ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

สลายฟิลเลอร์ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ คลินิกไหนดี ใต้ตาเป็นก้อน ฉีดมาแล้วไม่เรียบเนียน สลายออกได้ เริ่มต้นที่ 5000 บาท

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังหาข้อมูล

ฉีดสลายฟิลเลอร์

ไม่มีเจตนาโปรโมทเครื่องมือแพทย์

รู้จักหมอต้าร์ ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ใบอนุญาต ว.49465

แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านปรับรูปหน้าและการชะลอวัย ประจำดีเลิฟเวอรี่คลินิก

ฉีดสลายฟิลเลอร์ กี่วันยุบ ราคาเท่าไหร่ เตรียมตัวอย่างไร คำถามที่พบบ่อย

พบแพทย์ก่อนทุกเคส แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีบวกเพิ่มภายหลัง ติดตามผลการรักษา
เลือกอ่านเนื้อหา

สวยเป็นธรรมชาติ=แพทย์ที่ใช่+ฟิลเลอร์ที่ถูกรุ่น+ปริมาณที่พอดี

คุณผู้หญิงคนไหนที่กำลังกลุ้มใจกับปัญหาฟิลเลอร์หลังจากไปฉีดมาจากที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิดรูป ไม่เป็นธรรมชาติ หรือรู้สึกไม่มั่นใจ เราเข้าใจความรู้สึกกังวลใจเหล่านี้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เพราะ “Every problem has a solution. You just have to be brave enough to find it.” การปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญคือทางออกที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้เรากลับมาสวย มั่นใจได้อีกครั้งค่ะ

การแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์ ทำได้ทั้งฉีดสลายและขูด

เมื่อเกิดปัญหาจากการฉีดฟิลเลอร์ มีสองวิธีหลักในการแก้ไขคือ “การฉีดสลายฟิลเลอร์” และ “การขูดฟิลเลอร์” ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อบ่งใช้และกระบวนการที่แตกต่างกัน

  • การฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร และเหมาะกับสาวๆ แบบไหน
    การฉีดสลายฟิลเลอร์เป็นการใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase HYAL) เพื่อย่อยสลายฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่ฉีดเข้าไปในร่างกาย เอนไซม์จะเข้าไปลดการกักเก็บน้ำ ไขมัน และทำลายการยึดเกาะของเนื้อฟิลเลอร์ ทำให้โมเลกุลฟิลเลอร์สลายตัวกลายเป็นน้ำและสารอื่นๆ ที่ร่างกายสามารถดูดซึมและกำจัดออกได้อย่างปลอดภัย
    วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีฟิลเลอร์เป็นก้อน ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ ต้องการแก้ไขรูปหน้า หรือมีอาการแพ้ฟิลเลอร์แท้ เช่น บวมแดง คัน
  • การขูดฟิลเลอร์คืออะไร ต้องทำเมื่อไหร่ดีนะ
    การขูดฟิลเลอร์เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่มีจุดประสงค์เพื่อกำจัดฟิลเลอร์ที่อยู่ใต้ผิวหนังออกด้วยวิธีทางกายภาพ มักจะทำเมื่อฟิลเลอร์ก่อให้เกิดปัญหา เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน ไหลย้อย อักเสบติดเชื้อ หรือในกรณีที่ไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์ได้ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ปลอม (ซิลิโคนเหลว พาราฟิน) ซึ่งเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสไม่สามารถสลายได้

ฟิลเลอร์แท้กับฟิลเลอร์ปลอม ต่างกันยังไงนะ และแก้ไขยังไงดี

การทำความเข้าใจประเภทของฟิลเลอร์ที่ฉีดไปมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกวิธีแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม

  • ฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid) สลายได้เอง แถมยังฉีดสลายได้ 100% เลยนะ
    ฟิลเลอร์แท้ชนิดกรดไฮยาลูรอนิกสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยใช้เวลาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ หากต้องการให้สลายเร็วขึ้น สามารถฉีดสลายด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ซึ่งสามารถสลายได้หมด 100% และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว
  • ระวังฟิลเลอร์ปลอม (ซิลิโคนเหลว, พาราฟิน) เอนไซม์สลายไม่ได้ ต้องขูดออกเท่านั้นจ้ะ
    ฟิลเลอร์กึ่งถาวรและฟิลเลอร์ถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน จะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติหรือไม่ตอบสนองต่อเอนไซม์ Hyaluronidase หากฉีดสารเหล่านี้เข้าไปและเกิดปัญหา การแก้ไขมักจะต้องใช้วิธีขูดออกหรือผ่าตัดเท่านั้น และอาจไม่สามารถกำจัดออกได้หมด 100% เนื่องจากบางส่วนอาจผสานกับเนื้อเยื่อภายในไปแล้ว
ฟิลเลอร์เติมเต็มผิวได้ยังไง แก้มตอบ ขมับตอบ ใต้ตาลึก
การเติมที่พอดีกับปัญหาถึงจะได้ความเป็นธรรมชาติ ไม่ Overfill ไม่เกิดภาวะหน้าล้นฟิลเลอร์

สัญญาณอะไรบ้างที่บอกว่าเราต้องแก้ไขฟิลเลอร์

มีหลายสาเหตุที่ทำให้ต้องพิจารณาแก้ไขฟิลเลอร์ ซึ่งแบ่งได้ดังนี้

  • อาการแบบไหนที่ต้องขูดหรือฉีดสลายฟิลเลอร์ออกบ้าง
    • บวม แดง อักเสบ หรือติดเชื้อ หากบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีอาการบวม แดง ร้อน หรือติดเชื้อ อาจเกิดจากการแพ้ฟิลเลอร์ หรือฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน
    • ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง หรือไม่สลายตัว ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนแข็ง ไม่สามารถนวดให้เรียบได้ หรือไหลย้อยผิดรูป เป็นสัญญาณว่าฟิลเลอร์ไม่ได้สลายตัวตามธรรมชาติ หรือเป็นฟิลเลอร์ปลอม
    • ฟิลเลอร์ไหลผิดตำแหน่ง ทำให้ใบหน้าผิดรูป หรือเกิดความไม่สมมาตร
    • ฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นฟิลเลอร์ปลอม หากทราบว่าฉีดฟิลเลอร์ปลอม (เช่น ซิลิโคนเหลว) แม้ยังไม่มีอาการรุนแรง ก็ควรพิจารณาแก้ไข เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังและกำจัดได้ยากขึ้นหากปล่อยไว้นาน
  • อันตรายที่เราต้องรู้ จากฟิลเลอร์ปลอมและสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน
    การฉีดฟิลเลอร์ปลอมส่งผลร้ายแรงต่อร่างกาย เช่น การติดเชื้อ อักเสบรุนแรง แพ้รุนแรง (Anaphylactic Shock) การอุดตันหลอดเลือด เกิดแผลเป็น เป็นก้อนแข็ง ทำให้เนื้อตาย หรือเกิดพังผืด หากไม่มีอาการแสดงในระยะแรก อาจยิ่งอันตราย เพราะฟิลเลอร์ปลอมจะทำลายโครงสร้างใบหน้า เกิดเนื้องอกหรือก้อนเนื้อแปลกปลอม และมีการติดเชื้อรุนแรงได้ในระยะยาว
  • ทำไมนะ ฟิลเลอร์ของเราถึงเป็นก้อนหรือไม่สวย
    ปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือไม่สวยงามอาจเกิดจากหลายสาเหตุ
    • คุณหมอขาดประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง เช่น ฉีดตื้นเกินไปในผู้ที่มีผิวบาง ทำให้เห็นฟิลเลอร์เป็นก้อนชัดเจน
    • เลือกใช้ฟิลเลอร์ผิดประเภท การนำฟิลเลอร์เนื้อแข็งมาฉีดในบริเวณผิวตื้น หรือบริเวณที่มีการขยับบ่อย เช่น ใต้ตาหรือริมฝีปาก อาจทำให้เกิดการเป็นก้อน
    • ใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป การใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากเกินความจำเป็นในบริเวณเล็กๆ อาจทำให้เกิดการสะสมเป็นก้อน หรือดูบวมผิดธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ ฉีดสลาย

จุดไหนบ้าง ที่เจอปัญหา ต้องฉีดสลายบ่อย

ฟิลเลอร์สามารถฉีดสลายหรือขูดออกได้ทุกจุดที่เป็นฟิลเลอร์แท้ (HA) โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าที่มักพบปัญหาบ่อยๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ

  • ฟิลเลอร์คาง ปัญหาคางเบี้ยว เสียทรง แก้ไขได้
    หากฟิลเลอร์คางเป็นก้อน แข็ง หรือผิดรูปทรง ทำให้คางเบี้ยว เสียทรง ดูไม่เป็นธรรมชาติ และไม่สามารถฉีดสลายได้ อาจต้องขูดออก
  • ฟิลเลอร์จมูกเคลื่อนที่ เป็นก้อน ทำยังไงดี
    ฟิลเลอร์จมูกที่ฉีดผิดตำแหน่งหรือเคลื่อนตัวจนเป็นก้อน อาจต้องขูดออกก่อนแก้ไขด้วยวิธีอื่น
  • ปัญหาฟิลเลอร์ปาก บวม ไม่สมมาตร
    หากฟิลเลอร์ปากมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่สมมาตร หรือเป็นก้อน สามารถฉีดสลายเพื่อแก้ไขรูปทรงได้
  • ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน นูน ไม่เรียบเนียน แก้ไขยังไงให้สวย
    เป็นจุดที่มักพบปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน เป็นไต นูนเห็นเป็นลำบ่อยที่สุด ซึ่งอาจเกิดจากฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน หรือเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง การฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase เป็นวิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดและได้ผลดี
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม, ขมับ และหน้าผาก ถ้ามีปัญหาต้องแก้ไข
    หากเกิดปัญหาเป็นก้อนหรือไม่เป็นธรรมชาติ สามารถขูดออกหรือสลายได้ในบริเวณร่องแก้ม การขูดหรือสลายฟิลเลอร์ในบริเวณขมับและหน้าผากจะทำในกรณีที่เป็นก้อน แข็งตัว หรือเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่สามารถสลายได้เอง โดยเฉพาะหน้าผากเป็นตำแหน่งที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเส้นเลือดและเส้นประสาทที่สำคัญอยู่มาก
  • แก้มส้ม ดอลลี่อาย ถ้าไม่ธรรมชาติ แก้ไขได้
    แม้จะไม่ใช่คำเรียกทางการแพทย์ แต่ปัญหาฟิลเลอร์บริเวณแก้มส้ม (โหนกแก้ม) หรือดอลลี่อาย (ถุงใต้ตาที่ทำให้ดูตากลมโต) หากฉีดแล้วเป็นก้อน ไม่เป็นธรรมชาติ มักจะเข้าข่ายปัญหาเดียวกับฟิลเลอร์ใต้ตาหรือร่องแก้ม ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์หรือขูดออก ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และอาการ
pie
    title จุดสลายฟิลเลอร์ยอดนิยม
    "ติ่งปากบน" : 45
    "ใต้ตา" : 35
    "ร่องแก้ม" : 30
อ้างอิงข้อมูลคนไข้ดีเลิฟเวอรี่คลินิก ตั้งแต่ปี 2022-2025

ทำไม 3 จุดนี้รับเคสฉีดสลายบ่อยที่สุด?

ทั้งสามจุดนี้ ได้แก่ ติ่งปากบน, ใต้ตา, และร่องแก้ม เป็นบริเวณที่คลินิกมักจะได้รับเคสแก้ไขสลายฟิลเลอร์จากที่อื่นมากที่สุด ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้ค่ะ:

  1. ติ่งปากบน (Cupid’s Bow/Lip Border):
    • ความต้องการรูปทรงที่ชัดเจนแต่เป็นธรรมชาติ: คนไข้มักต้องการให้ขอบปากดูอวบอิ่ม มีกระจับที่ชัดเจน แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ
    • การฉีดที่ผิดพลาดเห็นได้ชัด: หากฉีดมากเกินไป, ไม่สมดุล หรือเทคนิคไม่ดี จะทำให้ปากดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า “ปากเป็ด” (duck lips) ซึ่งเป็นที่สังเกตได้ง่ายมาก
    • ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้: หากฉีดในชั้นที่ไม่เหมาะสม ฟิลเลอร์อาจมีการเคลื่อนที่ไปยังบริเวณเหนือริมฝีปาก ทำให้ดูเหมือนมี “หนวด” หรือร่องปากดูตื้นและไม่สวยงาม
  2. ใต้ตา (Tear Trough/Undereye):
    • ความละเอียดอ่อนของผิวหนัง: บริเวณใต้ตามีผิวหนังที่บางและละเอียดอ่อนมาก จึงต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะและเทคนิคการฉีดที่ประณีต
    • โอกาสเกิดผลข้างเคียงสูง: หากฉีดผิดชั้น, มากเกินไป หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดปัญหา Tyndall Effect (เห็นฟิลเลอร์เป็นสีน้ำเงิน/เขียว), การบวมค้าง, เป็นก้อน, หรือดูไม่เป็นธรรมชาติได้ง่าย
    • ต้องการความเชี่ยวชาญสูง: การฉีดใต้ตาเป็นหนึ่งในจุดที่ยากที่สุด ต้องใช้ความเข้าใจกายวิภาคและประสบการณ์ของแพทย์สูงมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ
  3. ร่องแก้ม (Nasolabial Folds):
    • การฉีดที่ทำให้ดูบวม: หากฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป หรือฉีดในชั้นที่ตื้นเกินไป อาจทำให้บริเวณร่องแก้มดูนูน บวม และไม่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเวลาแสดงสีหน้า
    • ความต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: คนไข้ต้องการให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การทำให้ร่องแก้มหายไปจนหน้าดูแบนราบ หรือแข็งทื่อ
    • ฟิลเลอร์อาจกองรวมกัน: ในบางกรณี ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปอาจมีการรวมตัวกันเป็นก้อน ทำให้เกิดความไม่เรียบเนียนหรือเป็นแนวชัดเจนบริเวณร่องแก้ม
"Overfill Syndrome" หรือภาวะใบหน้าอูมผิดธรรมชาติจากการฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและทำให้ใบหน้าดูแปลก ไม่สมส่วน แทนที่จะดูอ่อนเยาว์ค่ะ

ตารางเปรียบเทียบ ผลที่จะเกิดขึ้นหากปล่อยฟิลเลอร์และสารแปลกปลอมทิ้งไว้ในร่างกาย

กรณีฟิลเลอร์แท้ (Hyaluronic Acid – HA)สารเหลว/ฟิลเลอร์ปลอม (ซิลิโคนเหลว, พาราฟิน)
เมื่อเวลาผ่านไปสลายไปเองตามธรรมชาติ 100% ภายใน 1-2 ปี ไม่ตกค้างไม่สลายไปไหน ยังคงอยู่ในร่างกายตลอดชีวิต
ผลกระทบต่อผิวอาจเกิดการคล้อยตัวลงตามแรงโน้มถ่วงเล็กน้อยเมื่อใกล้สลายหมด แต่ไม่ทำลายเนื้อเยื่อเดิม– ไหลย้อยไปบริเวณอื่น ทำให้รูปหน้าผิดเพี้ยน
– จับตัวเป็นก้อนแข็ง ผิวหนังขรุขระ
– เกิดพังผืดรัดตัว ทำให้เนื้อเยื่อผิดรูป
การอักเสบมีโอกาสเกิดการอักเสบน้อยมาก หากฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน– เกิดการอักเสบเรื้อรังได้ตลอดเวลา
– อาจติดเชื้อรุนแรงจนเป็นหนอง
– ผิวหนังบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนสี (แดง, คล้ำ)
การรักษา/แก้ไขฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase
เห็นผลเร็วใน 24-72 ชั่วโมง และสามารถฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้
ไม่สามารถฉีดสลายได้
การรักษาทำได้เพียง
การผ่าตัดขูดออก: ซึ่งไม่สามารถเอาออกได้ 100% และเสี่ยงต่อการทำลายเนื้อเยื่อปกติ
การใช้เลเซอร์: เพื่อสลายบางส่วนและลดการอักเสบ
การฉีดสเตียรอยด์: เพื่อควบคุมการอักเสบ
ความเสี่ยงระยะยาวปลอดภัยสูง ไม่มีความเสี่ยงระยะยาวเมื่อสลายหมดแล้ว– เสี่ยงต่อการเกิดเนื้อร้าย หรือมะเร็งในอนาคต
– รูปหน้าผิดรูปอย่างถาวร
– การอักเสบเรื้อรังที่ยากต่อการควบคุม
สลายฟิลเลอร์ คืออะไร ราคาเท่าไหร่ คลินิกไหนดี

สิ่งที่ต้อง “สูญเสีย” ไปกับการแก้ไขฟิลเลอร์ที่ผิดพลาด

ประเภทของการสูญเสียสิ่งที่ต้องเผชิญ
1. ความมั่นใจ (Confidence)– กังวลใจเรื่องใบหน้าที่ผิดรูป ไม่เป็นธรรมชาติ
– ไม่กล้าสบตาผู้คน ไม่ชอบถ่ายรูป หรือส่องกระจก
– เกิดความเครียดสะสมและความทุกข์ใจ
2. เวลา (Time)– เวลาที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลและคลินิกเพื่อแก้ไข
– เวลาที่ต้องลางานเพื่อไปพบแพทย์และทำการรักษา
– เวลาในการพักฟื้นและรอให้เนื้อเยื่อฟื้นตัว (อาจนานเป็นเดือน/ปี)
3. เงิน (Money)– ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้วางแผนไว้ เช่น ค่าฉีดสลาย, ค่าเลเซอร์
– ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมากในกรณีที่ต้องผ่าตัดขูดออก
– ค่ารักษาภาวะแทรกซ้อน (การอักเสบ, ติดเชื้อ)
– ค่าฟิลเลอร์เพื่อฉีดแก้ไขใหม่ในภายหลัง
4. โอกาส (Opportunity)– พลาดโอกาสสำคัญทั้งในชีวิตส่วนตัวและการงาน
– การเข้าสังคมและการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นกลายเป็นเรื่องยาก
– สูญเสียความสุขง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน
5. เนื้อเยื่อร่างกาย (Healthy Tissue)– (กรณีรุนแรง/สารเหลว) เสี่ยงต่อการสูญเสียเนื้อเยื่อปกติจากการผ่าตัดขูดออกอย่างถาวร
– อาจเกิดแผลเป็น หรือผิวหนังบริเวณที่รักษาไม่เรียบเนียนเหมือนเดิม

ขั้นตอนการแก้ไขฟิลเลอร์ การเตรียมตัวและการดูแลตัวเองหลังทำ

วางใจได้กับฟิลเลอร์ที่ได้คุณภาพ ปรับรูปหน้ากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ที่ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสลายหรือการขูดฟิลเลอร์ กระบวนการควรทำโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญและมีการวางแผนอย่างรอบคอบ

  • ก่อนจะฉีดสลายหรือขูดฟิลเลอร์ มีอะไรที่ควรรู้และเตรียมตัวบ้างนะ
    • ประเมินปัญหา คุณหมอจะตรวจสอบบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด พร้อมวางแผนการรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด
    • ข้อมูลฟิลเลอร์เดิม เราควรแจ้งคุณหมอให้มากที่สุดเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่เคยฉีดมา เช่น ปริมาณ (กี่ CC) ยี่ห้อ ตำแหน่งที่ฉีด ระยะเวลาที่ฉีดมานานเท่าไหร่ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นฟิลเลอร์แท้หรือไม่ หากมีกล่องฟิลเลอร์หรือรูปถ่ายกล่องมาด้วยจะช่วยให้คุณหมอประเมินและวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
    • เตรียมบริเวณฉีด ทำความสะอาดผิวบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • มาดูขั้นตอนการฉีดสลายฟิลเลอร์กัน
    คุณหมอจะฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase ในปริมาณที่เหมาะสมและในตำแหน่งที่ต้องการสลายฟิลเลอร์ เพื่อย่อยสลายฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid
  • แล้วกระบวนการขูดฟิลเลอร์ล่ะ เป็นยังไง
    การขูดฟิลเลอร์เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ใช้เทคนิคและเครื่องมือเฉพาะทางในการกำจัดฟิลเลอร์ออก มักทำในกรณีฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่สามารถสลายได้
  • การดูแลตัวเองหลังแก้ไขฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ปังที่สุด
    หลังการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสลายหรือขูดฟิลเลอร์ เราควรปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดผลข้างเคียง เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่รักษา และกลับมาตรวจตามนัด

ความปลอดภัยและข้อควรรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียง

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์

  • ฉีดสลายฟิลเลอร์ปลอดภัยไหม จะมีผลข้างเคียงอะไรรึเปล่า
    การฉีดสลายฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับว่าปลอดภัย หากดำเนินการโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังการใช้ปริมาณยาที่มากเกินไป เพราะอาจสลายคอลลาเจนที่มีอยู่เดิมได้ บางรายอาจมีอาการแพ้ยาฉีดสลายฟิลเลอร์ เช่น บวม แดง คัน ซึ่งควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที
  • การขูดฟิลเลอร์ปลอดภัยไหมนะ มีความเสี่ยงอะไรที่เราต้องรู้บ้าง
    การขูดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยหากทำโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในบริเวณใบหน้าที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญ การขูดฟิลเลอร์ต้องดำเนินการโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงกระทบกับเนื้อเยื่อสำคัญๆ ในบางกรณีอาจมีร่องรอยหรือริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์ได้

ตารางเปรียบเทียบ ผิว “หลังแก้ไข” จะกลับมาเหมือนเดิมแค่ไหน?

หัวข้อเปรียบเทียบการฉีดสลายฟิลเลอร์แท้ (HA Filler)การขูด/ผ่าตัด (สารเหลว, พังผืด)
สภาพผิว/เนื้อเยื่อเดิมกลับสู่สภาพเดิมได้เกือบ 100%
– เนื้อเยื่อไม่ถูกทำลาย เพราะเป็นการใช้เอนไซม์เข้าไปสลายโมเลกุลฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
– ผิวจะกลับมาเหมือนช่วงก่อนฉีด
ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ 100%
– ต้องสูญเสียเนื้อเยื่อดีบางส่วนไปพร้อมกับสารแปลกปลอมและพังผืด
– โอกาสเกิดผิวไม่เรียบ, เป็นคลื่น, หรือเป็นหลุมบุ๋มสูง
ความเรียบเนียนผิวจะกลับมาเรียบเนียนเป็นปกติ หลังอาการบวมจากการฉีดสลายหายไปมีโอกาสสูงที่ผิวจะขรุขระ ไม่เรียบเนียน หรือแข็งเป็นไต จากแผลเป็นภายในและการสูญเสียเนื้อเยื่อ
ความรู้สึก (สัมผัส)เนื้อเยื่อจะนิ่มเป็นปกติ ไม่มีความรู้สึกผิดแปลกอาจมีความรู้สึกชา, ผิวแข็งกระด้าง, หรือความรู้สึกรับสัมผัสลดลงในบริเวณที่ผ่าตัด
รูปทรง/ปริมาตร (Volume)ปริมาตรจะยุบลงกลับสู่สภาพตั้งต้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ อาจดูตอบลงชั่วคราวหากเคยฉีดในปริมาณมากรูปทรงจะเปลี่ยนไปอย่างถาวร อาจเกิดการยุบตัวหรือบุ๋มลงอย่างชัดเจนในบริเวณที่ขูดสารออกไป
แผลเป็นไม่มีแผลเป็น มีเพียงรอยเข็มเล็กๆ ซึ่งจะหายไปเองใน 1-3 วันมีแผลเป็นจากการผ่าตัด ซึ่งอาจซ่อนในตำแหน่งที่มองเห็นได้ยาก (เช่น ในปาก, ในผม) แต่เป็นแผลเป็นถาวร
ระยะเวลาฟื้นตัวสั้นมาก: อาการบวมเล็กน้อยหายใน 2-3 วัน
กลับสู่ปกติใน 1-2 สัปดาห์ ก็สามารถแต่งหน้า ใช้ชีวิตได้ตามปกติ และพร้อมสำหรับการรักษาขั้นต่อไป (เช่น ฉีดฟิลเลอร์ใหม่)
ยาวนาน: บวมช้ำนาน 1-2 สัปดาห์ หรือมากกว่า
ใช้เวลาหลายเดือน กว่าแผลผ่าตัดจะเข้าที่และเนื้อเยื่อจะฟื้นตัวเต็มที่
สรุปผลลัพธ์คืนสภาพเดิม: เป็นการรีเซ็ตผิวให้กลับสู่จุดเริ่มต้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแก้ไขให้สวยงามอีกครั้งการควบคุมความเสียหาย: เป็นการผ่าตัดเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออกและหยุดการลุกลาม ไม่สามารถทำให้กลับมาเหมือนเดิมได้สมบูรณ์

ข้อควรรู้ก่อนสลายฟิลเลอร์

  • ฉีดสลายฟิลเลอร์กี่ครั้งถึงจะหายดี ฉีดซ้ำได้ไหมเอ่ย
    ปกติแล้วการฉีดสลายฟิลเลอร์มักจะสลายได้หมดภายใน 1-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณ ชนิดของฟิลเลอร์ และตำแหน่งที่ฉีด หากคุณหมอประเมินแล้วว่าจำเป็น ก็สามารถฉีดสลายเพิ่มได้
  • หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ จะเห็นผลลัพธ์ภายในกี่วันนะ
    หลังฉีดสลายฟิลเลอร์ เอนไซม์จะออกฤทธิ์ทันทีไปจนถึง 48 ชั่วโมง โดยจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 24-72 ชั่วโมง อาจมีอาการบวมเข็มเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเองภายใน 7 วัน
  • ฉีดสลายฟิลเลอร์เสร็จแล้ว เราจะฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้เมื่อไหร่
    ไม่แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใหม่ทันที ควรเว้นระยะเวลาไว้ 5-7 วัน เพื่อให้ยาสลายฟิลเลอร์ออกฤทธิ์ให้หมดก่อน และเนื้อเยื่อเริ่มเข้าที่แล้วจึงปรึกษาคุณหมอเพื่อฉีดฟิลเลอร์ใหม่ได้
  • ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวเอง เช่น ประคบร้อน
    วิธีที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดในการทำให้ฟิลเลอร์สลายคือการฉีดสลายด้วย Hyaluronidase การสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวเองไม่สามารถทำได้ ส่วนความเชื่อเรื่องการประคบร้อนช่วยสลายฟิลเลอร์นั้น ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน การประคบร้อนไม่มีผลทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้นในบริเวณส่วนใหญ่บนใบหน้า ยกเว้นบริเวณที่มีการสัมผัสความร้อนบ่อยและการขยับเยอะ เช่น ปาก อาจทำให้สลายเร็วกว่าอายุจริงได้เล็กน้อย
เลือกแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง
แพทย์ที่ชำนาญจะเข้าใจกายวิภาคบนใบหน้าอย่างลึกซึ้ง และมี "ศิลปะ" ในการออกแบบการฉีดให้เหมาะกับเฉพาะบุคคล ไม่ใช่แค่การเติมให้เต็ม

เลือกคลินิกและคุณหมอ แก้ไขฟิลเลอร์ยังไงให้ปลอดภัย

เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเลือกคลินิกและคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

  • มาตรฐานคลินิกและประสบการณ์คุณหมอ สำคัญแค่ไหน
    ควรเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ปลอดเชื้อ สะอาด คุณหมอที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินการใช้ตัวยาและตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงผลข้างเคียง
  • เรื่องสำคัญของการใช้ยาแท้และฟิลเลอร์แท้
    ต้องใช้ยาที่เป็นเอนไซม์ Hyaluronidase ของแท้ ผ่าน อย. ตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ และเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. เท่านั้น ควรตรวจสอบและให้คุณหมอเปิดกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง พร้อมตรวจสอบชื่อยี่ห้อ รุ่น และเลขที่ล็อต (Batch Number) เพื่อความมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้และใหม่ 100%
  • อย่าลืมตรวจสอบรีวิวและความน่าเชื่อถือของคลินิกด้วยนะ
    ควรอ่านรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการเพื่อดูผลลัพธ์และความพึงพอใจ รวมถึงการรับผิดชอบหากเกิดปัญหา

สลายฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่

อยากสลายฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่
ระดับปัญหาราคาให้บริการ
พื้นที่เล็ก ปริมาณไม่เกิน 1CC เช่น คางเริ่มต้น 5,000.-
พื้นที่ขนาดกลาง ปริมาณไม่เกิน 2CC เช่นใต้ตา ร่องแก้มเริ่มต้น 7,000.-
พื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น เหมาทั่วใบหน้าเริ่มต้น 10,000.-
*ส่งภาพประเมิน หรือเข้าพบแพทย์ประเมินตรงจุดที่สุดปรึกษาฟรี
**รับสิทธิ์ส่วนลดเพิ่ม หากมีการเติมฟิลเลอร์หลังฉีดสลาย

ทำไมต้องที่ D’ Lovevery Clinic

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและไว้วางใจได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจึงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคุณในทุกๆ ด้าน

  • เป็นส่วนตัวและใส่ใจ ไม่ต้องรอนาน ไม่แออัด แพทย์ให้คำปรึกษาแบบ case-by-case ละเอียด ไม่เร่งรีบ
  • สบายใจไม่มีแรงกดดัน ไม่มีเซลส์คอยปิดการขาย ไม่มีการบังคับซื้อคอร์ส
  • จ่ายสบายเลือกได้ มีระบบมัดจำ แบ่งจ่ายได้ มี Shopee PayLater และผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิต
  • ดูแลต่อเนื่องโดยแพทย์คนเดิม ติดตามผลกับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยตรง
  • รีวิวจริงจากลูกค้าจริง รวมรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ไม่ใช่ดาราหรือ Influencer
  • แพทย์ประสบการณ์สูงตรวจสอบได้
  • คลินิกมาตรฐาน เดินทางสะดวก คลินิกผ่านการรับรอง มีที่จอดรถฟรี
  • โปร่งใสและตรวจสอบได้ ข้อมูลรวดเร็ว เช็คคอร์สคงเหลือได้ง่าย ผลิตภัณฑ์ทุกตัวผ่าน อย. ไทยและตรวจสอบได้
ดีเลิฟเวอรี่คลินิก รับชำระด้วย Shopee SPayLater

ความถี่ในการฉีดฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นชนิดของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด ไลฟ์สไตล์ และปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด อีกนัยนึงคือ คนไข้ที่มีปัญหาเยอะและต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณมาก (หลาย cc) อาจจะต้องแบ่งการฉีดออกเป็นหลายเซสชั่น (เช่น 2 ครั้ง) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะสม เพราะการอัดฟิลเลอร์เข้าไปในปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียว อาจจะไม่เหมาะกับบางเคส ดังนั้น การปรึกษารับบริการกับแพทย์ที่มีประสบการณ์จริง เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ต้องบอกว่าจริงบางส่วน แต่มันไม่ใช่ทุกคน ทุกบริเวณ และทุกครั้งค่ะ

การที่ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยหลักที่ส่งผลคือ ชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ บริเวณที่ฉีด การดูแลตัวเองหลังฉีด และกระบวนการสลายของร่างกายแต่ละบุคคล แม้ว่าการฉีดตอนอายุน้อยอาจมีส่วนช่วยให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้ดีขึ้นเล็กน้อยจากสภาพผิวที่สมบูรณ์กว่า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

การดูแลผิวหน้าให้สวยสมบูรณ์แบบและอ่อนเยาว์นั้น ไม่ใช่แค่การดูแลผิวชั้นบนเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจว่าปัญหาเกิดจากชั้นผิวไหน เพื่อให้หมอเลือกโปรแกรมที่ ตรงจุด เช่น โปรแกรม Sculptra, Profhilo, Radiesse, Thermage FLX, Potenza, Oligio เหมาะกับการปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนังและไขมันตื้น, โปรแกรม Botox ใช้กับริ้วรอยจากการทำงานของกล้ามเนื้อ, โปรแกรม Ulthera ยกกระชับโครงสร้างลึกถึงชั้น SMAS, และ โปรแกรม Filler ช่วยเสริมสร้างและเติมเต็มโครงสร้างกระดูกและไขมันชั้นลึก การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินปัญหาในแต่ละชั้นผิวอย่างละเอียด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สวยงามและยั่งยืนค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

“Facial Harmony Filler” ไม่ใช่เทคนิคที่เป็นความลับหรือมีใครเป็นเจ้าของค่ะ แต่มันคือ “ปรัชญา” และ “ศิลปะ” ในการปรับรูปหน้า ที่เปลี่ยนมุมมองจากการ “เติมเป็นจุดๆ” มาเป็นการ “ปั้นและออกแบบใบหน้าแบบองค์รวม” ค่ะ หัวใจสำคัญคือการที่แพทย์ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและสร้างความสมดุลให้ทุกส่วนประกอบบนใบหน้าดูกลมกลืนกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่แค่การเติมเต็มส่วนที่ขาด แต่คือการ คืนความอ่อนเยาว์ สร้างมิติที่สวยงาม และดึงความงามในแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุดของคนไข้ ออกมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการย้ำเตือนให้คนไข้เข้าใจว่า การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ใครก็ฉีดได้ แต่ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์อย่างแท้จริงค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

คือ โบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อเพื่อ “ป้องกันและลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับ” เช่น เวลายักคิ้ว ในขณะที่ ฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ “เติมเต็มร่องลึกถาวร” ที่มองเห็นแม้จะทำหน้าเฉยๆ ค่ะ ในหลายกรณี การใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนหน้าผากได้อย่างครอบคลุมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์อีกครั้งค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

การฉีดฟิลเลอร์ในผู้ชายมีความแตกต่างจากผู้หญิงอย่างชัดเจนในเรื่องของเป้าหมายและเทคนิคค่ะ สำหรับผู้ชายจะเน้นการฉีดเพื่อเสริมสร้างความคมชัดของกรอบหน้า (Masculinization) เช่น การทำให้หน้าผากดูกว้างและตรง, สร้างสันจมูกให้คม, เพิ่มความกว้างและความเหลี่ยมของคาง, และสร้างแนวกรามให้คมชัดเป็นสัน เพื่อส่งเสริมโครงสร้างที่ดูแข็งแรงตามแบบผู้ชาย ในขณะที่ การฉีดในผู้หญิงจะเน้นการสร้างความโค้งมน อ่อนหวาน (Feminization) เช่น การทำให้หน้าผากโหนกนูน, สร้างโหนกแก้มให้ดูอิ่มเอิบ, ทำให้คางเรียวเป็น V-shape และปั้นปากให้อวบอิ่มสวยงามค่ะ

อย่างไรก็ตาม ในบริเวณอื่นๆ เช่น ใต้ตาและร่องแก้ม เทคนิคและเป้าหมายจะมีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากปัญหาเกิดจากการยุบตัวของโครงสร้างใต้ผิวหนังเหมือนกัน เป้าหมายหลักจึงเป็นการ “เติมเต็ม” เพื่อแก้ปัญหาร่องลึกและความโทรมให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น แต่ทั้งนี้ แพทย์จะยังคงพิจารณาปริมาณฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละเพศ และใช้เทคนิคการเกลี่ยที่พิถีพิถัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและส่งเสริมเอกลักษณ์ของคนไข้แต่ละคนได้ดีที่สุดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย รวมถึงฟิลเลอร์ ที่เป็นกล่องๆ ที่ผ่าน อย. แบบที่เราคุ้นเคยกันนั้นจะค่อย ๆ สลายตัวเองตามกระบวนการปกติของร่างกายค่ะ โดยมีเอนไซม์มาค่อย ๆ ย่อยสลายฟิลเลอร์จนกลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็กมาก ๆ สุดท้ายจะถูกดูดซึมและขับออกจากร่างกายไปตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับของเสียอื่น ๆ จึงมั่นใจได้ว่า ไม่มีการตกค้างเป็นอันตราย หรือไหลไปสะสมที่อื่นแน่นอนค่ะ

คนไข้หลายคนเข้าใจว่าตอนแรกฟิลเลอร์มีลักษณะเป็น “เจล” เพราะคลินิกต้องเอาหลอดฟิลเลอร์ให้ดูก่อนฉีดอยู่แล้ว และสุดท้ายก็กลายเป็นน้ำ “ถูกขับออกจากร่างกายไป” อันนี้ก็ต้องบอกว่าถูกต้องเหมือนกันค่ะ แต่หมอขอขยายส่วนที่บอกว่ากลายเป็น “น้ำ” นิดนึงค่ะ

จริงๆ แล้วฟิลเลอร์ HA ไม่ได้สลายตัวกลายเป็น “น้ำ” (H₂O) โดยตรงค่ะ แต่กระบวนการที่ถูกต้องคือ

  1. จากเจลสู่โมเลกุลน้ำตาล: เอนไซม์ในร่างกายจะย่อยสลายเนื้อเจลของฟิลเลอร์ ให้กลายเป็นโมเลกุลที่เล็กลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายอยู่ในรูปของ “โมเลกุลน้ำตาล” ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสาร Hyaluronic Acid ค่ะ
  2. ร่างกายนำไปใช้และขับออก: หลังจากนั้น ร่างกายก็จะดูดซึมโมเลกุลน้ำตาลเหล่านี้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ หรือ ขับออกตามกระบวนการขับของเสียปกติของร่างกาย ซึ่งก็คือผ่านทางปัสสาวะหรือเหงื่อนั่นเองค่ะ

ดังนั้น ที่คนไข้เข้าใจว่ามันกลายเป็นของเหลวแล้วถูกขับออกนั้นถูกต้องเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้เป๊ะๆ ตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็คือ จากเจล กลายเป็นน้ำตาล แล้วจึงถูกขับออก นั่นเองค่ะ

มีอะไรสงสัยถามหมอได้อีกเลยนะคะ ยินดีตอบเสมอค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

เบื้องต้นควรฉีด 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 4 สัปดาห์ก่อนเพื่อให้ผิวฟื้นฟู จากนั้นสามารถทิ้งระยะในการฉีดได้โดยฉีดทุกๆ 6 เดือนนะคะ

การฉีด Profhilo บริเวณใบหน้าจำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 1 ไซริงค์ (2 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 25,000 บาทค่ะ แต่หากเป็นการฉีดบริเวณใบหน้าและลำคอ จำนวน 1 ครั้ง / ใช้ 2 ไซริงค์ (4 ml.) จะมีราคาอยู่ที่ 45,000 บาทค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

ใช้เวลารับบริการ:

20

นาที

ให้บริการโดย:

แพทย์ประจำ

Authenticity is the new luxury. Overfilling is obsolete

★★ ความประทับใจ ★★

facebook
Darinda Nina
Darinda Nina
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Lawleit Schneider
Lawleit Schneider
แนะนำเลย
21/07/2024
facebook
Jenifer Rich
Jenifer Rich
แนะนำเลย
28/06/2024
google
พิเชฐ ตันเจริญ
พิเชฐ ตันเจริญ
21/06/2024
facebook
Natanicha Charbumrung
Natanicha Charbumrung
แนะนำเลย
16/06/2024
google
นิภาพร บํารุงชาติ
นิภาพร บํารุงชาติ
16/06/2024
google
Darin dada
Darin dada
21/05/2024