HA Filler | Permanent Filler |
---|---|
👍ทำจากสาร Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติในร่างกาย | 👎ทำจากสารสังเคราะห์ เช่น ซิลิโคน พอลิเมทิลเมทาคริเลต (PMMA) และไฮดรอกซีอะพาไทต์ |
👍ค่อยๆ ละลายและสลายตัวไปเองตามธรรมชาติ ผลอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน | 👎ไม่สลายตัว ผลอยู่ได้นานหลายปีหรือถาวร |
👍สามารถปรับแก้รูปร่างได้หากไม่พอใจผลลัพธ์ | 👎แก้ไขรูปร่างได้ยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลยหลังฉีด |
👍หากเกิดภาวะแทรกซ้อน สามารถใช้เอนไซม์ละลายฟิลเลอร์ออกได้ | 👎หากเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การอักเสบ ติดเชื้อ หรือเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ จำเป็นต้องผ่าตัดนำออก |
– ราคาต่อเข็มถูกกว่า แต่ต้องทำซ้ำบ่อยกว่า | – ราคาต่อเข็มสูงกว่ามาก แต่ผลลัพธ์คงรูปนานกว่า |
– ภาวะแทรกซ้อนที่พบ ได้แก่ บวม ช้ำ ติดเชื้อ หลอดเลือดอุดตัน แต่พบได้ไม่บ่อย | – มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนมากกว่า เช่น การอักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อ การเคลื่อนที่ไปยังบริเวณอื่น เป็นต้น |
✅ผ่านการรับรอง แต่ต้องตรวจสอบรุ่น ยี่ห้อให้แน่ชัด | ❎ ไม่ผ่านการรับรองนำมาใช้ในการปรับรูปหน้า ทางการแพทย์ |
ถาม:
ซิลิโคนเหลว กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร
ตอบ:
ทำไมฉีดฟิลเลอร์ต้องทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เท่านั้น?
- ความปลอดภัย: แพทย์มีความรู้ด้านกายวิภาคศาสตร์อย่างลึกซึ้ง สามารถหลีกเลี่ยงหลอดเลือด เส้นประสาท และโครงสร้างสำคัญอื่นๆ ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
- การวินิจฉัยที่เหมาะสม: แพทย์สามารถประเมินลักษณะใบหน้าและผิวหนังของแต่ละบุคคล เพื่อกำหนดชนิด ปริมาณ และตำแหน่งของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุด
- เทคนิคที่ถูกต้อง: แพทย์ผ่านการฝึกอบรมเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้องและปลอดภัย เช่น การฉีดช้าๆ การกระจายฟิลเลอร์อย่างสม่ำเสมอ และการนวดเบาๆ หลังฉีด
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน: แพทย์เลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยและได้มาตรฐาน ลดความเสี่ยงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ปลอมหรือไม่มีคุณภาพ
- การจัดการภาวะแทรกซ้อน: หากเกิดภาวะแทรกซ้อน แพทย์มีความรู้และทักษะในการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที ช่วยลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือถาวร