คนไข้หลายคนอยากมีผิวหน้าที่เรียบเนียน ไร้ตำหนิ หนึ่งในวิธีที่หลายคนสนใจคือการใช้ ยาสลายไฝ แต่หมออยากจะเน้นย้ำว่า การตัดสินใจใช้ยาสลายไฝนั้นไม่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะอะไร? มาดูกันค่ะ (และขอยกเคสจากคนไข้ที่หมอเคยเจอนะคะ)
- ส่วนผสมอันตราย: ยาสลายไฝส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของ กรด (acids) หรือสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังได้ หากใช้ไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิด ผิวไหม้ รอยแผลเป็นถาวร หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ ได้เลยค่ะ
- ไฝบางชนิด…ไม่ใช่แค่ไฝ: ไฝบางชนิดอาจไม่ใช่แค่ไฝธรรมดา แต่เป็น เนื้องอกผิวหนัง (skin tumor) ที่อาจเป็นอันตราย การใช้ยาสลายไฝเอง อาจทำให้วินิจฉัยโรคล่าช้า และอาจทำให้การรักษายุ่งยากขึ้นนะคะ
- หมอผู้เชี่ยวชาญ…คือทางออก: วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ความงามที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยชนิดของไฝ และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม เช่น การผ่าตัด การใช้เลเซอร์ หรือการจี้ไฟฟ้า ซึ่งจะมีความแม่นยำและปลอดภัยกว่าค่ะ
- เคสคนไข้จริง: จากจุดเล็กๆ กลายเป็นคีลอยด์: หมอเคยเจอคนไข้ที่ใช้ยาสลายไฝเอง โดยที่ไม่ปรึกษาแพทย์ เริ่มจากไฝจุดเล็กๆ บนผิว แต่หลังจากใช้ยา ปรากฏว่าเกิด แผลเป็นนูน หรือคีลอยด์ (keloid) ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งขนาดประมาณ 1 ซม. เนื่องจากผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการอักเสบและสร้างเนื้อเยื่อมากเกินไป ทำให้ต้องเสียเงินและเวลาในการรักษาแผลเป็นเพิ่มเติม ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นผิวปกติได้ 100% ค่ะ
ลองนึกภาพว่าผิวของเราเป็นผ้าไหมที่บอบบาง หากเราใช้สารเคมีที่รุนแรงเกินไป ก็อาจทำให้ผ้าไหมเสียหายได้ แถมบางครั้งการแก้ไขรอยที่เสียหายก็ยากกว่าการดูแลรักษาตั้งแต่แรก ฉะนั้น การดูแลผิวหน้าจึงต้องอ่อนโยนและระมัดระวังเป็นพิเศษนะคะ









