดี ปั้นทรงสวย |
| เหมาะสำหรับ | เติมเต็มสะโพก, แก้ปัญหา Hip Dip, ปั้นทรงบั้นท้ายให้กลมกลึง |
| การรับรอง | ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และ CE Mark (ยุโรป) |
| ระยะเวลาผลลัพธ์ | ประมาณ 18 – 24 เดือน |
ด้วยปริมาณที่ให้มาถึง 10 ซีซีต่อกล่อง ทำให้ Variofill มีความคุ้มค่าและสามารถใช้ปั้นทรงสะโพกให้ได้ขนาดที่ต้องการอย่างเหมาะสม ประกอบกับคุณสมบัติของเนื้อเจลที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเคลื่อนไหวและแรงกดทับของร่างกายโดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และอยู่ได้ยาวนาน

- Shape: ปั้นทรงสวย ดั่งใจปรารถนา
- Firmness: คืนความกระชับแน่น ให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- Lift: ยกบั้นท้าย สร้างส่วนโค้งที่น่าหลงใหล
- Contour: เติมเต็มทุกสัดส่วนให้สมดุล
- Smooth: มอบผิวสัมผัสที่เรียบเนียน น่าสัมผัส
- Confidence: เสริมสร้างความมั่นใจในทุกการเคลื่อนไหว
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, วิตามินอี, น้ำมันปลา อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
- แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
- พักผ่อนให้เพียงพอและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
การดูแลตัวเองหลังรับบริการ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด หรือกดบริเวณที่ฉีดแรงๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- งดการออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วง 1 สัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงการเข้าซาวน่า สตรีม หรือการสัมผัสความร้อนสูงในบริเวณที่ทำ
- ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากเพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูตัวและให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์สะโพก
| ความกังวล | รายละเอียด |
|---|---|
| เจ็บไหม | ก่อนทำจะมีการแปะยาชา ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยมาก ระหว่างทำอาจรู้สึกตึงๆ เล็กน้อย |
| บวมกี่วัน | อาการบวมจะเห็นชัดในช่วง 1-3 วันแรก และจะค่อยๆ ยุบลงจนเข้าที่ใน 1-2 สัปดาห์ |
| ใช้ฟิลเลอร์กี่ CC | ปริมาณขึ้นอยู่กับปัญหาและขนาดสะโพกเดิมของแต่ละบุคคล แพทย์จะเป็นผู้ประเมินเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุด |
| ต่างจากการผ่าตัดเสริมสะโพกอย่างไร | การฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลทันที แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวร ส่วนการผ่าตัดให้ผลลัพธ์ถาวร แต่ต้องพักฟื้นนานและมีความเสี่ยงสูงกว่า |
| คะแนนความบวม | 🟡🟡⚪️⚪️⚪️ (บวมน้อยถึงปานกลาง) |
| ระยะเวลาเห็นผลชัดเจน | 🟢🟢🟢🟢🟢 (เห็นผลทันทีหลังทำ) |

ฟิลเลอร์สะโพก ราคาเท่าไหร่
| จำนวน | ปริมาณรวม | ราคา (บาท) |
|---|---|---|
| 1 กล่อง | 10 cc | 35,000 |
| 2 กล่อง | 20 cc | 68,000 |
| 3 กล่อง | 30 cc | 99,000 |
| 4 กล่อง | 40 cc | 128,000 |
| 5 กล่อง | 50 cc | 155,000 |
ทำไมต้องที่ D’ Lovevery Clinic
การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและไว้วางใจได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจึงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคุณในทุกๆ ด้าน
- เป็นส่วนตัวและใส่ใจ ไม่ต้องรอนาน ไม่แออัด แพทย์ให้คำปรึกษาแบบ case-by-case ละเอียด ไม่เร่งรีบ
- สบายใจไม่มีแรงกดดัน ไม่มีเซลส์คอยปิดการขาย ไม่มีการบังคับซื้อคอร์ส
- จ่ายสบายเลือกได้ มีระบบมัดจำ แบ่งจ่ายได้ มี Shopee PayLater และผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิต
- ดูแลต่อเนื่องโดยแพทย์คนเดิม ติดตามผลกับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยตรง
- รีวิวจริงจากลูกค้าจริง รวมรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ไม่ใช่ดาราหรือ Influencer
- แพทย์ประสบการณ์สูงตรวจสอบได้
- คลินิกมาตรฐาน เดินทางสะดวก คลินิกผ่านการรับรอง มีที่จอดรถฟรี
- โปร่งใสและตรวจสอบได้ ข้อมูลรวดเร็ว เช็คคอร์สคงเหลือได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ทุกตัวผ่าน อย. ไทยและตรวจสอบได้

ปั้นหุ่นสวยในฝันให้เป็นจริง ปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้แล้ววันนี้ที่ D’ Lovevery Clinic
- สาขาพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง โทร 064-424-6526
- สาขา Crystal Design Center (CDC) โทร 095-236-4546
ปัญหา “แก้มแฮมสเตอร์” หรือแก้มกระรอก แล้วแต่จะเรียก ที่คนไข้มักกังวล คือภาวะที่ใบหน้าส่วนล่างดูบวมหรือยื่นออกมาคล้ายกระพุ้งแก้มของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กๆ ซึ่งชาวต่างชาติมักเรียกปัญหานี้รวมๆ ว่า “Trout Pout” หรือ “Overfilled” อันเกิดจากการฉีดสารเติมเต็มมากเกินไปหรือผิดเทคนิค จนทำให้ใบหน้าดูหนัก ไม่เป็นธรรมชาติ และสูญเสียความกลมกลืน แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับคนไข้ภายใต้การดูแลของเราอย่างแน่นอน เพราะเรายึดมั่นในหลักการ “ความงามที่เป็นธรรมชาติ” ด้วยการประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียด ใส่ใจในทุกมิติ และที่สำคัญคือ “รู้จักที่จะหยุดเมื่อพอดี” ในปริมาณที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้คือความงามที่สมดุลและดูดีอย่างยั่งยืนค่ะ
ความถี่ในการฉีดฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นชนิดของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด ไลฟ์สไตล์ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด อีกนัยนึงคือ คนไข้ที่มีปัญหาเยอะและต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมาก (หลาย cc) อาจจะต้องแบ่งการฉีดออกเป็นหลายเซสชั่น (เช่น 2 ครั้ง) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะสม เพราะการอัดฟิลเลอร์เข้าไปในปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียว อาจจะไม่เหมาะกับบางเคส ดังนั้น การปรึกษารับบริการกับแพทย์ที่มีประสบการณ์จริง เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ
ต้องบอกว่าจริงบางส่วน แต่มันไม่ใช่ทุกคน ทุกบริเวณ และทุกครั้งค่ะ
การที่ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยหลักที่ส่งผลคือ ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ บริเวณที่ฉีด การดูแลตัวเองหลังฉีด และกระบวนการสลายของร่างกายแต่ละบุคคล แม้ว่าการฉีดตอนอายุน้อยอาจมีส่วนช่วยให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้ดีขึ้นเล็กน้อยจากสภาพผิวที่สมบูรณ์กว่า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ
การดูแลผิวหน้าให้สวยสมบูรณ์แบบและอ่อนเยาว์นั้น ไม่ใช่แค่การดูแลผิวชั้นบนเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจว่าปัญหาเกิดจากชั้นผิวไหน เพื่อให้หมอเลือกโปรแกรมที่ ตรงจุด เช่น โปรแกรม Sculptra, Profhilo, Radiesse, Thermage FLX, Potenza, Oligio เหมาะกับการปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนังและไขมันตื้น, โปรแกรม Botox ใช้กับริ้วรอยจากการทำงานของกล้ามเนื้อ, โปรแกรม Ulthera ยกกระชับโครงสร้างลึกถึงชั้น SMAS, และ โปรแกรม Filler ช่วยเสริมสร้างและเติมเต็มโครงสร้างกระดูกและไขมันชั้นลึก การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินปัญหาในแต่ละชั้นผิวอย่างละเอียด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สวยงามและยั่งยืนค่ะ
การเลือกระหว่าง ฟิลเลอร์ กับ ซิลิโคน สำหรับปั้นก้นสวยขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้เป็นหลักค่ะ โดยปกติแล้วปัญหาก้นลีบที่คนไข้กังวลมักจะเป็นการขาดวอลลุ่มบริเวณส่วนบนของก้น หรือในทางการแพทย์คือบริเวณ กล้ามเนื้อ Gluteus Maximus ที่ทำให้ก้นดูแบน ไม่กลมมน ซึ่งเป็นคนละตำแหน่งกับสะโพกด้านข้าง (Hips) นะคะ หากคนไข้ต้องการ ผลลัพธ์ถาวร เพิ่มขนาดก้นให้ใหญ่กลมเด้งแบบสายฝอ และยอมรับการผ่าตัดใหญ่ได้ การเสริมซิลิโคน จะเป็นคำตอบที่เหมาะสมกว่าค่ะ แต่หากคนไข้ต้องการเพียง ความสวยที่เป็นธรรมชาติ เติมเต็มส่วนที่ขาดเล็กน้อย ไม่ต้องการผ่าตัด และมีเวลาพักฟื้นน้อย การเติมฟิลเลอร์ ก็จะตอบโจทย์มากกว่า แต่ต้องยอมรับว่าผลลัพธ์จะไม่ถาวรและต้องกลับมาเติมซ้ำในอนาคตค่ะ
“Facial Harmony Filler” ไม่ใช่เทคนิคที่เป็นความลับหรือมีใครเป็นเจ้าของค่ะ แต่มันคือ “ปรัชญา” และ “ศิลปะ” ในการปรับรูปหน้า ที่เปลี่ยนมุมมองจากการ “เติมเป็นจุดๆ” มาเป็นการ “ปั้นและออกแบบใบหน้าแบบองค์รวม” ค่ะ หัวใจสำคัญคือการที่แพทย์ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและสร้างความสมดุลให้ทุกส่วนประกอบบนใบหน้าดูกลมกลืนกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่แค่การเติมเต็มส่วนที่ขาด แต่คือการ คืนความอ่อนเยาว์ สร้างมิติที่สวยงาม และดึงความงามในแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุดของคนไข้ ออกมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการย้ำเตือนให้คนไข้เข้าใจว่า การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ แต่ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์อย่างแท้จริงค่ะ
คือ โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อ “ป้องกันและลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ” เช่น เวลายักคิ้ว ในขณะที่ ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ “เติมเต็มร่องลึกถาวร” ที่มองเห็นแม้จะทำหน้าเฉยๆ ค่ะ ในหลายกรณี การใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างครอบคลุมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์ในผู้ชายมีความแตกต่างจากผู้หญิงอย่างชัดเจนในเรื่องของเป้าหมายและเทคนิคค่ะ สำหรับผู้ชายจะเน้นการฉีดเพื่อเสริมสร้างความคมชัดของกรอบหน้า (Masculinization) เช่น การทำให้หน้าผากดูกว้างและตรง, สร้างสันจมูกให้คม, เพิ่มความกว้างและความเหลี่ยมของคาง, และสร้างแนวกรามให้คมชัดเป็นสัน เพื่อส่งเสริมโครงสร้างที่ดูแข็งแรงตามแบบผู้ชาย ในขณะที่ การฉีดในผู้หญิงจะเน้นการสร้างความโค้งมน อ่อนหวาน (Feminization) เช่น การทำให้หน้าผากโหนกนูน, สร้างโหนกแก้มให้ดูอิ่มเอิบ, ทำให้คางเรียวเป็น V-shape และปั้นปากให้อวบอิ่มสวยงามค่ะ
อย่างไรก็ตาม ในบริเวณอื่นๆ เช่น ใต้ตาและร่องแก้ม เทคนิคและเป้าหมายจะมีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากปัญหาเกิดจากการยุบตัวของโครงสร้างใต้ผิวหนังเหมือนกัน เป้าหมายหลักจึงเป็นการ “เติมเต็ม” เพื่อแก้ปัญหาร่องลึกและความโทรมให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น แต่ทั้งนี้ แพทย์จะยังคงพิจารณาปริมาณฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละเพศ และใช้เทคนิคการเกลี่ยที่พิถีพิถัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและส่งเสริมเอกลักษณ์ของคนไข้แต่ละคนได้ดีที่สุดค่ะ







