ขั้นตอนการถอดเข็มยาคุมอย่างถูกต้องและปลอดภัย
- คลำหาเข็มยาคุมบริเวณท้องแขนเพื่อตรวจตำแหน่งที่ฝังไว้
- ทำความสะอาดบริเวณที่ฝังเข็มยาคุมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อเตรียมพื้นที่ให้ปราศจากเชื้อโรค
- ฉีดยาชาบริเวณรอบจุดที่ฝังเข็มยาคุม เพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างขั้นตอน
- กรีดเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณที่ฝังเข็มยาคุม ด้วยความระมัดระวัง
- ใช้เครื่องมือดึงเข็มยาคุมออกจากตำแหน่งที่ฝังไว้อย่างช้า ๆ
- หนีบและตรวจสอบให้มั่นใจว่าเข็มยาคุมถูกนำออกครบถ้วน
- ปิดแผลที่ถอดเข็มยาคุมอย่างเหมาะสม พร้อมปิดด้วยพลาสเตอร์หรือผ้าก๊อซ
- ให้คำแนะนำคนไข้ในการดูแลแผลหลังการถอด เช่น การล้างแผลอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลในช่วง 1-2 วันแรก และสังเกตอาการผิดปกติ เช่น การติดเชื้อ
แผลฝังยาคุมใหญ่แค่ไหน?
- แผลจากการฝังยาคุม
เมื่อตอนฝังยาคุม (ที่บริเวณท้องแขนด้านใน) แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฝังหลอดยาลงใต้ผิวหนัง แผลที่เกิดจากการฝังจะเล็กมาก โดยปกติเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 มิลลิเมตรเท่านั้น ปิดพลาสเตอร์หรือผ้าก๊อซ แผลจะหายเองในไม่กี่วัน - แผลตอนเอายาคุมออก
ตอนถอดออก แพทย์จะกรีดผิวหนังเปิดแผลเล็ก ๆ ความยาวประมาณ 2-4 มิลลิเมตร เพื่อดึงหลอดยาที่ฝังไว้ใต้ผิวหนังออก ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม หลังนำหลอดยาคุมออกแล้ว แผลจะถูกปิดด้วยพลาสเตอร์ (หรืออาจใช้แค่ผ้าปิดแผลกันน้ำ) - การดูแลแผลหลังถอด
หลังจากถอดหลอดยาคุม ควรดูแลแผลให้สะอาด ล้างด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาฆ่าเชื้อเบา ๆ และหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลในช่วง 1-2 วันแรก รวมถึงสังเกตว่าไม่มีอาการบวมแดงหรืออักเสบ ถ้ามีความผิดปกติ ให้รีบปรึกษาแพทย์ค่ะ - ฝังยาคุม แผลใหญ่จนต้องเย็บไหม?
การฝังยาคุมแผลเล็กมาก เต็มที่ก็ 5 มิลลิเมตร ส่วนมากไม่มีการเย็บแผล แต่ถ้ามีการเปิดแผลที่ใหญ่กว่านี้บางกรณีอาจจะมีการเย็บแผลได้
ขั้นตอนทั้งหมดดำเนินการโดยแพทย์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการถอดเข็มยาคุมค่ะ