ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

จะรู้ได้ยังไงว่าหน้าเรามีพังผืดหรือไม่มี

ในประสบการณ์ของหมอ มากกว่า 60% ของคนไข้ที่เข้ามาปรึกษาหา “พังผืด” ใต้ผิวหน้า คือกลุ่มผู้ที่มีอายุกว่า 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเมื่อย้อนถามลึกๆ มักเป็นกลุ่มที่ “เคย” ไปฉีดสารเติมเต็มสมัยก่อนมาแล้วกว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์รุ่นเก่า, ซิลิโคนเหลว หรือผ่านเทรนด์ร้อยไหมแบบจัดเต็มที่ฮิตกันช่วงหนึ่ง บางคนร้อยเข้าไปนับร้อยเส้น หรือใช้ไหมทองคำที่ขณะนั้นยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยชัดเจน มีวิธีประเมินได้เองเบื้องต้น แต่ถ้าให้แน่ใจและเจอทางออกที่เหมาะสมแนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจให้ละเอียดค่ะ

  1. คลำดูเอง
    • เจอก้อนแข็งใต้ผิว ไม่ขยับตามเนื้อ กดแล้วตึง ไม่ยืดหยุ่นเหมือนบริเวณอื่น
  2. สังเกตหน้าเปลี่ยน
    • รอยยิ้มขยับไม่คล่อง หน้าเบี้ยว หรือบางจุดบุ๋ม เวลากลิ้งผิวมีบางส่วนติด
  3. อาการผิดปกติหลังผ่านไปนาน
    • หลังหัตถการ 10-20 ปี หน้าแข็งๆ เปลี่ยนแปลกๆ
  4. ให้แพทย์ประเมิน
    • ตรวจคลำ หรือตรวจด้วย ultrasound เพื่อความแม่นยำ


หมายเหตุ: คำตอบนี้ไม่ใช่การวินิจฉัยโรค กรุณาพบแพทย์หากมีอาการน่ากังวล

จะรู้ได้ยังไงว่าหน้าเรามีพังผืดอยู่หรือเปล่า และจะแก้ไขยังไง
พังผืด คืออะไร ทำไมถึงเป็นปัญหากับคนวัย 50+

จะรู้ได้ยังไงว่าหน้ามีพังผืด?

  1. คลำดูเองได้บ้าง
    • สังเกตดูเวลาสัมผัสผิวหน้าแล้วเจอ “ก้อนเล็กๆ แข็ง ไม่เคลื่อนตามเนื้อ”
    • กดแล้วตึงผิดปกติ พื้นผิวไม่ยืดหยุ่นเหมือนด้านข้างที่ไม่ได้ฉีด/ไม่ได้ร้อยไหม
  2. สังเกตการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า
    • รู้สึกว่ารอยยิ้มขยับไม่คล่อง หน้าเบี้ยวเล็กๆ หรือผิวหนังบางจุด “บุ๋มหรือโค้งผิดรูป”
    • เวลากลิ้งกล้ามเนื้อใต้ผิวหน้าจะมีบางส่วนติด ไม่ขยับตาม
  3. มีอาการผิดปกติหลังจากเวลาผ่านไปนานมาก
    • อย่างที่หมอเจอบ่อย คือ “ไม่นึกมาก่อนว่าเกี่ยวกับของเก่าที่เคยฉีด ตอนนั้นหน้าโอเค แต่ผ่านมา 10-20 ปีเริ่มเปลี่ยน”
  4. ประเมินกับแพทย์
    • บางกรณีต้องใช้การ “คลำ” จากแพทย์ที่มีความชำนาญ หรืออาจใช้ ultrasound ช่วยประเมินโครงสร้างใต้ผิว ซึ่งเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุด
    • หมอจะเช็คว่าเป็นพังผืดจริง หรือเป็นฟิลเลอร์เก่า หรือเนื้อเยื่อแปลกปลอม

ทำไมถึงเป็นกันเยอะในกลุ่มนี้?

  • สมัยก่อน สารเติมเต็ม ส่วนใหญ่เป็น “สารเหลว” (liquid silicone, polyacrylamide gel ฯลฯ) ที่ไม่ปลอดภัยและตกค้างไปตลอดชีวิต
  • เทรนด์ ร้อยไหมทองคำ/ไหมละลาย ไม่มีการกำหนดจำนวนที่ชัดเจน หลายเคสร้อยเกินร้อยเส้น
  • พอเวลาผ่านไป โครงสร้างผิวเปลี่ยนตามวัย และตัวสารพวกนั้นก็ก่อ “พังผืด-รอยแผลเป็นแข็งๆ” ใต้ผิว
  • ปัจจุบัน คนไข้จะเริ่มรู้สึก “หน้าตึงแปลกๆ, กดดูเป็นก้อนหรือเป็นเส้นแข็งๆ, ยิ้มไม่ไหลลื่น, ผิวบางส่วนแข็งเหมือนมีอะไรฝังอยู่ หรือบุ๋ม”

หลายคนค่อยๆ รู้ตัวว่าหน้าตัวเองดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร ปัญาใหญ่ที่สุดของคนไข้กลุ่มนี้คือ อยากจะทำหัตถการอะไรในยุคนี้ก็จะเป็นเรื่องยาก ผิวไม่ตอบสนอง ไม่เห็นผล เห็นผลน้อย หรือบางหัตถการแพทย์ไม่แนะนำให้ทำ

อยากกำจัดพังผืด ต้องทำยังไง?

  • พังผืดจากสารเหลวหรือไหมรุ่นเก่า แก้ไขยากกว่าหัตถการปัจจุบัน เพราะตัวสารแปลกปลอมและเส้นไหมฝังอยู่ในเนื้อนานมาก พังผืดที่ล้อมรอบจะหนาและแข็ง อาจต้องใช้เวลาหลายขั้นตอนและเทคนิคผสม เช่น การฉีดสลาย+ผ่าตัดเล็ก+ใช้เลเซอร์
  • หากปล่อยทิ้งไว้นาน พังผืดจะยิ่งแข็ง เกาะยึดโครงสร้างใบหน้าให้ผิดรูป และการรักษาลำบากหรือไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิม 100% ได้
  • ห้ามนวดแรงหรือใช้อุปกรณ์กระตุ้นเอง เพราะจะทำให้พังผืดหนาขึ้น

ปัญหาใหญ่!

ปัญหาใหญ่ที่สุดของคนไข้กลุ่มนี้คือ อยากจะทำหัตถการอะไรใหม่ๆ ในยุคนี้ก็จะเป็นเรื่องยากมาก เพราะผิวหนังและเนื้อเยื่อชั้นลึกไม่ตอบสนองเหมือนปกติ การฟื้นฟูก็ช้า เห็นผลน้อย หรือบางหัตถการคุณหมออาจไม่แนะนำให้ทำเลยด้วยซ้ำ

สาเหตุคือ พังผืดที่เกิดขึ้นทำให้เนื้อเยื่อไม่ยืดหยุ่น เส้นเลือดและระบบต่างๆ ถูกดึงรั้ง การกระจายตัวของฟิลเลอร์/ตัวยา/ไหมใหม่จึงทำได้ไม่ดี หรือการทำเลเซอร์ก็เสี่ยงเกิดแผลเป็นตามมาอีก

ดังนั้น กลุ่มนี้จึงต้องประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลอย่างระมัดระวัง อาจต้องมีการแก้ไขพังผืดก่อน หรือปรับเปลี่ยนหัตถการเป็นอย่างอื่นที่เหมาะสมกับสภาพผิวปัจจุบันค่ะ

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย