ปัญหาก้นลีบแบน ไม่ได้รูปทรงสวยงามเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้หญิงเรากังวลใจและเสียความมั่นใจได้ไม่น้อยเลย วันนี้หมอจะมาอธิบายให้ฟังแบบชัดๆ นะคะว่าระหว่างการเติมฟิลเลอร์กับการเสริมซิลิโคนที่ก้นมีความแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนจะเหมาะกับใครบ้าง
การเสริมก้นด้วย “ซิลิโคน”
วิธีนี้เป็นการผ่าตัดค่ะ พูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็จะ คล้ายกับการเสริมหน้าอกเลยค่ะ คือหมอจะเปิดแผลแล้วใส่ถุงซิลิโคนเกรดการแพทย์เข้าไปในตำแหน่งของกล้ามเนื้อก้นเพื่อเพิ่มขนาดและทำให้ก้นมีรูปทรงที่กลมมนขึ้นมา
- เหมาะกับใคร: เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการ เพิ่มขนาดก้นอย่างชัดเจน เปลี่ยนจากไซส์เล็กเป็นใหญ่แบบเห็นได้ชัด และต้องการ ผลลัพธ์ที่อยู่ถาวร ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อยๆ ค่ะ
- ข้อดี:
- ผลลัพธ์ถาวร: ทำครั้งเดียวสวยยาวๆ เลยค่ะ
- เพิ่มขนาดได้เยอะ: สามารถเลือกขนาดซิลิโคนได้ตามต้องการ ทำให้ได้รูปทรงก้นที่กลมสวยและมีขนาดใหญ่ชัดเจน
- ข้อควรรู้:
- เป็นการ ผ่าตัดใหญ่ ต้องมีการดมยาสลบ
- มีแผลเป็น ถึงแม้หมอจะซ่อนแผลให้ดีที่สุดก็ตาม
- ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน อาจจะหลายสัปดาห์ถึงเป็นเดือน และต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดในช่วงแรก เช่น การนอนคว่ำ หรือการนั่งบนหมอนรองก้นโดยเฉพาะ
- มีความเสี่ยงเรื่องพังผืดรัดซิลิโคน หรือซิลิโคนเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้ในอนาคต
การปั้นก้นด้วย “ฟิลเลอร์”
วิธีนี้ ไม่ใช่การผ่าตัด นะคะ แต่เป็นการใช้เทคนิคการฉีด “สารเติมเต็ม” ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นกลุ่ม Hyaluronic Acid (HA) ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับลำตัวโดยเฉพาะ ฉีดเข้าไปเพื่อเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป ช่วยปรับแก้ความบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ และปั้นรูปทรงให้สวยงามเป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับใคร: เหมาะสำหรับคนไข้ที่ ไม่ต้องการผ่าตัด กลัวการมีแผลเป็น หรือไม่มีเวลาพักฟื้นนานๆ ค่ะ และยังเหมาะกับคนที่ต้องการ ปรับรูปทรงก้นเพียงเล็กน้อย เติมส่วนที่บุ๋มให้เต็ม หรือต้องการความสวยที่เป็นธรรมชาติ ไม่ได้ต้องการให้ขนาดใหญ่ขึ้นแบบก้าวกระโดด
- ข้อดี:
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น: จะมีแค่รอยเข็มเล็กๆ ซึ่งจะหายไปเองค่ะ
- พักฟื้นน้อยมาก: หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เกือบจะทันที
- ความเป็นธรรมชาติสูง: หมอสามารถปั้นและปรับแก้รูปทรงเฉพาะจุดได้ละเอียด ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติกลมกลืนไปกับรูปร่างเดิมของคนไข้
- ข้อควรรู้:
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร: ฟิลเลอร์จะค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติใน 1-2 ปี ต้องกลับมาเติมซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ไว้
- หากต้องการเพิ่มขนาดมากๆ อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่เยอะ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมสูง
- ไม่สามารถเพิ่มขนาดให้ใหญ่มากๆ ได้เท่ากับการเสริมด้วยซิลิโคนในการทำครั้งเดียว