จะรู้ได้ยังไงว่าหน้ามีพังผืด?
- คลำดูเองได้บ้าง
- สังเกตดูเวลาสัมผัสผิวหน้าแล้วเจอ “ก้อนเล็กๆ แข็ง ไม่เคลื่อนตามเนื้อ”
- กดแล้วตึงผิดปกติ พื้นผิวไม่ยืดหยุ่นเหมือนด้านข้างที่ไม่ได้ฉีด/ไม่ได้ร้อยไหม
- สังเกตการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า
- รู้สึกว่ารอยยิ้มขยับไม่คล่อง หน้าเบี้ยวเล็กๆ หรือผิวหนังบางจุด “บุ๋มหรือโค้งผิดรูป”
- เวลากลิ้งกล้ามเนื้อใต้ผิวหน้าจะมีบางส่วนติด ไม่ขยับตาม
- มีอาการผิดปกติหลังจากเวลาผ่านไปนานมาก
- อย่างที่หมอเจอบ่อย คือ “ไม่นึกมาก่อนว่าเกี่ยวกับของเก่าที่เคยฉีด ตอนนั้นหน้าโอเค แต่ผ่านมา 10-20 ปีเริ่มเปลี่ยน”
- ประเมินกับแพทย์
- บางกรณีต้องใช้การ “คลำ” จากแพทย์ที่มีความชำนาญ หรืออาจใช้ ultrasound ช่วยประเมินโครงสร้างใต้ผิว ซึ่งเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุด
- หมอจะเช็คว่าเป็นพังผืดจริง หรือเป็นฟิลเลอร์เก่า หรือเนื้อเยื่อแปลกปลอม
ทำไมถึงเป็นกันเยอะในกลุ่มนี้?
- สมัยก่อน สารเติมเต็ม ส่วนใหญ่เป็น “สารเหลว” (liquid silicone, polyacrylamide gel ฯลฯ) ที่ไม่ปลอดภัยและตกค้างไปตลอดชีวิต
- เทรนด์ ร้อยไหมทองคำ/ไหมละลาย ไม่มีการกำหนดจำนวนที่ชัดเจน หลายเคสร้อยเกินร้อยเส้น
- พอเวลาผ่านไป โครงสร้างผิวเปลี่ยนตามวัย และตัวสารพวกนั้นก็ก่อ “พังผืด-รอยแผลเป็นแข็งๆ” ใต้ผิว
- ปัจจุบัน คนไข้จะเริ่มรู้สึก “หน้าตึงแปลกๆ, กดดูเป็นก้อนหรือเป็นเส้นแข็งๆ, ยิ้มไม่ไหลลื่น, ผิวบางส่วนแข็งเหมือนมีอะไรฝังอยู่ หรือบุ๋ม”
หลายคนค่อยๆ รู้ตัวว่าหน้าตัวเองดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร ปัญาใหญ่ที่สุดของคนไข้กลุ่มนี้คือ อยากจะทำหัตถการอะไรในยุคนี้ก็จะเป็นเรื่องยาก ผิวไม่ตอบสนอง ไม่เห็นผล เห็นผลน้อย หรือบางหัตถการแพทย์ไม่แนะนำให้ทำ
อยากกำจัดพังผืด ต้องทำยังไง?
- พังผืดจากสารเหลวหรือไหมรุ่นเก่า แก้ไขยากกว่าหัตถการปัจจุบัน เพราะตัวสารแปลกปลอมและเส้นไหมฝังอยู่ในเนื้อนานมาก พังผืดที่ล้อมรอบจะหนาและแข็ง อาจต้องใช้เวลาหลายขั้นตอนและเทคนิคผสม เช่น การฉีดสลาย+ผ่าตัดเล็ก+ใช้เลเซอร์
- หากปล่อยทิ้งไว้นาน พังผืดจะยิ่งแข็ง เกาะยึดโครงสร้างใบหน้าให้ผิดรูป และการรักษาลำบากหรือไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิม 100% ได้
- ห้ามนวดแรงหรือใช้อุปกรณ์กระตุ้นเอง เพราะจะทำให้พังผืดหนาขึ้น
ปัญหาใหญ่!
ปัญหาใหญ่ที่สุดของคนไข้กลุ่มนี้คือ อยากจะทำหัตถการอะไรใหม่ๆ ในยุคนี้ก็จะเป็นเรื่องยากมาก เพราะผิวหนังและเนื้อเยื่อชั้นลึกไม่ตอบสนองเหมือนปกติ การฟื้นฟูก็ช้า เห็นผลน้อย หรือบางหัตถการคุณหมออาจไม่แนะนำให้ทำเลยด้วยซ้ำ
สาเหตุคือ พังผืดที่เกิดขึ้นทำให้เนื้อเยื่อไม่ยืดหยุ่น เส้นเลือดและระบบต่างๆ ถูกดึงรั้ง การกระจายตัวของฟิลเลอร์/ตัวยา/ไหมใหม่จึงทำได้ไม่ดี หรือการทำเลเซอร์ก็เสี่ยงเกิดแผลเป็นตามมาอีก
ดังนั้น กลุ่มนี้จึงต้องประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลอย่างระมัดระวัง อาจต้องมีการแก้ไขพังผืดก่อน หรือปรับเปลี่ยนหัตถการเป็นอย่างอื่นที่เหมาะสมกับสภาพผิวปัจจุบันค่ะ