ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

แผลฝังยาคุม จะเป็นคีลอยด์ไหม

การฝังยาคุมกำเนิดมีโอกาสเกิดคีลอยด์ได้ แต่น้อยมาก เนื่องจากเป็นเพียง แผลเจาะขนาดเล็ก (ประมาณ 2 มม.) ไม่ใช่แผลผ่าตัดใหญ่ ความเสี่ยงส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับ กรรมพันธุ์ของคนไข้ ว่าเป็นคนที่มีเนื้อเยื่อตอบสนองไวต่อการเกิดแผลเป็นหรือไม่ (สังเกตจากประวัติแผลเก่า เช่น แผลปลูกฝี) สิ่งสำคัญที่สุดคือ การดูแลแผลช่วง 7 วันแรกไม่ให้ติดเชื้อหรืออักเสบ หากแผลหายแล้วเริ่มมีอาการนูนแดง ให้รีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อ ฉีดลดคีลอยด์ ตั้งแต่เนิ่นๆ จะสามารถรักษาให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้ค่ะ


หมายเหตุ: คำตอบนี้ไม่ใช่การวินิจฉัยโรค กรุณาพบแพทย์หากมีอาการน่ากังวล

คีลอยด์มีกี่แบบ ฉีดคีลอยด์ ใกล้ฉัน คลินิก ใกล้ฉัน
รับถอดยาคุมแบบฝัง เอายาคุมแบบฝังออก คลินิกใกล้ฉัน

การฝังยาคุมใช้เข็มนำยา (Trocar) ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 2 มิลลิเมตร ทำให้เนื้อเยื่อบาดเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเดิมถึง 80% ลดโอกาสการสร้างพังผืดส่วนเกินได้ดีกว่า

ความสวยความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน หลายคนที่กำลังตัดสินใจจะฝังยาคุมกำเนิด หรือฝังมาแล้ว ก็มักจะกังวลว่า “แผลที่ท้องแขนจะเป็นแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์น่าเกลียดไหม” วันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ นะคะ

ทำความเข้าใจขนาดแผล “เล็กนิดเดียว” สบายใจได้เปราะหนึ่ง

ก่อนอื่นคนไข้ต้องทราบก่อนว่า การฝังยาคุมสมัยใหม่ (เช่น Implanon NXT) เครื่องมือที่ใช้จะมีลักษณะคล้ายเข็มฉีดยาขนาดใหญ่หน่อย ไม่ใช่การกรีดมีดผ่าตัดยาวๆ ค่ะ

  • แผลจะมีขนาดเล็กมาก เพียงแค่ 2-3 มิลลิเมตร เท่านั้น (เท่ารอยมดกัดหรือรอยสิวหัวใหญ่ๆ)
  • ส่วนใหญ่ ไม่ต้องเย็บแผล หมอจะใช้แค่พลาสเตอร์ยาปิดแผล (Steri-Strips) ดึงให้ปากแผลชิดกัน แล้วพันผ้าพันแผลทับ
  • ด้วยความที่แผลเล็ก แรงตึงผิวหนังน้อย โอกาสเกิดคีลอยด์จึงน้อยกว่าการผ่าตัดทั่วไปมากค่ะ

ใครบ้างที่มี “ความเสี่ยงสูง” ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ?

แม้แผลจะเล็ก แต่คำว่า “คีลอยด์” ขึ้นอยู่กับ พันธุกรรมและสภาพผิวของแต่ละบุคคล เป็นหลักค่ะ หมออยากให้คนไข้ลองเช็กตัวเองดูนะคะ:

  • คนที่มีประวัติเป็นคีลอยด์ง่าย: ลองสังเกตแผลเก่าๆ ในร่างกาย เช่น แผลปลูกฝี แผลเจาะหู หรือแผลผ่าตัดคลอด ถ้าเคยเป็นคีลอยด์ แผลฝังยาคุมก็มีโอกาสเป็นได้เช่นกันค่ะ
  • ตำแหน่งการวางยา: โดยปกติหมอจะฝังที่ท้องแขนด้านใน ซึ่งเป็นจุดที่ผิวหนังค่อนข้างบางและมีการเสียดสีบ้าง แต่โชคดีที่แรงตึงผิวบริเวณนี้น้อยกว่าหัวไหล่หรือหน้าอก โอกาสเกิดจึงน้อยกว่า แต่ก็ประมาทไม่ได้ค่ะ

เคล็ดลับดูแลแผล ให้เรียบเนียน สวยเป๊ะ

ช่วง 7 วันแรกสำคัญที่สุดค่ะ ถ้าไม่อยากให้แผลอักเสบจนกระตุ้นให้เกิดพังผืดหนาตัว (ต้นเหตุคีลอยด์) ต้องทำตามนี้ค่ะ:

  • ห้ามแผลโดนน้ำเด็ดขาด ในช่วง 3-7 วันแรก (ตามคำแนะนำของหมอแต่ละท่าน)
  • ห้ามแกะเกา ยิ่งเกา ยิ่งกระตุ้นการอักเสบ ยิ่งเสี่ยงคีลอยด์
  • กดแผลไว้ก่อน การพันผ้า Elastic Bandage ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก ช่วยลดบวมและห้ามเลือด ทำให้แผลสมานกันเร็วขึ้นค่ะ

ถ้าเริ่มนูน หรือเป็นคีลอยด์แล้ว แก้ยังไง?

ถ้าคนไข้สังเกตว่าแผลเริ่มแดง นูน แข็ง หรือคันผิดปกติหลังจากแผลหายแล้ว ไม่ต้องตกใจนะคะ มันรักษาได้ค่ะ

  • รีบกลับมาปรึกษาหมอ เพื่อ ฉีดตัวยาลดคีลอยด์ (Steroid Injection) เข้าไปที่แผล ยาจะช่วยยับยั้งการสร้างพังผืด ทำให้แผลยุบและนิ่มลงได้
  • อาจใช้แผ่นแปะซิลิโคน (Silicone Sheet) ร่วมด้วยเพื่อกดทับแผล

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย