การผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบใต้ราวนมเป็นวิธีที่นิยมมาก เนื่องจากช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถวางซิลิโคนได้อย่างแม่นยำ และแผลผ่าตัดจะถูกซ่อนอยู่ใต้ราวนม ทำให้มองเห็นได้ยากเมื่อแผลหายดีแล้ว
แผลผ่าตัดและการดูแล
- ขนาดของแผลผ่าตัด
- แผลผ่าตัดใต้ราวนมมักมีความยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับขนาดของซิลิโคนที่ใช้และเทคนิคของศัลยแพทย์
- การเย็บแผลและการตัดไหม
- ปกติแผลจะถูกเย็บด้วยไหมละลายหรือไหมไม่ละลาย ขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์
- หากใช้ไหมไม่ละลาย จะต้องตัดไหมหลังจากผ่าตัดประมาณ 7-14 วัน
- หากใช้ไหมละลาย ไหมจะค่อย ๆ สลายไปเองในช่วง 2-4 สัปดาห์ โดยไม่ต้องตัดไหม
- โอกาสเกิดคีลอยด์หรือรอยแผลเป็น โอกาสเกิดคีลอยด์หรือแผลเป็นนูนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- พันธุกรรม: หากคุณมีประวัติเป็นคีลอยด์ง่าย โอกาสเกิดจะสูงขึ้น
- การดูแลแผล: การดูแลแผลที่ดี เช่น การหลีกเลี่ยงการดึงรั้งแผลหรือการติดแผ่นซิลิโคนเจล จะช่วยลดโอกาสเกิดแผลเป็น
- ตำแหน่งแผล: แผลใต้ราวนมมักมีโอกาสเกิดคีลอยด์น้อยกว่าแผลบริเวณอื่น เนื่องจากผิวหนังบริเวณนี้มีความตึงน้อยกว่า
การทำ Pico Laser เพื่อลดรอยแผลเป็น
- Pico Laser เป็นเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดรอยแผลเป็น รอยดำ หรือรอยแดงจากแผลผ่าตัด
- เหมาะสำหรับการลดรอยแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นรอยดำหรือรอยแดง แต่หากเป็นคีลอยด์ที่นูนขึ้นมา อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การฉีดยาสเตียรอยด์
- การทำ Pico Laser ควรเริ่มหลังจากแผลหายสนิทแล้ว (ประมาณ 1-3 เดือนหลังผ่าตัด) เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อแผล
วิธีลดโอกาสเกิดแผลเป็น
- ใช้แผ่นซิลิโคนเจลหรือครีมลดรอยแผลเป็น
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงบริเวณแผล
- หลีกเลี่ยงการดึงรั้งหรือกดทับบริเวณแผล
- ปรึกษาแพทย์หากแผลเริ่มมีลักษณะนูนผิดปกติ