ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

ฟิลเลอร์จากยุโรป อเมริกา เหมาะกับผิวคนไทยหรอคะ

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ตอบ:

หมอยกให้เป็นคำถามดีเด่น ประจำปี 2024 ของคนไข้ดีเลิฟเวอรี่คลินิก เลยค่ะ เพราะหมอเองเคยถามอาจารย์ด้วยประโยคลักษณะนี้เหมือนกัน

ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ มีผลิตภัณฑ์ความงาม มาให้แพทย์ได้เลือกใช้ในการดูแลผิวคนไข้เยอะมากๆ

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องมีงานวิจัยรองรับในระดับสากลก่อนค่ะ โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา แต่การศึกษาที่เจาะจงในคนเอเชียหรือคนไทยยังมีจำนวนจำกัด อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถใช้ได้กับผิวคนไทย แต่แพทย์ต้องปรับเทคนิคการฉีดและปริมาณให้เหมาะสมกับลักษณะผิวคนไข้เป็นรายบุคคลเหมือนเดิม

 

ผิวคนไทยกับผิวคนยุโรปต่างกันไหม

ความแตกต่างของผิวคนไทยกับชาวยุโรป/อเมริกา มีประเด็นสำคัญดังนี้ค่ะ

โครงสร้างผิวพื้นฐาน

  • ผิวคนไทยมีชั้น stratum corneum บางกว่า ทำให้ผิวบอบบางและไวต่อการระคายเคืองมากกว่า
  • มีต่อมไขมันมากกว่า ทำให้ผิวมันง่าย
  • มีเม็ดสี melanin มากกว่า ซึ่งส่งผลต่อการตอบสนองต่อการรักษา

การตอบสนองต่อ Filler & Biostimulator

  • โดยทั่วไป ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก FDA สหรัฐฯ หรือ CE mark ยุโรป มีความปลอดภัยสูง
  • แต่ต้องปรับขนาดและความลึกในการฉีดให้เหมาะกับผิวคนไทย
  • มักต้องใช้ปริมาณน้อยกว่าที่แนะนำในฉลากซึ่งอ้างอิงจากผิวคนตะวันตก

ข้อควรระวังเฉพาะสำหรับผิวคนไทย

  • มีโอกาสเกิดรอยดำหลังการอักเสบ (PIH) ได้ง่ายกว่า
  • การฟื้นตัวของผิวอาจใช้เวลานานกว่า
  • ต้องระวังเรื่องการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ซึ่งพบบ่อยในเชื้อชาติเอเชีย

คำแนะนำในการใช้

  • ควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อน (Start low, go slow) หลายๆโปรแกรมหมอจึงแนะนำว่าควรทำทีละกล่อง ทีละขวดก่อน ผิวตอบสนองดี เติมเพิ่มทีหลังก็ไม่สาย
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการศึกษาในคนเอเชีย
  • ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจโครงสร้างผิว

ProfhiloHarmonyCaRadiesse, และ Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มฟิลเลอร์และ biostimulator ที่ได้รับความนิยมในวงการความงาม โดยเฉพาะในเรื่องการฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งมีงานวิจัยรองรับในระดับสากล แต่การศึกษาที่เจาะจงในกลุ่มประชากรเอเชียหรือคนไทยยังมีจำนวนจำกัดเมื่อเทียบกับประชากรตะวันตก อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในเชิงวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่สามารถอ้างอิงได้ ดังนี้:


Profhilo

  • สารสำคัญ: Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูง
  • กลไกการทำงาน: เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว
  • งานวิจัย:
    • งานวิจัยในยุโรป เช่น การศึกษาของ Laurentis et al. (2019) พบว่า Profhilo ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและลดริ้วรอยในผู้ป่วยชาวยุโรป
    • มีการศึกษาที่แสดงว่า Profhilo มีประสิทธิภาพในกลุ่มคนเอเชีย โดยเฉพาะในเรื่องการปรับปรุงคุณภาพผิว (Journal of Cosmetic Dermatology, 2021).
  • ข้อสังเกตสำหรับคนไทย: Profhilo เหมาะกับผิวคนไทยที่ต้องการความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวโดยไม่เพิ่มปริมาตร (volume) มากเกินไป

HarmonyCa

  • สารสำคัญ: เป็นการผสมผสานระหว่าง Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxylapatite (CaHA)
  • กลไกการทำงาน: ช่วยเพิ่มปริมาตรผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
  • งานวิจัย:
    • HarmonyCa เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการศึกษาทางคลินิกในยุโรป เช่น การศึกษาของ Rivkin et al. (2022) พบว่าผลิตภัณฑ์นี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวในผู้ป่วยชาวยุโรป
    • ยังไม่มีงานวิจัยที่เจาะจงในกลุ่มคนเอเชีย แต่เนื่องจากส่วนประกอบหลักคือ CaHA ซึ่งมีการใช้อย่างแพร่หลายใน Radiesse (ดูด้านล่าง) จึงคาดว่าผลลัพธ์จะใกล้เคียงกัน
  • ข้อสังเกตสำหรับคนไทย: ต้องระวังเรื่องการฉีดในชั้นผิวที่เหมาะสม เนื่องจาก CaHA อาจทำให้เกิดการกระจายตัวที่ไม่สม่ำเสมอในผิวบาง

Radiesse

  • สารสำคัญ: Calcium Hydroxylapatite (CaHA)
  • กลไกการทำงาน: เป็นทั้งฟิลเลอร์และ biostimulator ที่ช่วยเพิ่มปริมาตรและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
  • งานวิจัย:
    • มีงานวิจัยจำนวนมากในยุโรปและอเมริกา เช่น การศึกษาของ Goldman et al. (2018) พบว่า Radiesse มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวและลดริ้วรอยในระยะยาว
    • การศึกษาที่เจาะจงในคนเอเชีย เช่น Asian Journal of Aesthetic Medicine (2020) พบว่า Radiesse มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจนในผิวคนเอเชีย แต่ต้องปรับปริมาณและเทคนิคการฉีดให้เหมาะสม
  • ข้อสังเกตสำหรับคนไทย: Radiesse อาจเหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนในเรื่องการยกกระชับ แต่ต้องระวังเรื่องการกระจายตัวของสารในผิวที่บางกว่า

Sculptra

  • สารสำคัญ: Poly-L-Lactic Acid (PLLA)
  • กลไกการทำงาน: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว โดยไม่เพิ่มปริมาตรทันที
  • งานวิจัย:
    • การศึกษาของ Vleggaar et al. (2014) พบว่า Sculptra มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวและลดริ้วรอยในผู้ป่วยชาวยุโรป
    • มีการศึกษาที่เจาะจงในคนเอเชีย เช่น Journal of Dermatologic Surgery (2019) พบว่า Sculptra มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจนในผิวคนเอเชีย แต่ต้องใช้เทคนิคการฉีดที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดก้อน (nodule)
  • ข้อสังเกตสำหรับคนไทย: Sculptra เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว แต่ต้องระวังเรื่องการกระจายตัวของสารในผิวที่บางกว่า