โลหะหนักในร่างกายคืออะไร?
โลหะหนัก คือ สารที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู และแคดเมียม เมื่อนำมาสะสมในร่างกายมากเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ค่ะ คนไข้บางคนอาจได้รับผ่านอาหาร น้ำดื่ม หรืออากาศที่มีมลพิษโดยไม่รู้ตัว
โลหะหนัก อยู่ใกล้ตัวเราแค่ไหน?
1. แต่งหน้าเป็นประจำ
เครื่องสำอางบางชนิดในอดีตอาจมีส่วนผสมของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ปัจจุบันมาตรฐานการผลิตจะควบคุมดีขึ้น แต่ของปลอมหรือที่ไม่ได้มาตรฐานบางอย่างก็อาจมีโลหะหนักได้ค่ะ ดังนั้น ถ้าเลือกใช้ของแท้ที่มี อย. ปลอดภัยกว่าค่ะ
2. ทำสีผมบ่อย ชอบทาเล็บ
สารเคมีในน้ำยาย้อมผมหรือน้ำยาทาเล็บบางแบรนด์อาจมีโลหะหนักปริมาณเล็กน้อย เช่น ตะกั่ว หรือสารในกลุ่มโลหะอื่น ๆ (แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยที่มาตรฐานกำหนด) ถ้าทำบ่อยและใช้อะไรที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีความเสี่ยงสะสมโลหะหนักได้จริง
3. ชอบทานอาหารจากภาชนะพลาสติก
ภาชนะพลาสติกคุณภาพต่ำ หรือการนำพลาสติกเข้าร้อนในไมโครเวฟ อาจปล่อยสารเคมีบางอย่าง เช่น สารฟาทาเลต (phthalate) หรือ Bisphenol A ที่ไม่ใช่โลหะหนักโดยตรง แต่มีผลต่อสุขภาพได้เช่นกัน ส่วนโลหะหนักอาจปนเปื้อนจากกระบวนการผลิตในพลาสติกบางชนิด แต่ความเสี่ยงน้อยกว่าการได้รับจากแหล่งอื่น
4. ชอบทานอาหารทะเล
อาหารทะเลบางชนิดโดยเฉพาะปลาตัวใหญ่ (ปลาทูน่า ปลาฉลาม ฯลฯ) อาจมี ปรอท สะสมปนเปื้อนเข้ามาได้จากแหล่งน้ำทะเลที่ปนเปื้อนโลหะหนัก เรียกว่า bioaccumulation จริงค่ะ ยิ่งทานเยอะหรือบ่อย ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้น
5. ใช้ชีวิตในเมืองที่มี PM2.5
ฝุ่น PM2.5 มีองค์ประกอบของโลหะหนักหลายชนิด เช่น ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู ฯลฯ คนที่อาศัยในเมืองที่มีมลพิษเยอะ หรือใกล้แหล่งอุตสาหกรรม ตรงนี้ เป็นสาเหตุจริงที่ทำให้เราสะสมโลหะหนักในร่างกายค่ะ
สาเหตุทั้งหมดนี้ “มีโอกาส” ทำให้สะสมโลหะหนักได้จริง โดยเฉพาะถ้าเจอในปริมาณมาก หรือใช้ของที่ไม่มีคุณภาพ ดังนั้นหมอแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน แล้วก็ระวังการสัมผัสหรือรับประทานจากแหล่งที่อาจปนเปื้อนบ่อย ๆ นะคะ
IV DRIP THERAPY ล้างสารพิษโลหะหนักในหลอดเลือด ช่วยได้จริงไหม?
IV Drip Therapy ที่โฆษณาว่าสามารถ “ล้างสารพิษโลหะหนัก” ในร่างกาย ส่วนใหญ่มักเป็นการให้น้ำเกลือ วิตามิน หรือสารต่าง ๆ ทางหลอดเลือดดำ โดยหวังผลในด้าน “ขับสารพิษ” หรือ “ดีท็อกซ์” ซึ่ง ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับอย่างชัดเจนว่ามีประสิทธิภาพจริงในการขับโลหะหนักออกจากร่างกาย
วิธีนี้ไม่ได้เป็นวิธีมาตรฐานในการรักษาภาวะพิษหรือมีโลหะหนักในร่างกายเกินมาตรฐานตามที่แนะนำในทางการแพทย์
ข้อควรระวังและข้อมูลสำคัญ
- มีความเสี่ยงเรื่องผลข้างเคียง เช่น ภูมิแพ้ การเสียสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย
- ความรู้สึกที่ “ดีขึ้น” หรือ “สดชื่นขึ้น” หลังรับ IV therapy บางอย่าง อาจมาจากการได้วิตามินเสริมหรือการพักผ่อน มากกว่าผลของการจับโลหะหนักจริงๆ
วิธีมาตรฐานสากลในการกำจัดโลหะหนัก Chelation Therapy
Chelation Therapy คือ กระบวนการรักษาที่ใช้ ยาจับโลหะหนัก (Chelating Agents) เช่น EDTA, DMSA, DMPS ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนักในกระแสเลือด จากนั้นร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะหรืออุจจาระ
- เป็น วิธีที่ได้รับการยอมรับและใช้ในทางการแพทย์สากล สำหรับกรณีที่พิษโลหะหนักรุนแรงหรือเกินค่าปลอดภัยจริง
- การรักษาด้วย Chelation Therapy ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะมีข้อบ่งชี้ ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด