ฆสพ.สบส. ๒๙๘๓/๒๕๖๗

ถาม:

ตรวจโลหะหนักในร่างกาย จำเป็นแค่ไหน

หมอต้าร์-exosome-สกินบูสเตอร์-ดีเลิฟเวอรี่คลินิก

(หมอต้าร์) พญ.อภิญญา เสาร์แก้ว

ว.49465

ตอบ:

การตรวจโลหะหนักในร่างกายจำเป็นสำหรับคนไข้ที่มีความเสี่ยงหรือมีอาการผิดปกติเป็นหลักค่ะ เช่น คนที่ทำงานในอุตสาหกรรม ใกล้สารเคมี หรืออาศัยในพื้นที่เสี่ยง โดยปกติหากไม่มีอาการหรือความเสี่ยง ไม่จำเป็นต้องตรวจ แต่ถ้าอายุเยอะแล้ว ยังไม่เคยตรวจมาก่อน อยากตรวจเพื่อความสบายใจก็ได้เช่นเดียวกัน การตัดสินใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยค่ะ


หมายเหตุ: คำตอบนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้น กรุณาทำนัดเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจและรับข้อมูลโดยละเอียด

แพ็คเกจตรวจเลือดหาฮอร์โมน

โลหะหนักในร่างกายคืออะไร?

โลหะหนัก คือ สารที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู และแคดเมียม เมื่อนำมาสะสมในร่างกายมากเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ค่ะ คนไข้บางคนอาจได้รับผ่านอาหาร น้ำดื่ม หรืออากาศที่มีมลพิษโดยไม่รู้ตัว

โลหะหนัก อยู่ใกล้ตัวเราแค่ไหน?

1. แต่งหน้าเป็นประจำ

เครื่องสำอางบางชนิดในอดีตอาจมีส่วนผสมของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ปัจจุบันมาตรฐานการผลิตจะควบคุมดีขึ้น แต่ของปลอมหรือที่ไม่ได้มาตรฐานบางอย่างก็อาจมีโลหะหนักได้ค่ะ ดังนั้น ถ้าเลือกใช้ของแท้ที่มี อย. ปลอดภัยกว่าค่ะ

2. ทำสีผมบ่อย ชอบทาเล็บ

สารเคมีในน้ำยาย้อมผมหรือน้ำยาทาเล็บบางแบรนด์อาจมีโลหะหนักปริมาณเล็กน้อย เช่น ตะกั่ว หรือสารในกลุ่มโลหะอื่น ๆ (แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยที่มาตรฐานกำหนด) ถ้าทำบ่อยและใช้อะไรที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีความเสี่ยงสะสมโลหะหนักได้จริง

3. ชอบทานอาหารจากภาชนะพลาสติก

ภาชนะพลาสติกคุณภาพต่ำ หรือการนำพลาสติกเข้าร้อนในไมโครเวฟ อาจปล่อยสารเคมีบางอย่าง เช่น สารฟาทาเลต (phthalate) หรือ Bisphenol A ที่ไม่ใช่โลหะหนักโดยตรง แต่มีผลต่อสุขภาพได้เช่นกัน ส่วนโลหะหนักอาจปนเปื้อนจากกระบวนการผลิตในพลาสติกบางชนิด แต่ความเสี่ยงน้อยกว่าการได้รับจากแหล่งอื่น

4. ชอบทานอาหารทะเล

อาหารทะเลบางชนิดโดยเฉพาะปลาตัวใหญ่ (ปลาทูน่า ปลาฉลาม ฯลฯ) อาจมี ปรอท สะสมปนเปื้อนเข้ามาได้จากแหล่งน้ำทะเลที่ปนเปื้อนโลหะหนัก เรียกว่า bioaccumulation จริงค่ะ ยิ่งทานเยอะหรือบ่อย ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้น

5. ใช้ชีวิตในเมืองที่มี PM2.5

ฝุ่น PM2.5 มีองค์ประกอบของโลหะหนักหลายชนิด เช่น ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู ฯลฯ คนที่อาศัยในเมืองที่มีมลพิษเยอะ หรือใกล้แหล่งอุตสาหกรรม ตรงนี้ เป็นสาเหตุจริงที่ทำให้เราสะสมโลหะหนักในร่างกายค่ะ

สาเหตุทั้งหมดนี้ “มีโอกาส” ทำให้สะสมโลหะหนักได้จริง โดยเฉพาะถ้าเจอในปริมาณมาก หรือใช้ของที่ไม่มีคุณภาพ ดังนั้นหมอแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน แล้วก็ระวังการสัมผัสหรือรับประทานจากแหล่งที่อาจปนเปื้อนบ่อย ๆ นะคะ

IV DRIP THERAPY ล้างสารพิษโลหะหนักในหลอดเลือด ช่วยได้จริงไหม?

IV Drip Therapy ที่โฆษณาว่าสามารถ “ล้างสารพิษโลหะหนัก” ในร่างกาย ส่วนใหญ่มักเป็นการให้น้ำเกลือ วิตามิน หรือสารต่าง ๆ ทางหลอดเลือดดำ โดยหวังผลในด้าน “ขับสารพิษ” หรือ “ดีท็อกซ์” ซึ่ง ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับอย่างชัดเจนว่ามีประสิทธิภาพจริงในการขับโลหะหนักออกจากร่างกาย

วิธีนี้ไม่ได้เป็นวิธีมาตรฐานในการรักษาภาวะพิษหรือมีโลหะหนักในร่างกายเกินมาตรฐานตามที่แนะนำในทางการแพทย์

ข้อควรระวังและข้อมูลสำคัญ

  • มีความเสี่ยงเรื่องผลข้างเคียง เช่น ภูมิแพ้ การเสียสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย
  • ความรู้สึกที่ “ดีขึ้น” หรือ “สดชื่นขึ้น” หลังรับ IV therapy บางอย่าง อาจมาจากการได้วิตามินเสริมหรือการพักผ่อน มากกว่าผลของการจับโลหะหนักจริงๆ

วิธีมาตรฐานสากลในการกำจัดโลหะหนัก Chelation Therapy

Chelation Therapy คือ กระบวนการรักษาที่ใช้ ยาจับโลหะหนัก (Chelating Agents) เช่น EDTA, DMSA, DMPS ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนักในกระแสเลือด จากนั้นร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะหรืออุจจาระ

  • เป็น วิธีที่ได้รับการยอมรับและใช้ในทางการแพทย์สากล สำหรับกรณีที่พิษโลหะหนักรุนแรงหรือเกินค่าปลอดภัยจริง
  • การรักษาด้วย Chelation Therapy ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะมีข้อบ่งชี้ ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

คำถามอื่นๆที่พบบ่อย

บริการของคลินิก