หลังฉีดโบท็อกบริเวณบ่า-ไหล่ ว่าสามารถไปทำ ShockWave (Acoustic/Extracorporeal Shock Wave Therapy: ESWT) ต่อได้ไหม คำตอบสั้นๆ คือ “มีข้อควรระวัง” และส่วนใหญ่แนะนำให้ “เว้นช่วงก่อน” ค่ะ
โบท็อกบ่าไหล่คืออะไร? ทำไปเพื่ออะไร
- ใช้คลายกล้ามเนื้อบริเวณ Trapezius หรือกลุ่มบ่า-ไหล่ที่ตึงหนา
- เป้าหมายคือให้บ่าดู เล็กลง เรียวขึ้น และลดอาการ ตึง/ปวดไหล่-คอ
- ตัวยาโบทูลินัมท็อกซินต้องใช้เวลา 3–14 วัน เพื่อเริ่มเห็นผลชัด และจะคงที่ราว 2–4 สัปดาห์
หมอเน้นว่าช่วงแรกหลังฉีด ตัวยายัง “จัดตำแหน่ง” อยู่ การกดนวดแรงหรือการกระแทกอาจทำให้การกระจายตัวยา ผิดตำแหน่ง ได้ค่ะ
ShockWave คืออะไร และมีผลต่อโบท็อกไหม
- ShockWave เป็นพลังงานคลื่นกระแทกความถี่เฉพาะ ช่วยลดพังผืด กระตุ้นการไหลเวียนและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- แม้ไม่ได้ “ฉีดเข้าไป” แต่เป็นการส่งพลังงานจากภายนอกลงลึกค่อนข้างแรง
- ความเสี่ยงหลักหลังฉีดโบท็อกใหม่ๆ คือ
- ตัวยาเคลื่อนตำแหน่ง จากบริเวณที่ฉีด
- เกิด ช้ำ/บวมเพิ่ม หรือระคายเคืองกล้ามเนื้อที่เพิ่งฉีด
เว้นช่วงเท่าไรถึงจะปลอดภัย
- คำแนะนำทั่วไปของหมอ:
- หลังกฉีดโบท็อกบ่าไหล่ให้เว้น ShockWave ประมาณ 7–14 วัน
- ถ้าโดสสูงหรือทำเพื่อความสวยงามพร้อมลดปวดหนักๆ แนะนำเว้น 2 สัปดาห์เต็ม เพื่อให้ตัวยาเซ็ตตัวดี
- หากจำเป็นต้องทำก่อนช่วงนี้:
- เลือกทำในบริเวณที่ ไม่ทับจุดฉีด และให้ผู้ทำปรับ พลังงานเบา-ปานกลาง
- หลีกเลี่ยงการกด/ยิงตรงๆบนแนวที่ฉีดในระยะ 5–7 วันแรก เป็นอย่างน้อย
แล้ว “นวด” แบบอื่นทำได้ไหม
- 24 ชั่วโมงแรก: เลี่ยงการนวดทุกชนิดบริเวณฉีด
- 48–72 ชั่วโมง: นวดเบาๆ รอบๆ บริเวณที่ไม่ได้ฉีดได้ แต่ยังไม่แนะนำการกดลึก/คลาย Trigger point ตรงจุดฉีด
- หลัง 7–14 วัน: ทำได้ค่อนข้างปลอดภัย รวมถึง ShockWave, Deep tissue, หรือ กายภาพบำบัด แต่ควรแจ้งผู้ทำว่าพึ่งฉีดโบท็อกมา